การก่อสร้างสถานีรถไฟจีน-สปป.ลาวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

การเทคอนกรีตขั้นสุดท้ายของโครงสร้างหลักของสถานี Boten ซึ่งทำสัญญาโดย China Railway Construction Engineering Group แล้วเสร็จเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้วขั้นตอนต่อมาจะเข้าไปสู่การติดตั้งโครงข่ายเหล็กการติดตั้งและตกแต่งระบบเครื่องกลไฟฟ้าซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564สถานี Boten ตั้งอยู่แขวงโบเตนในสปป.ลาวเป็นสถานีแรกในโครงการรถไฟความเร็วปานกลางจีน – สปป.ลาว โครงการรถไฟฟ้าจะนำความก้าวหน้ามาให้แก่สปป.ลาวจะทำให้สปป.ลาวเป็นประเทศที่เชื่อมต่อกับตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนรวมถึงการท่องเที่ยวที่โครงการจะเป็นส่วนสนับสนุนในการเดินทางที่สะดวกขึ้นอีกด้วย

ที่มา : http://www.ecns.cn/news/economy/2020-12-24/detail-ihaexsqc6150811.shtml

รัฐบาลสปป.ลาวอนุมัติขายที่ดินตลอดสองข้างทางถนน 450 ปี ในนครหลวงเวียงจันทน์

กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนครหลวงเวียงจันทน์ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการขายที่ดิน 283,500 ตารางเมตรทั้งสองข้างของถนน 450 ปี ที่ดิน 93 แปลงภายใน 50 เมตรตลอดสองฝั่งของถนน 450 ปีจะถูกขายออกในอัตราตลาดโดยมีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนเพื่อชำระคืนธนาคารแห่งสปป. ลาวสำหรับการก่อสร้างถนน นายคำไพ ศิลาสา  ประธานกลุ่มก่อสร้างดวงเฉลิมกล่าวในรายงานของ KPL News เมื่อวานนี้ว่าการก่อสร้างถนน 450 ปีและการขายที่ดินด้านใดด้านหนึ่งในภายหลัง ได้ตกอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานเทศบาลนครหลวงเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสิบปีสามารถขายที่ดินได้เพียงร้อยละ 20 ของที่ดินทั้งหมดส่วนใหญ่เกิดจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่เหมาะสมเช่นน้ำประปาและไฟฟ้า ที่ดินส่วนใหญ่ยังคงไม่สำเร็จและไม่เป็นที่สนใจของผู้ซื้อและนักลงทุน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลจะเร่งสนับสนุนการลุงในด้านต่างๆเพื่อให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สนใจของนักลงทุน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/12/23/government-approves-sale-of-land-along-vientianes-450-years-road/\

เยอรมนีสนับสนุนทุน 114 พันล้านกีบในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางใต้ของสปป.ลาว

กรมโยธาธิการและขนส่งจังหวัดอัตตะปือมอบสัญญา 3 ฉบับสำหรับการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วมภายใต้โครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของสปป.ลาวใต้ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีผ่าน KfW Development Bank โดยให้ทุนประมาณ 114 พันล้านกีบ (มากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค วัตถุประสงค์ของโครงการคือ“ ให้ประชากรในชนบทที่ประสบอุทกภัยสามารถเข้าถึงตลาด โรงเรียน สถานีอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกอย่างยั่งยืนของประชากรในชนบท” ผลกระทบจากการพัฒนาระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าจะส่งผลให้การผลิตสินค้าเกษตรและร้านค้าปลีกที่มุ่งเน้นตลาดเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของความพร้อมของไฟฟ้าในพื้นที่เป้าหมายอีกด้วย โครงการคาดการณ์จะก่อสร้างแล้วเสร็จใน 18 เดือนสำหรับแต่ละสัญญา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_234.php

รถไฟจีน – สปป.ลาวก่อสร้างอุโมงค์ความยาว 17.5 กม. เสร็จสิ้นแล้ว

ส่วนหนึ่งของทางรถไฟจีน -สปป.ลาวซึ่งเป็นอุโมงค์ยาว 17.5 กม. แล้วเสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนหลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักมา 4 ปี รถไฟจีน – สปป.ลาวเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ เมื่อเปิดการจราจรการเดินทางจะสั้นลงเหลือเพียงแปดชั่วโมงจากคุนหมิงของมณฑลยูนนานไปยังเวียงจันทน์เมืองหลวงของสปป.ลาว เป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่จะนำสปป.ลาวไปสู่เมืองที่เชื่อมต่อยังประเทศมหาอำนาจอย่างจีนวึ่งเป็นตลาดที่สามที่นานาประเทสให้ความสนใจในปัจจุบัน

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2020-11-29/China-Laos-Railway-completes-construction-of-17-5-km-long-tunnel-VOm2zOLc4g/index.html

UMFCCI คาดปีงบฯ นี้ จีน รั้งประเทศลงทุนอันดับต้นๆ ในเมียนมา

จากข้อมูลของสมาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา(UMFCCI) ปีงบประมาณ 63-64 นักลงทุนจากจีนจะเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้วยเงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งจะมุ่งไปที่โครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) จีนลงทุนกว่า 3.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 375 ธุรกิจในเมียนมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 59-60  นอกจากจีนแล้วประเทศที่มีศักยภาพน่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ กระตือรือร้นที่จะเร่งการลงทุนโครงการปัจจุบันของจีนบางส่วนในประเทศหลังจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะเพิ่มการลงทุนในภาคพลังงาน โทรคมนาคม การท่องเที่ยว และการผลิตก๊าซธรรมชาติ ในปี 63-64 เมียนมาตั้งเป้าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไว้ที่ 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 64-65 โดยมีเป้าหมายในปีนี้เพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนในภาคเกษตรกรรม การประมง อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/china-forecast-be-top-myanmar-investor-fiscal-year-umfcci.html

ทางด่วนเลียบชายฝั่งอิระวดีเริ่มก่อสร้างในปีนี้

จากรายงานของกระทรวงการก่อสร้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอิระวดีภายใต้ธนาคารโครงการของเมียนมา (Project Bank)  ซึ่งเป็นทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเขตอิรวดีและรัฐยะไข่ จะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐและแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 66-67 โครงการนี้จะเป็นการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งความยาว 274 กม. จากเขตอิรวดีไปยังรัฐยะไข่ เมื่อสร้างเสร็จจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและความปลอดภัยบนทางด่วน การก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งจะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตรและประมงจากเขตอิระวดีและภูมิภาคอื่น ๆ ใกล้เคียงไปยังท่าเรือสำคัญเพื่อการส่งออก ช่วยลดเวลาในการเดินทางและช่วยให้เข้าถึงชายหาดที่มีชื่อเสียงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังกระตุ้นการพัฒนาโครงการโรงแรมและรีสอร์ทตามแนวชายฝั่งในภูมิภาค นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงการให้บริการอย่างเช่น สุขภาพ การศึกษา และโอกาสเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น Myanmar Project Bank เป็นแพลตฟอร์มบนเว็บที่ออกแบบมาเพื่อเน้นโครงการลงทุนที่สอดคล้องกับการปฏิบัติตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมียนมา (Myanmar Sustainable Development Plan 2014 – 2030: MSDP) โดยสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ www.projectbank.gov.mm ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดที่สอดคล้องกับการดำเนินการตามแผน MSDP โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสร้างระบบที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส ซึ่งเชื่อมโยงโครงการลงทุนที่สำคัญกับแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม ธนาคารโครงการเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ มีโครงการทั้งหมด 58 โครงการ ส่วนในเดือนสิงหาคมมีการเพิ่มโครงการอีก 71 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 7.9 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-ayeyarwady-coastal-expressway-start-year.html

ปี 65 เมียนมาเดินหน้าสร้างทางด่วน พะโค-ไจ้โต

จากข้อมูลของกรมทางหลวง กระทรวงการก่อสร้างเผย การก่อสร้างทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเมืองพะโคและเมืองไจ้โตในรัฐมอญคาดว่าจะเริ่มได้ในปีงบประมาณ 2565-2566 โดยจะได้รับเงินกู้ยืม 483.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB)  เพื่อสร้างทางด่วนระยะทาง 64 กม. โครงการนี้ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2571-2572 โดยจะมีสะพานข้ามแม่น้ำสีตึ้งยาว 2.3 กม. และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จะเป็นผู้จัดหาเงินทุนสำหรับก่อสร้างสะพาน New Sittaung ด้วยเงินกู้ 27.8 พันล้านเยน ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ทั้งนี้ทางหลวงจากพะโคถึงไจ้โตจะช่วยให้เข้าถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาและไปใกล้ย่างกุ้งได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง EWEC ยังเชื่อมต่อไทยกับเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาและต่อไปยังพะสิมในเขตอิรวดี

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-bago-kyaik-hto-expressway-commence-2022.html

แผนแม่บทใหม่มุ่งสร้างการพัฒนาเมืองที่น่าอยู่

แผนแม่บทการพัฒนาเมืองฉบับใหม่จะช่วยให้ทางการสามารถตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียงจันทน์ในอนาคตแต่การพัฒนาระบบต่างๆในแต่ละแขวงกลับไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากขาดการวางแผนอย่างละเอียดทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาระบบสาธารณูปโภคที่ไม่สามารถรองรับประชากรในพื้นที่ได้  รวมถึงปัญหาของการแออัดของรถยนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวในการประชุมสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ถนนในเมืองหลวงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานในขณะที่พื้นที่สาธารณะยังไม่ได้รับการพัฒนาจึงจำเป็นต้องจัดทำแผนแม่บทใหม่เพื่อให้เวียงจันทน์ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ในภูมิภาค” แผนแม่บทฉบับใหม่จะครอบคลุมพื้นที่ 61,600 เฮกตาร์และ 288 หมู่บ้านคิดเป็นร้อยละ 16 ของพื้นที่ดินของเมือง เวียงจันทน์มีประชากรเกือบหนึ่งล้านคนมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและแนวโน้มจำนวนประชากรที่สูงขึ้น พื้นที่ในเมืองจะขยายไปสู่ชานเมืองตามถนนสายหลักอย่างรวดเร็ว หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอการแผ่ขยายออกไปในเมืองจะส่งผลให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ดีและบริการทางสังคมที่ไม่เพียงพอ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_215.php

การเจรจาระหว่าง Royal Railway และ รัฐบาลกัมพูชายังคงดำเนินอยู่

การเจรจาระหว่าง Royal Railway Cambodia และรัฐบาลกัมพูชายังอยู่ระหว่างการดำเนินการตามข้อตกลงสัมปทานฉบับใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงระบบรถไฟของกัมพูชาตลอดจนการรักษาโครงสร้างพื้นฐานให้ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ โดย Royal Railway อยู่ระหว่างการเจรจากับ CRRC Corp Ltd. ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาเส้นทางรถไฟของกัมพูชา ซึ่งตัวแทนของ CRRC กล่าวว่าบริษัทได้มีประสบการณ์ในการพัฒนาทางรถไฟมากว่า 21,000 กิโลเมตรในจีนและในต่างประเทศ โดย CRRC ได้แสดงความเต็มใจที่จะเข้าร่วมการเจรจาเพื่อเป็นพันธมิตรกับ Royal Railway ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50779061/royal-railway-and-cambodian-government-talks-still-on-track/

สหราชอาณาจักรพร้อมช่วยเหลือรัฐชานเดินหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและผังเมือง

นาย U Tun Aing Kyaw ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยแห่งรัฐฉานเผยรัฐฉานจะร่างผังเมืองและพัฒนาโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐโดยความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร โครงสร้างพื้นฐานมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเมือง โดยจะดำเนินการตามแผนระยะสั้นและระยะยาวสำหรับการอนุรักษ์มรดกโบราณตลอดจนโครงการพัฒนาเมืองเพื่อปรับปรุงภูมิภาคให้ทันสมัยหากประสบความสำเร็จรัฐฉานจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนาเมืองอีก 6 โครงการใน Moemeik, Mong Ton, Mong Hsat, Hopone ในขตปกครองตนเองปะโอ, Narnsam ในเขตปกครองตนเองของปะหล่อง และ Laukkai ในพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง นอกจากนี้ยังร่วมกับสวีเดนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในเมืองกะลอของรัฐฉาน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/shan-conduct-development-programmes-uk-aid.html