การส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรป

กัมพูชาและสหภาพยุโรป ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าทวิภาคีและเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วให้การสนับสนุนกิจกรรมทางการค้าของประเทศที่อยู่ในเกณฑ์พัฒนาน้อยที่สุดต่อไป โดยเสนอการปฏิบัติเฉพาะในระบบการค้า ซึ่งคำมั่นเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมของทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และ รองหัวหน้าคณะสถานทูตอังกฤษในกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเท่าเทียมกันระหว่างสมาชิก นอกจากนี้กัมพูชายังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปสนับสนุนกิจกรรมการค้าของกัมพูชาต่อไป ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นในแง่ดีเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศโดยเฉพาะในด้านการค้าเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรปมีมูลค่าถึง 1.05 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 ซึ่งกัมพูชาส่งออกไปยังสหภาพยุโรปมากกว่า 978 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นจักรยาน เสื้อผ้าและรองเท้า ตามตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764309/cambodia-uk-vow-to-boost-trade-cooperation/

ผลกระทบจาก COVID-19 ต่อการทำการเกษตรของกัมพูชา

ในปี 2020 ภาคการเกษตรยังคงมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของกัมพูชาโดยคิดเป็นร้อยละ 22 ของ GDP สร้างการจ้างงานถึง 1 ใน 3 ของภายในประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเกิดโรคระบาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคการเกษตรก็มีการชะลอตัวและหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 15 ปี ในปี 2019 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภัยแล้งที่ยืดเยื้อตั้งแต่ในปี 2013 ซึ่งมีเกษตรกรชาวกัมพูชาจำนวนมากเคลื่อนย้ายไปต่างประเทศเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้โน้มน้าวให้ภาคการเกษตรถือเป็นภาคสำคัญทางเศรษฐกิจที่จะเผชิญกับแรงกดดันจากการแพร่ระบาด ซึ่งในแง่ของผลิตภัณฑ์ข้าวถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด โดยมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของ GDP ในภาคการเกษตร ซึ่งผลกระทบของ COVID-19 ต่อผลผลิตทางการเกษตรในห่วงโซ่คุณค่าและความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ โดยจากผลการวิจัยสรุปได้ว่ารายได้จากการทำฟาร์มลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่าร้อยละ 30 จาก 283 ดอลลาร์ ในเดือนมกราคมสู่ 195 ดอลลาร์ ภายในเดือนเมษายน ซึ่งหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764323/the-effects-of-covid-19-on-farming/

แคมโบเดียอังกอร์แอร์กำลังกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ

แคมโบเดียอังกอร์แอร์กลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมาเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชาให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไปแคมโบเดียอังกอร์แอร์จะกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศบนเส้นทางระหว่างกรุงพนมเปญและจังหวัดเสียมราฐ ดังรายงานของโฆษกสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ ซึ่งการเริ่มต้นเที่ยวบินใหม่ในครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นและเพื่อเป็นส่วนช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/cambodia-angkor-air-to-resume-domestic-flights-169407/

ภาพรวมราคาไก่สดและสุกรสดภายในประเทศกัมพูชา

ราคาขายไก่สดและสุกรหน้าฟาร์มในช่วงเทศกาลประชุมแบน ซึ่งมีความต้องการในท้องถิ่นลดลงเล็กน้อยในปีนี้เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ตามข้อมูลของสมาคมผู้เลี้ยงปศุสัตว์แห่งกัมพูชา (CLRA) โดยประธานของ CLRA กล่าวว่าสภานการณ์ในช่วงปัจจุบันแตกต่างจากปีที่แล้ว ทั้งราคาปรับตัวสูงขึ้นและตลาดปลายทางเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 ในช่วงเวลาเดี่ยวกันของปีนี้ ซึ่งปีนี้ราคาหน้าฟาร์มลดลงจาก 13,000 เรียล ก่อนเทศกาลประชุมแบนสู่ 12,000 เรียลต่อกิโลกรัมสำหรับสุกร (มีชีวิต) และ ราคาไก่ลดลงอย่างมากอยู่ระหว่าง 4,000 เรียลถึง 8,000 เรียลต่อกิโลกรัมขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อ อย่างไรก็ตามทางประธาน CLRA กล่าวว่าการลดลงของราคาไก่เป็นเพราะอุปทานที่ล้นตลาดร่วมด้วย โดยภายในประเทศบริโภคไก่ประจำวันอยู่ที่ 150,000 ตัว แต่จำนวนไก่ที่สามารถผลิตได้มีอยู่ทั้งสิ้น 200,000 ตัวต่อวัน ซึ่งเกษตรกรบางรายเริ่มกระจายการทำฟาร์มไปสู่การปลูกพืชผักแบบผสมผสานนับตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764199/chicken-and-pig-farm-prices-fall/

กัมพูชาส่งออกผลิตผลทางการเกษตรมากกว่า 3 ล้านตัน

สินค้าเกษตรของกัมพูชามากกว่า 3 ล้านตัน ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ณ วันที่ 11 กันยายน ตามรายงานของกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง โดยรายงานระบุเพิ่มเติมว่ากัมพูชาส่งออกข้าวเปลือกรวม 463,805 ตัน ซึ่งจำนวน 164,962 ตัน ถูกส่งออกไปยังจีน 154,287 ตัน ไปยังสหภาพยุโรป 61,700 ตัน ไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนและตลาดอื่นๆ ที่ 83,127 ตัน นอกจากข้าวสารแล้วกัมพูชายังส่งออกมันเส้น 1.18 ล้านตัน มันสำปะหลังสด 512,350 ตัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 202,207 ตัน ข้าวโพด 193,660 ตัน กล้วยสด 213,486 ตัน มะม่วง 51,670 ตัน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน สหภาพยุโรป อาเซียน ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา ในขณะที่รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อส่งเสริมการผลิตอาหารในประเทศเพื่อลดการนำเข้าอาหารในช่วงของการระบาดใหญ่ร่วมด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764124/cambodia-has-exported-more-than-3-million-tonnes-of-agricultural-produce/

อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของกัมพูชาคาดว่าจะเผชิญกับการชะลอตัว

Oxford Economics ระบุว่าการระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งออกของกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยเสริมว่าการส่งออกของกัมพูชามากถึงร้อยละ 66 เกิดจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งได้รับประโยชน์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและสิทธิประโยชน์ทางการค้าหลักจากผู้ซื้อหลัก โดยคาดการณ์ว่าการไหลเข้าของ FDI จะลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ และการฟื้นตัวในปี 2021 จะถูกชะลอลงท่ามกลางความต้องการเครื่องนุ่งห่มทั่วโลกที่อ่อนแอและการถอนบางส่วนจากสิทธิพิเศษทางการค้า “Everything but Arms : EBA” ระหว่างสหภาพยุโรป ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง Oxford Economics เน้นย้ำอีกว่าแม้จะเกิดสถานการณ์เลวร้าย ณ ปัจจุบัน แต่ในกลุ่ม CLMV จะยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดย Oxford Economics คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มที่จะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2028 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยประมาณของ ASEAN-5 ที่เติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764104/cambodias-garment-industry-projected-to-face-brunt-of-clmv-exports-slowdown/