โอกาสสำหรับนักธุรกิจอเมริกาในประเทศกัมพูชา

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยมีสินค้าส่งออกรวมร้อยละ 37 ของยอดการส่งออกทั้งหมดที่มูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 กล่าวโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต หลังเข้าพบกับสมาชิกสมาคมกลุ่มนักธุรกิจอเมริกันในวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ก.ย.) ในระหว่างงาน “US-Cambodia Business Forum” ในนครนิวยอร์ก ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจของอเมริกันในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกัมพูชา รวมถึงกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนต่อบริษัทอเมริกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น เพื่อหวังดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนกัมพูชา เนื่องด้วยกัมพูชาสามารถเป็นซัพพลายเชนส่งต่อไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงมีโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจแบบ 100% ในการครอบครองธุรกิจ

อีกทั้งภาคแรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานคนหนุ่มสาวกว่าร้อยละ 65 ของกลุ่มประชากร รวมถึงกัมพูชายังอยู่ภายใต้โครงการ สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ที่เอื้อต่อภาคการส่งออกของกัมพูชา และกัมพูชายังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อาทิเช่น ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้ (CKFTA) เอื้อต่อภาคการส่งออกของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501365721/an-opportunity-for-american-business-in-cambodia/

“เศรษฐา” ประกาศ ใส่เกียร์สูงดันเศรษฐกิจไทย ทวงคืนจุดหมายการลงทุนชั้นนำ

ณ โรงแรม St. Regis นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) โดยสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S.-ASEAN business Council: USABC) และหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce: USCC) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสำหรับงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ ถือเป็นวาระสำคัญอันหนึ่งของการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในครั้งนี้ การเข้าร่วมงานของแขกทุกคนในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ และความสำคัญที่ภาคเอกชนสหรัฐฯ มีต่อประเทศไทย หวังว่างานในวันนี้จะเป็นพื้นฐาน (platform) ในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงประเทศและเศรษฐกิจของไทยและสหรัฐฯ ถือเป็นหุ้นส่วนธรรมชาติและมีผลประโยชน์ร่วมกัน (natural and mutually-beneficial partners) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ ที่ในปีนี้ฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ การค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งแม้จะมีการแพร่ระบาดทั่วโลก ด้วยมูลค่ามากกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีผ่านมา ทำให้สหรัฐฯ กลับมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทยเป็นครั้งแรก ในรอบ 15 ปี ในขณะที่การผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ “เกียร์สูง” (high gear) อาทิ นโยบาย digital wallet และ Blockchain เป็นต้น รวมถึงการบริโภคที่เพิ่มขึ้นควบคู่กับความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น อาทิ การเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม เศรษฐกิจสีเขียว และการเปลี่ยนผ่านพลังงาน การสร้างไทยให้เป็นประเทศนวัตกรรม ที่ครอบคลุม และบูรณาการสำหรับลูกหลานในอนาคต (an “Innovative, Inclusive and Integrated (3Is) Thailand”) อาทิ การเปิดตลาดใหม่ เร่งเดินหน้าเจรจา FTA การสร้างกลไกใหม่แห่งการเติบโตแบบครอบคลุม และการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อลดข้อจำกัด และข้อห่วงกังวล เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนต่างประเทศ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1089603

“สหรัฐฯ” เร่งนำเข้าชิปจากเวียดนามและตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย

จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปี สหรัฐอเมริกานำเข้าผลิตภัณฑ์ชิปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากกลุ่มประเทศในเอเชีย 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม อินเดียและกัมพูชา เป็นต้น โดยจากข้อมูลในเดือน ก.พ. สหรัฐฯ นำเข้าชิปเพิ่มขึ้น 17% คิดเป็นมูลค่า 4.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และหากคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าจากตลาดเอเชียอยู่ที่ 83% ของตลาดทั้งหมด โดยเฉพาะตลาดอินเดียที่สหรัฐฯ นำเข้าอย่างก้าวกระโดด มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น 34 เท่า เป็นมูลค่าที่ 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ตลาดเวียดนามและไทยต่างครองส่วนแบ่งทางการตลาดของการผลิตชิปในสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนทางการค้าเพิ่มขึ้น 75% และ 62% ตามลำดับ และในปัจจุบัน เวียดนามมีสัดส่วนการนำเข้าชิปจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เป็นเวลา 7 เดือนติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ได้กระจายห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ โดยทำการย้ายผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดดั้งเดิมไปยังตลาดเกิดใหม่

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/us-increases-chip-imports-from-vietnam-and-emerging-asian-markets-2129952.html

บริษัทสหรัฐฯ เล็งสำรวจโอกาสลงทุนในเวียดนาม

ตัวแทนของบริษัทในสหรัฐฯ มากกว่า 50 แห่งจะเดินทางเยือนเวียดนามระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุนและโอกาสทางธุรกิจภายใต้โครงการประจำปีที่จัดขึ้นโดยสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ทั้งนี้ คุณ Vũ Tự Thành ตัวแทนสภาธุรกิจเวียดนาม กล่าวว่าองค์กรได้จัดงานดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี และในครั้งนี้นับว่าเป็นภารกิจที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศ บริษัทสหรัฐฯ บางรายมีมุมมองที่น่าสนใจกับเวียดนามในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและผู้ให้บริการ รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงถึง 8% ในปีที่แล้ว โดยหนึ่งในบริษัทสหรัฐฯ คือ สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ที่ต้องการให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และยังรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้แก่ Pfizer, Johnson & Johnson, Abbott, Visa, Citibank, Meta และ Amazon เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1499610/spacex-apple-pfizer-among-us-businesses-exploring-investment-opportunities-in-vie-t-nam.html

2022 กัมพูชาส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์

การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่งในปีที่แล้ว แม้ระบบสิทธิพิเศษทั่วไปทางภาษี (GSP) ของสหรัฐฯ ที่มอบให้กับประเทศที่พัฒนาน้อย (LDCs) จะยังไม่ได้ต่ออายุ ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ไปยังสหรัฐฯ ในปี 2022 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของกัมพูชามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 450 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกัมพูชาเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานโดยสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูป รวมถึงสินค้าต่างๆ เช่น รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า GSP ขณะที่สินค้านำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ ได้แก่ รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501237385/cambodias-export-to-us-tops-12b-last-year/

กัมพูชาส่งออกไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหัรฐฯ มูลค่ารวมกว่า 11,391 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละกว่า 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของสำนักสถิติสหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 428 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ กว่า 10,963 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า GSP ขณะที่การนำเข้าสินค้าสำคัญของกัมพูชาจากสหรัฐฯ ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501216028/cambodias-export-to-us-surges-to-11-billion/

กัมพูชาเล็งส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปยังสหรัฐฯ

สหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกของกัมพูชา โดยคิดเป็นร้อยละ 43 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมของปีนี้ ซึ่งในปี 2021 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากกัมพูชามีมูลค่าสูงถึง 8.7 พันล้านดอลลาร์ สินค้าส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องแต่งกาย รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง โดยปัจจุบันกัมพูชามีความพยายามเป็นอย่างมากในการผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการส่งออกของประเทศ ซึ่งคาดว่าในอนาคตการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวจะเร่งขยายตัวอย่างรวดเร็วในระยะไม่กี่ปี ผ่านการสนับสนุนจากกระทรวงสำคัญๆ ของรัฐบาล ได้แก่ กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF), กระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ (MAFF), กระทรวงพาณิชย์ (MOC) สหรัฐอเมริกา, กรมวิชาการเกษตร สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำกัมพูชา, หอการค้าอเมริกันในกัมพูชา (AmCham) และวิสาหกิจเขมร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501196186/cambodia-eyes-food-product-export-to-us/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ พุ่งแตะ 7 พันล้านดอลลาร์

สำนักงานสำมะโนสหรัฐ (USCB) รายงานถึงสถานการณ์การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม ซึ่งมีมูลค่าแตะ 7,077 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 64.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่คิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ มูลค่า 305 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.9% ส่งผลทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับทางสหรัฐฯ ที่ 6,771 ล้านดอลลาร์ โดยในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 1,138 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 72% ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท เสื้อผ้า รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ ที่ได้รับผลประโยชน์จากการที่สหรัฐฯ มอบสิทธิพิเศษทางการค้า GSP ให้แก่กัมพูชา ในทางกลับกันการนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ คือ รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501148274/cambodias-export-to-us-soars-to-7-billion/

การค้า กัมพูชา-สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 45% แตะ 5,892 ล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,892 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 คิดเป็นมูลค่า 5,695 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 3 คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าเพื่อท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่กัมพูชานำเข้ายานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ (GSP) ที่ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคการส่งออกของกัมพูชา โดยในปี 2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134689/cambodia-us-trade-surges-45-to-5892-million/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ แต่เกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ พุ่งแตะมูลค่า 5.892 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 5.695 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 196 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134336/almost-6-billion-cambodia-us-trade-registered-in-first-seven-months/