สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 250 ราย

จากรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 250 รายเมื่อวันอังคาร ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติจากประเทศไทย จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เหล่านี้ ยอดรวมทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 7,015 ราย ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นยอดที่ติดเชื้อสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกมาของสปป.ลาว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แนะนำให้ทุกคนแสดงความรับผิดชอบและสนับสนุนการต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสลุกลามจนควบคุมไม่ได้ ในขณะเดียวกัน โครงการฉีดวัคซีนก็กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ประมาณร้อยละ 16.55 ของประชากรลาวทั้งหมดได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกแล้วและร้อยละ 14.05 ได้รับวัคซีนทั้งสองโดส สปป.ลาวถือเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่มีความคืบหน้าด้านการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แผนการฉีดวัคซีนของสปป.ลาวดำเนินการได้ต่อเนื่องมาจากการช่วยเหลือจากพันธมิตรที่สำคัญทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ เป็นต้น จึงทำให้สปป.ลาวต่อสู้กับโควิด-19ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_250New_150.php

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาวคาดหวังให้สปป.ลาวได้วัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ

ดร.ปีเตอร์ เอ็ม เฮย์มอนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาว กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะมาถึงสปป.ลาวในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสปป.ลาวจากไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการ COVAX Facility มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกัน การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะทำให้ประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนในสปป.ลาวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจุบันสปปป.ลาวสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของประชาทั้งหมดและหากได้รับวัคซีนเพิ่มเติมที่มีกำหนดรับในเดือนนี้ สปป.ลาวจะสามารถฉีดเข็มสองให้กับประชาชนได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 50 ภายในปีนี้ การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในตามหลักทางการแพทย์นั้น จะทำให้สปป.ลาวสามารถจบปัญหากับโควิดเร็วและจะเร่งกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน การสนับสนุนวัคซีนผ่านโครงการดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US141.php

โครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้น

หน่วยงานสาธารณสุขกำลังออกโครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ให้กับผู้คนหลายแสนคน โครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 จะได้วัคซีนไฟเซอร์ 100,620 โดส และวัคซีนซิโนแฟม 500,000 โดส โดยตั้งเป้าจะเริ่มในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน ประชาชนประมาณ 712,793 คนได้รับวัคซีนเข็มแรก ขณะที่ 385,921 คนได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 การส่งมอบวัคซีน Sinopharm และ Pfizer ครั้งล่าสุดจะทำให้กับความพยายามของรัฐบาลในการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 50% ของประชากร (มากกว่า 3 ล้านคน) ภายในสิ้นปีนี้มีประสิทธิภาพและเป็นไปได้ตามเป้าหมาย ถึงอย่างไรเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการไม่มีวัคซีนหรือมีไม่เพียงพอนั้น รัฐบาลสปป.ลาวอนุญาตให้ทางบริษัทเอกชน สามารถนำเข้าวัคซีนเองได้เพื่อนำมาฉีดให้กับพนักงงานของตน ซึ่งถือเป็นอีกทางสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างครอบคลุม เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Round_115.php

เงินทุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ลาวบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนร้อยละ 50

ธนาคารโลกมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาวในการป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19 ร่วมถึงด้านการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมโดยเร็วที่สุดตามข้อตกลงระหว่างธนาคารโลกและรัฐบาลสปป.ลาว หลังจากได้รับการอนุมัติโครงการรับมือโควิด-19 เบื้องต้นมูลค่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2563 รัฐบาลสปป.ลาวได้ขอทรัพยากรเพิ่มเติมในปีนี้เพื่อขยายประสิทธิภาพในการวัคซีน เงินทุนนี้จะนำไปใช้เพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้เพียงพอเพื่อให้สปป.ลาวฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 50 ของประชากรทั้งหมด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Additional112.php

รัฐบาลสปป.ลาวห้ามนำเข้าวัคซีนโควิดในเชิงพาณิชย์

อธิบดีกรมอนามัยและส่งเสริมสุขภาพ สังกัดกระทรวง ชี้แจงเหตุผลในการห้ามเอกชนซื้อขายวัคซีนในเชิงพาณิชย์ “รัฐบาลเข้าใจความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับการขาดแคลนวัคซีนแต่ถึงแม้จะมีความต้องการเพิ่มขึ้น รัฐบาลมีความเชื่อมันว่าสต็อกของรัฐบาลเพียงพอแล้วและคาดว่าจะมีการส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้” อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอนุญาตให้หน่วยงานเอกชนซื้อวัคซีนเพื่อใช้เองได้ โดยเอกชนสามารถนำเข้ามาเพื่อฉีดให้กับพนักงงานตนเองโดยห้ามมีการค้าในเชิงพาณิชย์ การดำเนินนโยบายดังกล่าวจะทำให้เป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ครอบคุลมร้อยละ 50 ของประชากรสปป.ลาว ในปี 64 ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้การเข้มงวดในการกำกับดูแลวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องโปร่งใสและจริงจังเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีนของประชากรในปรเทศ 

ที่มา :https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt107.php

รัฐบาลออสเตรเลียให้ทุนครอบคลุมวัคซีน 1 ล้านโดสในลาว

รัฐบาลออสเตรเลียมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 15.2 ล้านเหรียญออสเตรเลียแก่สปป.ลาว เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมปริมาณ 1 ล้านโดส ทุนนี้ยังครอบคลุมถึงการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับวิธีการฉีดวัคซีนอย่างปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิด้านสาธารณสุขของสปป.ลาว นายพอลเคลลีเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสปป.ลาวกล่าวว่า “รัฐบาลออสเตรเลียยินดีที่ได้ช่วยเหลือประชาชนลาวในช่วงเวลาที่ต้องการ การดูแลให้สปป.ลาวเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญและมีความสำคัญเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลออสเตรเลีย” ทั้งนี Mr.Pany Yathotou รองประธานาธิบดีสปป.ลาวกล่าวเพิ่มเติมว่า “เงินช่วยเหลือจากออสเตรเลียเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนโควิด -19 จะเปิดตัวในสปป.ลาวอย่างมีประสิทธิภาพ เงินส่วนใหญ่จะใช้ในการซื้อยาและเพื่อช่วยลาวในการกระจายและบริหารวัคซีน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการรณรงค์ข้อมูลสาธารณะเผยแพร่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนและการแปลข้อมูลเป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์เพื่อการสื่อได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://thethaiger.com/coronavirus/australian-government-provides-grant-to-cover-1-million-vaccine-doses-in-laos

“อาคม”มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไตรมาสสี่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ หลังจากไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีนในประเทศ ส่งผลให้ ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยขณะนี้ ได้รับรายงานว่า ในช่วงเทศสงกรานต์ในเดือนเม.ย.นี้ ทางสายการบินต่างๆ ถูกจับจองเที่ยวบินเต็มทุกเที่ยวบินแล้ว และปริมาณการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงนี้ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีเพราะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับเครดิตรวมทั้งศูนย์วิจัยหลายแห่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่น รวมทั้งประชาชนกลุ่มฐานรากจะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่วนที่จะออกมาตรการฟื้นฟู หรือเดินหน้ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 ต่อเนื่องหรือไม่นั้น จะต้องรอติดตามสถานการณ์ก่อน และยังต้องติดตามดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง ทั้งนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งเป็นผลมาจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 และนักท่องเที่ยวมีใบรับรองการฉีดวัคโควิด ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะต้องไปเจรจากับประเทศต้นทางที่คนไทยอยากจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อส่งคนททยออกไป เพื่อแลกกับต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวในประเทศ เพื่อช่วยธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศด้วย

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/927622

การฉีดวัคซีน Covid-19 รอบที่สองมีกำหนดจะเริ่มในเดือนเมษายน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่าโครงการฉีดวัคซีนโควิด -19 รอบที่สองจะดำเนินการได้ในเดือนเมษายนตามแผนโดยกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนรอบสองเป็นกลุ่มแรกคือ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรังและแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง นพ. สมไว องค์คำ หัวหน้าผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด -19 โรงพยาบาลมิตรภาพกล่าวว่า “ประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนในเข้มแรกพบว่าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างภูมิกันของโรคดังกล่าว” อย่างไรก็ตามวัคซีนทั้งหมดต้องใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันและไม่มีวัคซีนใดที่สามารถรับประกันได้ว่าจะให้ภูมิคุ้มกันทั้งหมดในทุกราย ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่ใครบางคนจะล้มป่วยแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสปป.ลาวอยู่ในระดับที่น่าพอใจแต่อย่างไรรัฐบาลยังคงเข้มงวดในมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดในระลอกใหม่ควบคู่ไปกับการตั้งเป้าในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Second14.php

สปป.ลาวจะเริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 แก่กลุ่มเป้าหมายถัดไปในสัปดาห์หน้า

หลังจากที่สปป.ลาวได้เริ่มฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 100 คนและไม่มีผลข้างเคียงทำให้สปป.ลาวมีแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเป้าหมายถัดไปคือกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อสูง รองศาสตราจารย์ ดร. ภูธร เมืองปัก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (5 ม.ค. ) “ผู้คนต้องการวัคซีนสองปริมาณเพื่อพัฒนาภูมิคุ้มกันต่อ COVID-19  เจ้าหน้าที่แนวหน้ากลุ่มแรกรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะได้รับการฉีดวัคซีนครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนและครั้งที่สองในวันที่ 22 ธันวาคม”  โครงการฉีดวัคซีนดังกล่าวเปิดตัวหลังจากประเทศจีนจัดหาวัคซีนให้แก่สปป.ลาว 2,000 โดสที่พัฒนาโดย Sinopharm (China National Pharmaceutical Group Co. , Ltd. ) และจากรัสเซียจำนวน 500 โดสซึ่งเป็นวัคซีน Covid-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัย Gamaleya ของรัสเซีย กระทรวงสาธารณสุขคาดว่าปีนี้ประชากรสปป.ลาวประมาณร้อยละ 20 หรือประมาณ 1.6 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีนและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ของประชากรภายในปี 2565 ซึ่งจะใช้งบประมาณมากถึง 18 เหรียญสหรัฐฯ และหากฉีดวัคซีนประชากรทุกคนจะใช้งบประมาณในการฉีดวัคซีนเกือบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/06/laos-declares-covid-19-vaccinations-safe-more-to-be-inoculated-next-week

จีนเตรียมจัดจ่ายวัคซีน COVID -19 ให้ประเทศในลุ่มน้ำโขงเมื่อพัฒนาสมบูรณ์

นายหลี่เค่อเฉียงนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือล้านช้าง – แม่โขง (LMC) ครั้งที่สามผ่านลิงก์วิดีโอซึ่งตามรายงานในซินหัว นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า “จีนจะให้ความสำคัญกับการเข้าถึงประเทศในลุ่มน้ำโขงเพื่อจัดหาวัคซีน COVID-19 เมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ” จีนตั้งใจที่จะจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในสปป.ลาว ภายใต้กรอบของกองทุนพิเศษ LMC และจะจัดหาวัสดุป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 รวมถึงการสนับสนุนมาตราฐานทางการแพทย์ที่ดีขึ้น ในที่ประชุมยังได้มีการเสนอแนวทางการร่วมมือด้านอื่นๆ ที่จะเป็นผลดีต่อประเทศในกลุ่มแม่น้ำโขลง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันข้อมูลอุทกวิทยาของแม่น้ำโขลงรวมถึงการค้าและการท่องเที่ยว ในส่วนของสปป.ลาวเองยังคงได้รับสนับสนุนในการขยายเส้นทางรถไฟสปป.ลาว-จีนที่จะเชื่อมต่อมายังจีนและไทยได้ เป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคและจะเป็นเส้นทางที่สำคัญด้านการค้าและการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/08/26/china-to-provide-mekong-countries-with-covid-19-vaccine/