เอ็กซิมแบงก์ใจถึงพักต้น-ดอกยาว6เดือน ช่วยผู้ส่งออก

เอ็กซิมแบงก์ ใจถึงลุยพักหนี้ ทั้งต้น-ดอกยาว 6 เดือนช่วยผู้ส่งออก พร้อมให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำใช้หมุนเวียน ผ่อนยาว 7 ปี วงเงิน 20 นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการดูแลลูกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิดโดยให้พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน โดยขณะนี้ได้ติดต่อไปยังลูกค้าโดยตรงและได้พักต้นพักดอกไปได้แล้วกว่า 1,400 ราย วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท และหากรายใดทำประกันการส่งออกไปยังผู้ซื้อประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก จะยืดเวลาจ่ายเบี้ยคุ้มครองสูงสุดถึง 270 วัน นอกจากนี้ธนาคารยังช่วยเหลือผู้ส่งออก ที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ลูกค้าเอ็กซิมแบงก์ให้สามารถขอสินเชื่อระยะยาวดอกเบี้ยต่ำได้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ชำระคืน 7 ปี  ดอกเบี้ย 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 และฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน บสย. 2 ปีแรก แต่ถ้าต้องการวงเงินเกิน 20 ล้านบาท จะต้องขอกู้ไปลงทุน ลักษณะสินเชื่อระยะยาว 7 ปี ดอกเบี้ย 2% ต่อปีใน 2 ปีแรก วงเงินสูงสุดถึง 100 ล้านบาทได้…

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/767381

EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินแก่ธนาคารชเว ส่งเสริมผู้ประกอบการเมียนมานำเข้าสินค้าไทย

นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ ดร.ลา ตาว (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารชเว (Shwe Bank) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK สำหรับให้ธนาคารชเวนำไปใช้สนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการเมียนมาที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้การค้าไทย-เมียนมามีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยมี ดร.เตง ซอ (กลาง) รองประธานบริหาร ธนาคารชเว เป็นสักขีพยาน ณ ธนาคารชเว สำนักงานใหญ่ ย่างกุ้ง เมียนมา เมื่อเร็ว ๆ นี้

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3098728

EXIM Bank แนะผู้ประกอบการหาลู่ทางลงทุน RCEP พร้อมเตรียมกลยุทธ์รับมือตลาดเปิด มองอินเดียมีโอกาสกลับเข้าร่วมกลุ่ม

ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุ จบไปแล้วกับการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35 ที่ประเทศไทยในฐานะประธานและเจ้าภาพการประชุมอาเซียนตลอดทั้งปี 2562 ซึ่งแม้ว่า RCEP จะยังไม่สำเร็จผลอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์และมีเวลาในการเตรียมพร้อมเพื่อรุกโอกาสการค้าการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมกลยุทธ์ให้พร้อม โดยเฉพาะด้านการลงทุนที่เปิดกว้างขึ้นจากความตกลง RCEP ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ควรศึกษาลู่ทางและแสวงหาโอกาสลงทุนในประเทศสมาชิก RCEP โดยอาศัยจุดแข็งของประเทศนั้น อาทิ ความพร้อมด้านแรงงาน และทรัพยากรทางธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกิจการ โดยประเทศสมาชิก RCEP (ไม่รวมอินเดีย) มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันถึง 24.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 29% ของขนาดเศรษฐกิจโลก ขณะที่มีประชากรรวมกันถึงราว 3.6 พันล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนประชากรโลก

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3063988