“เวียดนาม” เล็งดันส่งออกกาแฟไปยังแอฟริกา

สำนักงานส่งเสริมการค้า กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) และสำนักงานการค้าเวียดนามในตลาดแอฟริกา จัดสัมมนาให้คำปรึกาธุรกิจที่จะทำการส่งออกกาแฟไปยังตลาดแอฟริกา งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผ่านการประชุมออนไลน์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศแอลจีเรีย อียิปต์ โมร็อกโกและไนจีเรีย แบ่งปันประสบการณ์ในการส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟไปยังตลาดแอฟริกา อาทิ คุณภาพ วิธีการชำระเงิน การขนส่งและการประกันภัย เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนประชากรของแอฟริกามีอยู่ราว 1.4 พันล้านคนและมีความต้องการนำเข้าสินค้าหลากหลายประเภท ด้วยเหตุนี้จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพต่อผลิตภัณฑ์เวียดนาม โดยเฉพาะกาแฟ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าแอฟริกานำเข้ากาแฟ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนามนับว่าเป็น 1 ใน 5 ซัพพลายเออร์กาแฟรายใหญ่ของตลาด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-eyes-to-expand-coffee-exports-to-africa/234083.vnp

“ตลาดสปป.ลาว” เนื้อหอมนักลงทุนเวียดนาม

คุณ Le Thi Phuong Hoa ที่ปรึกษาการค้าเวียดนามในประเทศสปป.ลาว กล่าวว่าตลาดสปป.ลาว ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักลงทุนชาวเวียดนามจำนวนมาก เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นประเทศเพื่อนบ้านและสปป.ลาวได้การรับรองจากประเทศผู้ส่งออก นอกจากนี้ สินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสปป.ลาว ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในอัตราศูนย์และอยู่ในความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) รวมถึงข้อตกลงการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า พบว่าในปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกไปยังตลาดสปป.ลาว มีมูลค่า 594.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้าจากสปป.ลาวเพิ่มขึ้น 69.8% อยู่ที่ 778.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี เวียดนามได้ลงทุนในสปป.ลาว อยู่ที่ราว 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 417 โครงการ ทำให้เวียดนามขึ้นมาเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ และสปป.ลาวให้ความสำคัญกับนักลงทุนชาวเวียดนามในหลายด้านด้วยกัน อาทิ การเกษตรปลอดพิษ การผลิตและแปรรูป เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1269814/laos-market-favoured-by-many-vietnamese-investors-trade-counsellor.html

“เมืองก่าเมา” มั่นใจบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติเมืองก่าเมา (Ca Mau) แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ภาคเกษตร อุตสาหกรรมและบริการ ขยายตัว 6.41%, 0.61% และ 7.03% ตามลำดับ ในขณเะที่การส่งออกขยายตัว 53% คิดเป็นมูลค่า 728 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ คุณ Huynh Quoc Viet ประธานคณะกรรมการประชาชนของจังหวัด กล่าวถึงแนวทางการส่งเสริมเพื่อจะบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภายในปีนี้และการศึกษาแผนการดำเนินงาน รวมถึงตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ อยู่ที่ 7% นอกจากนี้ ยังส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตและการค้า ตลอดจนส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาดที่เวียดนามลงนามข้อตกลงการค้าเสรีไว้

อย่างไรก็ดี ได้มีการขอความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนของจังหวัด วางตำแหน่งอันดับของดัชนีการบริหารงานภาครัฐ (PAPI) และดัชนีการปฏิรูประเบียบราชการ (PAR-index)

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1269649/ca-mau-confident-of-achieving-economic-growth-targets.html

“เวียดนาม” ขึ้นแท่นอันดับ 2 ช้อปปิ้งออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทสตาร์ทอัพด้านการขนส่งสินค้า “Ninja Van Vietnam” ได้เปิดเผยรายงานการวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน ชี้ให้เห็นว่าตลาดเวียดนามเป็นประเทศชั้นนำที่มีการซื้อสินค้าออนไลน์เฉลี่ย 104 ครั้งต่อปี และปัจจุบันมีสัดส่วน 15% ของการทำธุรกรรมซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศไทย 16% ทั้งนี้ ตามรายงานยังบ่งชี้ว่าปีนี้ คนเวียดนามซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ มีจำนวนมากกว่า 51 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ยอดใช้จ่ายในการช้อปปิ้งออนไลน์อยู่ที่ 12.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่าง พบว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ 73% ซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นประจำ และ 59% นิยมสั่งซื้อสินค้าหรือซื้อสินค้าบ่อยครั้งบนเว็บไซต์ต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-comes-second-in-sea-for-online-shopping-post957465.vov

“แบงก์ชาติเวียดนาม” ขายเงินสกุลดอลลาร์ เหตุรักษาตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ตามข้อมูลของบริษัท Viet Dragon Securities Company (VDSC) เปิดเผยว่าธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ได้ทำการขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ราว 12-13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศ ซึ่งมูลค่าเงินข้างต้นนั้นคิดเป็นสัดส่วน 11% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเวียดนาม ปัจจุบันทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นกันชนสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและช่วยให้รองรับแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอก ทั้งนี้ ธนาคารกลางเวียดนาม มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของการลดค่าเงินดองเวียดนาม และรักษาเสียรภาพของอุปสงค์-อุปทานเงินดอลลาร์ในตลาดแลกเปลี่ยนในประเทศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1269358/central-bank-sold-greenback-to-stabilise-forex-market.html

สถาบัน CIEM ชี้ทิศทางเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 2565

สถาบัน Central Institute for Economic Management (CIEM) ได้แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้จะขยายตัวสูงถึง 6.9% ในกรณีฉากทัศน์ที่ดี (Best Case Scenario) ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 7% ในปีนี้ ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.7% ตลอดจนการส่งออกขยายตัว 16.3% และดุลการค้าราว 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สถาบัน CIEM ระบุว่ายังมีปัจจัยหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงครึ่งหลังของปี อาทิ ความสามารถในการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 สายพันธ์ใหม่และโรคอื่นๆ การดำเนินงานตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยอื่นๆ เช่น ผลประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามลงนามไว้และการจัดการความเสี่ยงทางด้านการค้าและเทคโนโลยีกับประเทศมหาอำนาจของโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/ciem-provides-two-scenarios-for-vietnam-s-economic-growth-this-year-2040431.html

“เวียดนาม-ยูเค” ยอดการค้าระหว่างประเทศ แตะ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของสำนักงานตลาดยุโรป-สหรัฐฯ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าในปีที่แล้ว การส่งออกและการนำเข้าระหว่างเวียดนาม-สหราชอาณาจักร (UK) มีมูลค่าอยู่ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และจากการคาดการณ์ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ตัวเลขของการค้าทั้งสองประเทศจะสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุหลักมาจากการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหราชอาณาจักร-เวียดนาม (UKVFTA) ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรคาดว่าจะฟื้นตัว หลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดและรัฐบาลฯ ยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ เริ่ม 18 มี.ค.65 ทำให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสแก่ผู้ส่งออกเวียดนาม โดยเฉพาะตลาดยูเคที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามในยุโรป รองจากเยอรมนีและเนเธอแลนด์ นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของสหราชอาณาจักรไปยังเวียดนามในปี 2564 อยู่ที่ 4.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นสองเท่าของมูลค่าก่อนที่จะก่อตั้งหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1268982/viet-nam-uk-trade-expected-to-reach-us-10-billion.html