การก่อสร้างทางหลวงไปยังเวียงจันทน์จะแล้วเสร็จในเดือนหน้า

การก่อสร้างถนนคอนกรีตพร้อมเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างใน 4 เส้นทางไปยังเวียงจันทน์ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 85% และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในเดือนกรกฎาคม คุณโล่พันตาหัวหน้าฝ่ายออกแบบการก่อสร้างอธิบายว่า เราได้วางระบบไฟฟ้าพร้อมกับระบบประปาไปพร้อมกับการทำถนนคอนกรีตที่จะเป็นเส้นทางหลักไปยังนครหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นในทางเศรษฐกิจการลงทุนดังกล่าวทำให้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศพัฒนาขึ้นและจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุนและสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุนจากต่างประเทศ โครงดังกล่าวมีมูลค่าการก่อสร้าง 45.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 405 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/20/78399/

Lao Airlines ระงับเที่ยวบินไปยังจีน

Lao Airlines จะยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดจากเวียงจันทน์ไปยังจุดหมายปลายทางสามแห่งในจีน ได้แก่ ฉางโจว เซี่ยงไฮ้และหางโจวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อควรระวังหลังจากเกิดการระบาดของโรค coronavirus ในหวู่ฮั่น ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของผู้ให้บริการธงประจำชาติกล่าวว่า“ เราวางแผนที่จะหยุดเที่ยวบินจากเวียงจันทน์ไปยังจุดหมายปลายทางทั้งสามเป็นการชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส โดยจะปิดจนกว่าเราจะได้รับการแจ้งเตือนเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีนเกี่ยวกับสถานการณ์” การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ายังคงแพร่กระจายและไม่มีวัคซีนรักษาทำให้ จีนมีมาตราการห้ามคนเข้าและคนออกไปยังประเทศปลายทางๆอื่นร่วมถึงสปป.ลาว ในระยะยาวหากสถานการณ์กินเวลานานสิ่งที่ตามมาคือพิษทางเศรษฐกิจที่จะส่งผลไปยังนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสปป.ลาวที่จะสูญเสียนักท่องเที่ยวชาติหลักอย่างจีนในช่วงนี้ไป ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนปี 61 เข้ามาเที่ยวในสปป.ลาวมากถึง 4.9 ล้านคนรวมถึงกลุ่มลงทุนชาวจีนที่เป็นกลุ่มนักลงทุนหลักของสปป.ลาว ดังนั้นสปป.ลาวเศรษฐกิจอาจชะงักลงได้ชั่วขณะจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-airlines-suspend-flights-three-chinese-routes-112774

งานแสดงสินค้าการเกษตรและสินค้าในประเทศเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตเวียงจันทน์

งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารของเวียงจันทน์และคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคสินค้าในประเทศ ในงานมีธุรกิจท้องถิ่นกว่า 300 แห่งแสดงสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยงมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นใช้และบริโภคผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น รวมถึงผู้ผลิตและเกษตรกรในท้องถิ่นยังได้ขยายตลาดและมีการโปรโมตสินค้าของพวกเขาสู่สาธารณะอีกด้วยในท้ายที่สุดจะช่วยลดปริมาณสินค้านำเข้าได้ ซึ่งปัจจุบันงานดังกล่าวยังจัดขึ้นเฉพาะเวียงจันทร์เท่านั้นแต่ในอนาคตจะมีการจัดงานแสดงสินค้าในหลายๆแขวงเพื่อกระตุ้นการบริโภค รวมถึงส่งเสริมและเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตทั้งประเทศ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/fair-boosts-market-opportunities-vientiane-farmers-producers-109501

เวียงจันทน์ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสปป.ลาวเพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค

เจ้าหน้าที่ในเวียงจันทน์จะส่งเสริมการใช้สินค้าที่ทำจากสปป.ลาวให้เพิ่มขึ้นและส่งเสริมการเพาะปลูกผลิตผลเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ ประเด็นเหล่านี้ถูกกล่าวถึงในการประชุมที่จัดขึ้นที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินค้าที่ผลิตในประเทศและลดการนำเข้าสินค้าต่างประเทศที่ไม่จำเป็น การประชุมมีผู้เข้าร่วมจากตัวแทนของหน่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนและธุรกิจการเกษตร สมาชิกคณะผู้บริหารของเวียงจันทน์และผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/vientiane-looks-boost-use-lao-made-products-enhance-consumer-protection-107692

ทางด่วนเวียงจันทน์ ถึง วังเวียงเสร็จสมบูรณ์ 40%

งานก่อสร้างร้อยละ 40 แล้วเสร็จบนทางพิเศษที่เชื่อมระหว่างเมืองหลวงเวียงจันทน์กับวังเวียงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง การก่อสร้างถนน 113.5 กม. เริ่มเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาคาดว่าจะใช้เวลาสามปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งกำลังตรวจสอบการดำเนินงานของโครงการ จะคำนึงถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว ถนนสายใหม่ซึ่งมีอุโมงค์ยาว 679 เมตรที่เขาภูผาจะทำให้ระยะทางสั้นลง 43 กม. เมื่อเปรียบเทียบกับถนนหมายเลข 13 เหนือที่มีอยู่เดิม เมื่อเปิดให้ใช้งานทั่วไปผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการ ผู้ใช้ถนนคาดว่าจะจ่าย 550 กีบ ต่อกิโลเมตรหรือประมาณ 62,000 กีบสำหรับการเดินทางเที่ยวเดียวระหว่างเวียงจันทน์และวังเวียง นักลงทุนจีนจะดำเนินโครงการสัมปทาน 50 ปีซึ่งมีมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามรัฐบาล สปป.ลาวถือหุ้นร้อยละ 5 ของโครงการ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane.php