นายกฯ สปป.ลาวแนะเจ้าหน้าที่รัฐปฏิรูปการลงทุนของรัฐป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ได้บอกกับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการลงทุนของภาครัฐให้มีการปฏิรูปการลงทุนของรัฐและดูแลให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเสริมสร้างเศรษฐกิจมหภาคและป้องกันวิกฤตทางด้านการเงินของสปป.ลาวที่อาจส่งผลกระทบหากไม่รีบแก้ไขคำแนะนำของนายกฯ เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานออกมาว่า การลงทุนของรัฐบาลในหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่สามารถให้ผลได้เต็มที่ บางโครงการใช้เงินลงทุนสูงเกินสมควรในขณะที่หลายโครงการไม่จำเป็นต้องลงทุน ปัญหาดังกล่าวทำให้การขาดดุลงบประมาณขยายตัวมากขึ้นและหนี้ก็เพิ่มขึ้นในระดับสูง การใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองได้สร้างความตึงเครียดด้านงบประมาณและการระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางของสปป.ลาวลาวแย่ลง ภายหลังจากการประชุมนายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงขั้นตอนที่จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อโอกาสในการดึงดูดนังลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_PM_26.php
โรงไฟฟ้า 2 แห่งในสปป.ลาวมีแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กัมพูชา
การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่งจะเริ่มในปลายปีนี้ในแขวงเซกองทางตะวันออกเฉียงใต้ของสปป.ลาวซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งแรกจะสร้างโดย บริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด มีกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 1,800 เมกะวัตต์ โรงงานดังกล่าวบริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด จะลงทุนประมาณ 3-4 พันล้านเหรียญสหรัฐในโรงไฟฟ้ารวมถึงการสร้างสายไฟเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชา ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่สองจะสร้างโดยบริษัทจากจีน มีแผนจะลงทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ไม่ได้สร้างสายกระแสไฟฟ้าแต่ซึ่งจะร่วมมือกับElectricite du Laos (EDL) ในการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังกัมพูชา โดยโรงงานแห่งที่สองมีกำลังผลิตไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ กระแสไฟฟ้ากว่า 600 เมกะวัตต์ จะถูกส่งออกไปยังกัมพูชา เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ กล่าวว่าโรงงานเหล่านี้จะเปิดดำเนินการและเริ่มส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชาในปี 2568 ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในแขวงและภาพเศรษฐกิจของประเทศ
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Two25.php
สปป.ลาวคาด การพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะเริ่มดำเนินการในเร็ว ๆ นี้
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในแขวงหลวงน้ำทาและอุดมไซจะดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังดำเนินการเจรจาข้อตกลงโครงการ ในการประชุมประจำปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแผนการและการลงทุน ได้บรรยายสรุปความคืบหน้าของโครงการเหล่านี้ เมื่อการเจรจาสิ้นสุดลงจะดำเนินการในขั้นตอนการร่างสัญญาสัมปทาน โดยเมืองอัจฉริยะจะได้รับการพัฒนาโดยบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) การประชุมได้ทบทวนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ รวมถึงทางรถไฟสปป.ลาว – จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียง ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทางด่วนระยะที่ 1 เวียงจันทน์ – วังเวียง จะเชื่อมเมืองหลวงของสปป.ลาวกับบ่อเต็นที่ชายแดนจีน อีกทั้งรัฐบาลได้อนุมัติทางด่วนระยะที่ 2 ระหว่างแขวงวังเวียงและหลวงพระบาง นอกจากนี้กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น ทางด่วนเวียงจันทน์ – ฮานอยเพื่อเชื่อมระหว่างเมืองหลวงของสปป.ลาวและเวียดนาม ทางด่วนเวียงจันทน์ – ปากเซและทางด่วนหมายเลข 1 ในเวียงจันทน์ ที่ประชุมได้ทบทวนการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 63 และหารือเกี่ยวกับแผนปีนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้ทบทวนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 และแผน 5 ปีข้างหน้าตั้งแต่ปี 64-68
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Smart25.php
สปป.ลาวเผยขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563
สปป.ลาวขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563 ตามข้อมูลล่าสุดจาก เว็บไซต์ the Lao people’s Democratic Republic Trade Portal โดยรายงานระบุว่าการส่งออกของสปป.ลาวในช่วงเดือนธันวาคมมีมูลค่า 468 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ แร่ทองแดง กล้วย เยื่อไม้และเศษกระดาษ ชิ้นส่วนกล้อง ทองแดงและผลิตภัณฑ์ทองแดงเสื้อผ้า ยาง กาแฟ มันสำปะหลังและข้าว สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะทางบกซึ่งไม่รวมรถจักรยานยนต์เครื่องจักรกล (ไม่รวมยานยนต์) อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า ดีเซล ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รวมทั้งกระจกและโซ่ เหล็กเส้นและเหล็กแปรรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติกและผลิตภัณฑ์เคมี ซึ่งจีนยังคงเป็นประเทศ การส่งออกอันดับต้น ๆ ของสปป.ลาว ตามด้วยเวียดนามและไทย ในขณะที่ประเทศหลักในการนำเข้าคือไทย จีนและเวียดนาม ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมรายได้จากการส่งออกไฟฟ้าและจะอัปเดตเมื่อมี
สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เดินทางกลับจากไทย
หน่วยงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโควิด -19 รายงานสถานการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพบหญิงชาวสปป.ลาวอายุ 20 ปีตรวจพบเชื้อโควิด -19 ซึ่งมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศไทยที่ปัจจุบันเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกสอง กรณีล่าพบผู้ติดเชื้อล่าสุดนี้ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดของสปป.ลาวอยู่ที่ 45 รายในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคระบาดในบางประเทศในภูมิภาคและทั่วโลกสถานการณ์ยังไม่ดีนัก รัฐบาลสปป.ลาวกำลังเข้มงวดมาตรการป้องกันและควบคุมโดยเฉพาะตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าสปป.ลาวอย่างผิดกฎหมาย
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos24.php
ท่ามกลางการระบาด COVID-19 สปป.ลาวตรวจสอบการกักกันแรงงานที่เดินทางกลับประเทศอย่างเข้มงวด
รัฐบาลสปป.ลาวได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นเฝ้าระวังคนที่เข้ามาในสปป.ลาวอย่างระมัดระวังและกักกันคนงานที่กลับมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของCOVID-19 รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อภายใต้กระทรวงสาธารณสุขสปป.ลาว กล่าวว่าทางการท้องถิ่นต้องตรวจสอบพรมแดนอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานสปป.ลาวที่เดินทางกลับจากประเทศเพื่อนบ้าน คนที่เข้ามาในสปป.ลาวโดยเฉพาะแรงงานที่ส่งกลับประเทศจะถูกส่งไปยังศูนย์กักกันเป็นเวลา 14 วัน ทุกคนในศูนย์กักกันต้องได้รับการตรวจสอบอุณหภูมิทุกวัน ซึ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้าสปป.ลาวผ่านด่านพรมแดนระหว่างประเทศจำนวน 2,600 คน ในจำนวนนี้ 1,281 คนข้ามพรมแดนมาจากประเทศไทย จากประเทศจีนทั้งหมด 41 คน ขณะที่ 1,119 คนเดินมาจากเวียดนามและ 159 คนเดินโดยใช้ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต ที่จุดผ่านแดนทุกแห่งมีการตรวจสอบอุณหภูมิของแต่ละคนที่เข้ามาและไม่มีใครแสดงอาการไข้ และขณะนี้กำลังติดตามผู้คน 2,588 คนที่ศูนย์ที่พัก 33 แห่งทั่วประเทศ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ทดสอบผู้ป่วยที่ต้องสงสัย 104,212 ราย โดย 44 รายได้รับการตรวจเป็นบวกและผู้ป่วย 41 รายฟื้นตัวจากการติดเชื้อ
ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2021-02/02/c_139716545.htm