‘IHS Markit’ ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัว

จากข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายปีนี้ของ IHS Markit แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังคงเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ต่อวันกลับมาเพิ่มขึ้น รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ต่อวัน เริ่มลดลงในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ย. และต้นเดือน ต.ค. การผ่อนตลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้โรงงานหลายแห่งกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนี PMI ภาคการผลิต พุ่งขึ้นแตะ 52.1 จุด ในเดือน ต.ค. นอกจากนี้ สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจอีก 5 ปีข้างหน้า มีปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามกลายมาเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย ได้แก่

(ประการแรก) เวียดนามยังคงได้รับประโยชน์จากต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่ำ,

(ประการที่สอง) เวียดนามมีกำลังแรงงานที่มีขนาดใหญ่และมีการศึกษาที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(ประการที่สาม) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการใช้จ่ายทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน

(ประการที่สี่) เวียดนามได้รับประโยชย์ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพ

(ประการที่ห้า) บริษัทต่างชาติกระจายห่วงโซ๋อุปทานการผลิตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงการหยุดชะงักด้านอุปทานและปัญหาทางการเมือง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/ihs-markit-optimistic-about-vietnams-economic-recovery-from-covid-19-wave-905282.vov

บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า-รองเท้าแบรนด์ดังกระทบหนัก หลัง “เวียดนาม” ปิดโรงงานล็อคดาวน์โควิดยาวนาน

โดย Money & Banking (การเงินการธนาคาร)

นักวิเคราะห์จาก BofA Securities เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติของอเมริกาภายใต้การดูแลของ Bank of America ระบุว่า ผลกระทบของการปิดโรงงานที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานในเวียดนาม มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ค้าปลีดเสื้อผ้าและรองเท้าหลายรายที่วางแผนไว้สำหรับปี 2565

โดย BofA Securities มองถึงเหตุผลหลายประการสำหรับการคาดการณ์นี้ รวมข้อเท็จจริงที่ว่าการกลับมาของเศรษฐกิจในเวียดนามตอนใต้ ซึ่งมีผู้ผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าจำนวนมาก มีการเคลื่อนไหวช้ากว่าทางตอนเหนือมาก

เนื่องจากเวียดนามประสบกับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ส่งผลให้มีการล็อคดาวน์ในพื้นที่อีกครั้ง การผลิตต้องหยุดชั่วคราวและส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ เช่น Adidas และ Nike ที่ต้องพึ่งพาภูมิภาคนี้เป็นอย่างมากในการผลิตรองเท้าผ้าใบและเสื้อผ้ากีฬา โดย BofA ตั้งข้อสังเกตว่าธุรกิจต่างๆ ได้เริ่มเปิดทำการอีกครั้งแล้ว แต่อัตราการฉีดวัคซีนยังคงต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

Mohamed Faiz Nagutha นักเศรษฐศาสตร์ของ BofA กล่าวว่า แม้ว่ากิจกรรมการผลิตจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปีที่แล้วหลังจากการหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงสั้นๆ พร้อมเสริมว่า แต่กฎการดำเนินงานโรงงานในปัจจุบันในเวียดนามยังคงเข้มงวดและซับซ้อนมาก ซึ่งอาจขัดขวางความสามารถของพนักงานในการกลับไปทำงานได้

“โดยรวมแล้ว เราคาดว่าการแพร่ระบาดจะส่งผลกระทบต่อความคาดหวังในการกลับมาดำเนินกิจกรรมการผลิตใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ยังคงมีอยู่ ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในส่วนอื่นๆ ของเอเชีย

ด้าน Puma ได้เตือนแล้วว่าปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในเวียดนาม จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทขาดแคลนในปีหน้า ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Adidas ปรับลดแนวโน้มในปี 2564

ที่มา : https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/vietnam-factory-effect-retail-market-161164

อ้างอิง : https://www.cnbc.com/2021/11/15/factory-shutdowns-in-vietnam-to-have-longer-impact-for-retailers-bofa.html

ยอดขนส่งสินค้า ‘รถไฟเวียดนาม-จีน’ พุ่ง

ตามข้อมูลทางสถิติของการรถไฟเวียดนาม (VRN) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างเวียดนาม-จีนผ่านช่องทางชายแดนด่านหล่าวกายและด่งดัง อยู่ที่ 838,000 ตัน เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าไนไตรมาสที่ 3 การระบาดของโควิด-19 จะลุกลามไปยังหลายจังหวัด ส่งผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้าในประเทศที่อยู่เส้นทางรถไฟสายเหนือ-ใต้ ทั้งนี้ Pham Duc Khai หัวหน้าสถานีรถไฟด่งดัง (Dong Dang) กล่าวว่าแม้จะเผชิญกับการระบาดของเชื้อโรค แต่ปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านสถานีดังกล่าว มากกว่า 400,000 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/railway-goods-transport-between-vietnam-china-surges/215495.vnp

 

นักเศรษฐศาสตร์ ชี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เวียดนามจำเป็นต้องมีการลงทุนภาครัฐที่แข็งแกร่ง

ตามรายงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจุดข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยตั้งแต่ปี 2545-62 การลงทุนภาครัฐ มีส่วนแบ่งจาก GDP ลดลงจาก 22% มาอยู่ที่ 11% ขณะที่ความต้องการทางด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐ อยู่ที่ 257.38 ล้านล้านดอง (11.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) หรือประมาณ 55.8% ของเป้าหมายทั้งปี นอกจากนี้ ประเด็นโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 4 ในเวียดนาม ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมทั่วประเทศที่ต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP เหลืออยู่ที่ 2%-2.5% ปีนี้

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/economy/item/10770502-vietnam-s-growth-and-recovery-require-strong-public-investment-economists.html

 

‘เวียดนาม’ เผยรายได้ต่ำ ระมัดระวังมากขึ้น รัดกระเป๋าแน่น!

ผลการสำรวจของ YouGov เปิดเผยว่าผู้คน 48% มีรายได้ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบของการระบาดโควิด-19 และมากกว่าครึ่งหนึ่งลดการใช้จ่ายลง โดยหัวข้อในการสำรวจใช้ชื่อว่า “โควิด-19 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเงินส่วนบุคคลในเวียดนามได้อย่างไร” ผู้บริโภคชาวเวียดนามในปัจจุบันมีความรอบคอบมากที่สุดในโลก กลุ่มตัวอย่าง 2 ใน 3 (67%) ระมัดระวังเรื่องการเงินส่วนบุคคลมากกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาด ในขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 34% ให้ความสำคัญกับการบริหารทางการเงินในครัวเรือน กรณีใช้ในยามฉุกเฉิน ทั้งนี้ YouGov Vietnam ชี้ว่าตามข้อมูลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคชาวเวียดนามมีแนวคิดทางอนุรักษ์นิยมมากขึ้นสำหรับการบริหารทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งวิกฤติครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบทางการเงิน

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/data-speaks/less-income-more-prudence-covid-hit-vietnamese-world-class-in-tightening-purse-strings-4385249.html

 

‘สมัชชาแห่งชาติเวียดนาม’ ตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ปี 65 โต 6%-6.5%

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. สมัชชาแห่งชาติเวียดนาม (NA) พิจารณารับรองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปีหน้า ทำให้ต้องปรับประมาณการตัวเลขจีดีพี (GDP) อยู่ที่ 6%-6.5% โดยการลงมติดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนแก้ไขปัญหาในการทำธุรกิจและช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามต้องใช้ข้อได้เปรียบจากโอกาสทั้งหมด เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวและเป็นแรงขับเคลื่อนในการผลักดันเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ทางสมัชชาแห่งชาติ ได้ตั้งเป้ารายได้ต่อหัวที่ 3,900 เหรียญสหรัฐ, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ระดับ 4% และอัตราการว่างงานในเมืองต่ำกว่า 4%

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/na-approves-2022-gdp-growth-target-at-6-6-5/

 

‘ธุรกิจเวียดนาม-เช็ก’ แนะใช้ EVFTA อย่างมีประสิทธิภาพ

การประชุมโต๊ะกลมของผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจและผู้บริหารธุรกิจระหว่างเวียดนาม-สาธารณรัฐเช็ก ณ กรุงปราก เมื่อวันที่ 10 พ.ย. มีมุมมองว่าธุรกิจเวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก ควรยกระดับความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสสูงสุดจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVIPA) ทั้งนี้ แม้ว่าห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงัก เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่ยอดการค้าระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเช็ก เพิ่มขึ้น 22% ในปีที่แล้ว มีมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การค้าทวีภาคีเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นมูลค่า 936 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากผลประโยชน์ของข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสาธารณรัฐเช็กยังคงกังวลกับปัญหาหลายอย่าง ได้แก่ นโยบายการดึงดูดการลงทุนของเวียดนามและความซับซ้อนของการบริหาร ตลอดจนคุณภาพของสินค้าส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดสาธารณรัฐเช็กและยุโรป

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-czech-businesses-advised-to-effectively-utilise-evfta-904323.vov

 

‘ธุรกิจเยอรมัน’ มองทิศทางดีต่อเศรษฐกิจเวียดนาม

ตามรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปี 64 “AHK World Business Outlook 2021” เปิดเผยผลการสำรวจ พบว่าธุรกิจเยอรมันในเวียดนามส่วนใหญ่ 55% มีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจในปีหน้า เมื่อถามถึงประเด็นการค้าการลงทุน ชี้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 83% ยังคงลงทุนขยายกำลังการผลิต หรืออัพเกรดโรงงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ 30% วางแผนที่จะเปิดรับสมัครแรงงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและการบริโภคที่ปรับตัวลดลง ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของธุรกิจเยอมันในเวียดนาม โดยกลุ่มตัวอย่าง 42% เผชิญกับปัญหาการจ้างงานแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง ตลอดจนปัญหาอื่นๆ อาทิ นโยบายเศรษฐกิจ กฎหมาย โครงสร้างพื้นฐาน การปิดชายแดนและการยกเลิกกิจกรรมการค้า เนื่องจากได้รับผลกระทบของโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/german-firms-in-vietnam-optimistic-about-future-prospects-904337.vov