สหรัฐฯ ส่งเสริมภาคเกษตรในรัฐคะฉิ่น

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้พบปะกับสมาชิกภาคเกษตรของรัฐคะฉิ่นกว่า 60 คนในเมืองมิตจีเกี่ยวกับกิจกรรมของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ในการพัฒนาการเกษตรและการพัฒนาระบบอาหาร ในการปรับปรุงความเป็นอยู่ของเกษตรกร กิจกรรมพัฒนาระบบเกษตรและอาหารเป็นโครงการเกษตรซึ่งเป็นครั้งแรกของ USAID ที่ขยายไปสู่รัฐคะฉิ่น โครงการมีระยะเวลาห้าปีมูลค่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐคาดเข้าถึงประชาชนกว่า 125,000 คนในรัฐคะฉิ่น รัฐฉาน และเขตแห้งแล้งส่วนกลาง การสนับสนุนมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายและบริษัทเกษตรในพื้นที่ โดยเงินทุน 42 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐและช่วยสร้างงานได้ 3,500 ตำแหน่ง แนวทางดังกล่าวคาดจะสร้างโอกาสการทำมาหากินมากขึ้นสำหรับชุมชนที่หลากหลายในรัฐคะฉิ่น ซึ่งสหรัฐอเมริกามุ่งมั่นที่จะดำเนินการโครงการอย่างเปิดและเผยโปร่งใส

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/us-promotes-inclusive-agriculture-led-growth-kachin-state.html

มาเลเซียคาดมีผู้ป่วยเมียนมาเพิ่ม

สภาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของมาเลเซียคาดนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourist) สร้างรายได้ 22 ล้านริงกิต (8 พันล้านจัตหรือ 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยชาวเมียนมาที่เดินทางมามาเลเซียจะต้องจ่ายราคาเดียวกับชาวมาเลเซีย ปีที่แล้วโรงพยาบาลในมาเลเซียมีรายได้ 12.8 ล้านริงกิตจากผู้ป่วยชาวเมียนมาและจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มาเลเซียมีโรงพยาบาลเอกชน 200 แห่งไม่รวมถึงคลินิกทันตกรรมและศูนย์สุขภาพและสุขภาพ มีโรงพยาบาลพันธมิตรที่ดีที่สุด 78 แห่ง พันธมิตรยอดเยี่ยม 21 รายและสมาชิกสามัญ 52 ราย ส่วนใหญ่ชาวเมียนมาที่เดินทางไปมาเลเซียนั้นเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ มะเร็ง การทำเด็กหลอดแก้ว และโรคเบาหวาน ในปี 54 มีผู้ป่วยมากกว่า 2,000 รายที่มาจากเมียนมา ภายในปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 16,000 คน อนาคตอาจมีการร่วมมือกันสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์และทำงานร่วมกับโรงพยาบาล 7 แห่งรวมถึงโรงพยาบาลวิคตอเรีย ในย่างกุ้ง ทั้งนี้ยังได้รับรางวัล“ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกด้านการดูแลสุขภาพ” และ“ประเทศอาเซียนที่ดีที่สุดสำหรับคนวัยเกษียณ” เร็ว ๆ นี้รายงานปี 61 มาเลเซียติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำระดับโลก

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/malaysia-expects-more-myanmar-patients.html

ซูซูกิเปิดแผนผ่อนชำระสำหรับรถสี่รุ่น

บริษัท รถยนต์ซูซูกิเมียนมาร์มอเตอร์ จำกัด เปิดตัวแผนการผ่อนชำระใหม่สำหรับรถยนต์สี่รุ่นในสายการผลิตในประเทศ โดยร่วมมือกับธนาคารสหกรณ์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการใหม่นี้สำหรับผู้ที่ซื้อรุ่น Ciaz, Ertiga, Swift GL และ Swift GLX ในเดือนนี้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อด้วยการชำระเงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์จากนั้นชำระยอดเป็นรายเดือนรวมถึงประกันของ GGI Insurance วัตถุประสงค์ของธนาคารคือการส่งเสริมการบริการทางการเงินใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค รถซูซูกิที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ได้แก่ Ciaz ราคาอยู่ที่ 27 ล้านจัต, Ertiga mpv ที่ 27.2 ล้านจัต, Suzuki Swift GL และ GLX  แฮทช์แบค ที่ .9.9 ล้านจัตและ 24.1 ล้านจัตตามลำดับ

ที่มา :https://www.mmtimes.com/news/suzuki-launches-instalment-plan-purchases-four-models.html

ตัวเลขนักท่องเที่ยวเมียนมาเพิ่ม

กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวเผยข้อมูลตั้งแต่เดือน ม.ค-ก.ย.ปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 390,000 รายหรือ 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นเ กาหลีใต้ และจีน ผลจากการผ่อนคลายวีซ่าในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว วีซ่าอนุญาตให้พำนักในประเทศได้นานถึง 28 วัน ในวันที่ 1 ตุลาคมรัฐบาลได้ขยายวีซ่าเดินทางเข้าประเทศจากเยอรมนี รัสเซีย สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลียเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกให้มากขึ้น นักท่องเที่ยวมีเวลาน้อยมากในการเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้รับรู้เรื่องการผ่อนคลายวีซ่าล่วงหน้าแค่ 3 เดือน มีเพียงนักเดินทางแบบแบ็คแพ็คเท่านั้นที่สามารถเพลิดเพลินกับนโยบายใหม่ได้ ตั้งแต่ ม.ค. –ก.ย.ปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปกว่า 120,000 คน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากข้อมูลพบว่าผู้มาเยือนจากเยอรมนี อิตาลี รัสเซีย สเปน และโปแลนด์ใช้เวลาเฉลี่ย 14 วันและอยู่ในกลุ่มผู้ใช้จ่ายสูงสุด

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/tourist-numbers-myanmar-rise.html

อนาคตของมหานครย่างกุ้ง

มหานครย่างกุ้งในอนาคตกำลังจะพัฒนาด้วยโครงการ 80 เมกกะโปรเจ็ค ผู้ประกอบการไทยที่ SMEs จะได้ประโยชน์จากโครงการเหล่านี้แน่นอน เพราะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ด้วยเหตุผลทางภูมิศาสตร์ เรามีความสะดวกที่จะส่งสินค้าเข้าไปได้หลากหลายกว่าประเทศอื่นๆ ยกเว้นจีนที่เขามีชายแดนติดกับเมียนมายาวเช่นเดียวกับเรา แต่ไทยได้เปรียบเพราะใกล้เมืองหลวงเก่าเมืองย่างกุ้งกว่าจีน โครงการหนึ่งที่มีผลต่อการพัฒนามหานครย่างกุ้งอย่างมาก คือ โครงการสร้างถนนวงแหวนรอบนอกรอบที่หนึ่งและรอบที่สอง ทางด่วนที่ก่อสร้างนี้จะเป็นทางยกระดับสองชั้น ที่มีทั้งถนนหกเลน และมีทางรถไฟอยู่ด้วย ข้างล่างจะเป็นทางถนนธรรมดา ซึ่งธุรกิจต่อเนื่องทั้งต้นน้ำปลายน้ำล้วนได้ประโยชน์ทั้งสิ้น เริ่มจากการที่สถาปนิกที่ใช้ออกแบบต่างๆ ซึ่งเมียนมานิยมจ้างสถาปนิกจากประเทศสิงคโปร์ ขณะที่ค่าจ้างของสถาปนิกไทยถูกกว่าสิงคโปร์มากกว่าครึ่งแต่คุณภาพไม่ต่างกัน ต่อมาวิศวกรอาชีพนี้ก็เช่นเดียวกัน และผู้ประกอบการที่ค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ โอกาสของ SMEs ก็มีเช่นกัน อย่างผู้รับเหมาก่อสร้างที่สามารถรับช่วงงานต่อจากผู้เล่นรายใหญ่ ผู้ตกแต่งภายในที่จะมีมากขึ้นในการพัฒนาประเทศคราวนี้ ดังนั้นยังมีความต้องการอีกมากมายและยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน เมียนมาคือตลาดแห่งสุดท้ายของประเทศ CLMV ที่กำลังเปิดอยู่ ดังนั้นไทยควรรีบความโอกาสนี้ไว้ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มดุเดือดขึ้น

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/trade/604710

เกาหลีใต้ย้ำยังมุ่งมั่นจะลงทุนในเมียนมาต่อไป

สถานทูตเกาหลีใต้ (ROK) ได้แถลงการณ์ถึงความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในเมียนมา ภายหลังจากที่มีข่าวว่าบริษัทเกาหลีใต้พิจารณาจะย้ายไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างบังคลาเทศ คำแถลงการณ์ของสถานทูตกล่าวต่อไปว่ายังไม่เคยได้ยินเรื่องการย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่นแต่อย่างใด แต่รายงานข่าวของบังคลาเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอ้างว่าธุรกิจของเกาหลีใต้ต้องการย้ายไปยังบังคลาเทศตามคำแถลงของสำนักงานเขตเศรษฐกิจบังกลาเทศ (BEZA) และบริษัท เกาหลีอุตสาหกรรมคอมเพล็กซ์ จำกัด (KIC) เนื่องจากข้อบกพร่องในเขตอุตสาหกรรม สถานทูตเกาหลีใต้กล่าวว่าการลงทุนของสองประเทศนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เมียนมาและเกาหลีใต้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงข้อตกลงการให้เงินกู้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่เป็นอันดับหกมีการลงทุน 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในธุรกิจ 179 แห่ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/south-korea-reiterates-commitment-investing-myanmar.html