UN ปกป้องสิทธิสตรีในเมียนมาท่ามกลางการระบาดของ COVID-19
สหประชาชาติ (UN) ยืนยันเมื่อวันที่ 15 เมษายน 63 ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลเมียนมาเพื่อปกป้องสิทธิและโอกาสของผู้หญิงท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศ ที่กำลังมีผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจที่ร้ายแรงสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งเกือบ 60% ของผู้หญิงทั่วโลกทำงานในระบบเศรษฐกิจและนอกระบบมีรายได้น้อยลง ประหยัดน้อยลงและมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะตกอยู่ในความยากจน สถานการณ์ดังกล่าวเป็นที่จับตามากขึ้นในเมียนมาซึ่งผู้หญิงคิดเป็น 60% ของพนักงานที่ทำงานบริการด้านอาหารและที่พักและระหว่าง 70 ถึง 90% ของผู้ขายอาหารริมทาง นอกจากนี้แรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงาน UN ได้ให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมนักสังคมสงเคราะห์กว่า 80 คนของกรมสวัสดิการสังคมในมิติทางเพศในช่วงการระบาดของ COVID-19 และการให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาสังคม ทั้งนี้ยังมอบโทรศัพท์มือถือ 60 เครื่องให้แก่กระทรวงการสังคมสงเคราะห์บรรเทาทุกข์และการตั้งถิ่นฐานใหม่ เพื่อเพิ่มการบริการและช่วยเหลือทั่วประเทศ
ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/un-helps-safeguard-myanmar-women-rights-amid-pandemic.html
เขตซะไกง์ประกาศเคอร์ฟิว 10:00 น. ถึง 04:00 น.
ประชาชนในเขตซะไกง์จะไม่อนุญาตให้ออกจากบ้านระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. แต่อนุญาตให้ออกไปสถานที่สำคัญ เช่น การซื้ออาหารหรือรักษาพยาบาล เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการป้องกันการระบาดของ COVID-19 ตามเมื่อประกาศ 13 เมษายน 2563 หากละเมิดกฎเหล่านี้จะดำเนินคดีโดยทันที ทั้งนี้ยังไม่ให้ประชาชนฉลองเทศกาลตะจาน (ปีใหม่ของเมียนมา) และหลีกเลี่ยงการชุมนุมโดยไม่มีเหตุผล เขตซะไกง์เป็นหนึ่งในเขตที่มีประชากรแรงงานอพยพสูงสุด ตามรายงานสถานการณ์ของ COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขระหว่างวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 11 เมษายน 2563 มีแรงงานกว่า 17,000 คนถูกกักตัวจำนวน 6,889 ซึ่งไม่ชัดเจนว่าตัวเลขเหล่านี้รวมถึงผู้ที่ถูกกักกันที่บ้านหรือไม่
ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/sagaing-imposes-10pm-4am-curfew.html
เมียนมาปิดประตูเข้าออกชายแดนบังคลาเทศ
รัฐบาลเมียนมาได้ปิดการเข้าและออกของผู้คนในประตูชายแดนกับบังกลาเทศตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะบรรเทาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ได้ห้ามการเข้าและออกของผู้คนจากประตูชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินเดีย จีน ไทยและสปป.ลาวและเปิดเฉพาะการขนส่งสินค้าเท่านั้น ซึ่งสินค้าระหว่างเมียนมาและบังคลาเทศก็จะดำเนินต่อไปเช่นกัน วันที่ 13 และ 14 เมษายน 2563 เมียนมามีจำนวนผู้ป่วย 62 คนโดยมีผู้เสียชีวิต 4 รายและหายป่วยไปแล้วสองราย
ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-stops-entry-exit-people-bangladesh-border-gates.html
ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเมียนมา เพิ่มขึ้นอีก 53 ราย
กระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันที่ 13 เมษายนมีผู้ติเชื้อ COVID-19 ในประเทศแล้ว 12 รายทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ เป็น 53 ราย จำนวน 12 รายเป็นคนที่เข้ารับการกักตัวที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีอาการ เช่น ไข้ ไอ และเจ็บคอเป็นต้น จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ที่ตรวจพบใหม่สูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วย 2 รายแรกเมื่อวันที่ 23 มีนาคม จากจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ทั้งหมด 53 รายมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายและรักษาหายแล้ว 2 ราย
ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-reports-another-surge-covid-19-cases-52.html
MIC อนุมัติการลงทุนด้านแรงงานและการดูแลสุขภาพ
คณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) จะเร่งอนุมัติการลงทุนในโครงการที่ต้องใช้แรงงานมากและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าคนงานจำนวนมากหางานได้มากที่สุดเพื่อชดเชยผลกระทบของการเลิกจ้างในภาคอื่น ๆ เช่น การผลิตและการท่องเที่ยว MIC จะเร่งการอนุมัติสำหรับธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์การผลิต เช่น หน้ากากอนามัย นอกจากนี้ยังจะให้ความสำคัญกับสถานประกอบการด้านเภสัชกรรมผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในวันที่ 3 เมษายนอนุมัติเงิน 555 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการใหม่ 11 โครงการในภาคการผลิตการก่อสร้างและการบริการ ในขณะเดียวกันมีการอัดฉีดเงินทุนเข้าโครงการที่มีอยู่ 13 โครงการ คาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 3,234 คน
ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/mic-accelerate-approvals-labour-intensive-healthcare-investments.html