กัมพูชายกเว้นค่าปรับและค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาตัดสินใจที่จะยกเว้นค่าปรับสำหรับการต่ออายุใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวที่หมดอายุในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม จนถึงสิ้นปี 2021 นอกจากนี้ยังกำหนดให้ยกเว้นการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในปี 2021 อีกด้วย โดยการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบันและถือเป็นการแบ่งเบาภาระทางด้านการทำธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวในขณะนี้ ซึ่งในช่วงที่โควิด-19 ระบาดในปี 2020 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือเพียง 1.31 ล้านคน ลดลงกว่าร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยแม้ว่ากัมพูชาจะเผชิญกับวิกฤตนี้อย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศยังคงอยู่ในทิศทางบวก ซึ่งในปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศ (คนท้องถิ่น) มีอยู่ประมาณ 9 ล้านคน ลดลงเล็กน้อยเพียงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50829230/2021-tourism-licence-renewal-fees-and-penalties-waived/

ททท.จับมืออาเซียนต้า จัดประชุมสมาชิก เตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพ ในการขายท่องเที่ยวไทย หลังโควิดคลี่คลาย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยกองตลาดอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ร่วมกับ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ สมาคมท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Association : ASEANTA) จัดประชุมให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ได้เตรียมความพร้อมหลังสถานการณ์ COVID-19 และเพิ่มขีดความสามารถในการที่จะทำการตลาดท่องเที่ยว กับกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดในภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับเครือข่าย ในการส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวสู่ประเทศไทย เมื่อมีการเปิดการเดินทางได้ตามปกติ โดยได้มีการอัพเดทสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคภาคเหนือ และนำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการ ASEANTA จำนวน 60 คน ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ได้รับทราบ พร้อมกิจกรรม Workshop กับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาระดมความคิดเห็น และแนวคิดในการจัดทำ Product หรือเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อรองรับการท่องเที่ยวแบบ New Normal ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างประเทศ ททท. จึงได้จัดทำ Platform Online Thailand Tourism Virtual Market (TTVM) ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและการตลาดดิจิตัล ในรูปแบบ B2B (Business to Business) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำตลาด

ที่มา : https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1612282/

เวียดนามเล็งเปิดเผยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นาง Nguyen Thi Thanh Huong รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมจังหวัดกว๋างนิญว่าเวียดนามจะไม่เปิดประเทศอย่างเต็มที่ จึงจะต้องเลือกตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการสูงและมีความพร้อมท่องเที่ยวแบบแพ็คเกจทัวร์เหมาจ่าย แต่ว่ารีสอร์ทต้องมีพื้นที่การแยกกักและไม่มีการถ่ายเทอากาศ ทั้งนี้ คุณ Nguyen Manh Tien รองประธานคณะกรรมการสมัชชาแห่งชาติ เรียกร้องให้ทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกฎระเบียบและมาตรการ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าประเทศไทยเล็งที่จะเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแต่ว่าต้องมีหลักฐานการฉัดวัคซีน COVID-19 แล้ว นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามมีวัคซีน AstraZeneca จำนวน 117,600 โดสที่ได้รับเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20210308/vietnam-eyes-stepwise-plan-to-reopen-to-foreign-tourists/59656.html

คาดการณ์จำนวนเที่ยวบินของกัมพูชาลดลงในปี 2021

ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์มีเที่ยวบินตามกำหนดเวลาทั้งขาเข้าและขาออกเพียงประมาณ 223 เที่ยวบิน ระหว่างสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ของกัมพูชา ตามรายงานของผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานกัมพูชา โดยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานกัมพูชากล่าวว่าการจราจรทางอากาศในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020 ซึ่งลดลงรวมกว่าร้อยละ 94 ซึ่งมีเที่ยวบินเข้าและออกโดยเฉลี่ย 13 เที่ยวบินต่อวัน ณ สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพนมเปญ โดยสนามบินนานาชาติสามแห่งของกัมพูชาให้การต้อนรับผู้โดยสาร 2.13 ล้านคน (ระหว่างประเทศ ภายในประเทศและการต่อเครื่อง) ในปี 2020 ลดลงกว่าร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2019 ตามข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) รวมถึงข้อมูลจาก SSCA แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาจัดการขนส่งสินค้า 49,983 ตัน ณ สนามบินนานาชาติสามแห่งของประเทศ ลดลงร้อยละ 31 จากตัวเลขของปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50816334/number-of-flights-down-by-far-in-early-2021/

ถ้ำจอมอ๋องที่ยาวที่สุดเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ มีพิธีเปิดตัวถ้ำจอมอ๋องในแขวงอุดมไซอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของแขวงอุดมไซ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยหวังว่าถ้ำจอมอ๋องจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมได้จำนวนมาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเยือนสปป.ลาวไม่ได้ ทำให้รัฐบาลต้องพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อเข้ามาทดแทนชาวต่างชาติที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ  ซึ่งถ้ำจอมอ๋องจะเป็นสถานที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวที่หนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวของสปป.ลาวกระเตื้องขึ้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงศักยภาพของแขวงอุดมไซในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวและพิจารณาว่าการพัฒนาทรัพยากรเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมเพื่อสนับสนุนความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Longest_22.php

เจ้าท่า ลุยปรับปรุงท่าเรือเกาะสมุย บูมเที่ยวทะเลอ่าวไทย

กรมเจ้าท่า เร่งปรับโฉมใหม่ท่าเรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี คาดแล้วเสร็จปี 67 รองรับการท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยเพิ่มสูงขึ้น-ยกระดับมาตรฐานท่าเรือให้ปลอดภัย นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการตามแผนด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ เพื่อยกระดับท่าเรือให้ได้มาตรฐานและความปลอดภัย ซึ่งท่าเทียบเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือสำคัญที่จะรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่าเรือเกาะสมุย เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน และเกาะม้า จ.สุราษฎร์ธานี ในอนาคตอาจมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมเจ้าท่า จึงดำเนินการปรับปรุงรื้อถอนท่าเทียบเรือเดิมบางส่วน และปรับปรุงท่าเรือดังกล่าว ได้แก่ ปรับปรุงโครงสร้างท่าเทียบเรือเพื่อส่งเสริมหน้าท่าพื้นที่ 864 ตารางเมตร และเพิ่มพื้นที่สะพานทางเดิน 2,340 ตารางเมตร สร้างอาคารพักคอยรองรับผู้โดยสารเรือครุยส์ ขนาด 1,800 ตารางเมตร และอาคารพักคอยด้านหลังท่าเทียบเรือ 182.25 ตารางเมตร และงานก่อสร้างด้านอื่นๆ ด้วยรูปแบบที่ทันสมัย และได้มาตรฐานความปลอดภัย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จปี 67 ทั้งนี้ การปรับปรุงท่าเรือเกาะสมุยจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในอนาคต หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจฝั่งอ่าวไทยในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดี ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกด้วย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/822510

กระแสตอบรับโรงแรมในหาดงาปาลีไม่สู้ดี หลังกลับเปิดมาใหม่อีกครั้ง

โรงแรมและรีสอร์ตประมาณ 10% ที่ชายหาดยอดนิยมอย่างหาดงาปาลีได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดใหม่แต่กระแสตอบรับของจำนวนนักท่องเที่ยวกลับน่าผิดหวัง แม้จะพยายามดำเนินการตามมาตรการป้องกัน COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬา โดยผู้ที่เดินทางด้วยเครื่องบินไม่จำเป็นต้องได้รับการกักตัว แต่จะกักตัวเฉพาะผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจากรายงานยังพบว่าบางโรงแรมและรีสอร์ตมีจำนวนผู้เข้าพักเป็นตัวเลขแค่สองหลักเท่านั้น สำหรับสถานประกอบการที่ได้รับอนุญาติให้กลับมาเปิดอีกครั้งมีเพียง 5 แห่ง จาก 60 แห่ง และต้องปฏิบัติตามแนวทางป้องกัน COVID-19 ได้แก่ Amazing Ngapali Resort Hotel, AZ Family Resort Hotel, Royal Linthar Lodge, Kyaw Myanmar Lodge และ Htein Linn Thar Guest House อย่างไรก็ตาม  Amazing Ngapali Resort ถูกสั่งปิดบริการเมื่อไม่นานหลังจากตรวจพบผลเป็นพบเชื้อ COVID-19 และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 22 มกราคม 64 ที่ผ่านมา จากรายงานของคณะกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวพบว่ามีโรงแรมอีกสิบแห่งได้ยื่นขออนุญาตเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/ngapali-hotels-open-poor-response.html

ท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวในกัมพูชาคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

การก่อสร้างท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในจังหวัดกำปอตเสร็จสมบูรณ์แล้วประมาณร้อยละ 50 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 โดยความคืบหน้าดังกล่าวได้นำเสนอในที่ประชุมเพื่อทบทวนการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการท่องเที่ยวเพื่อการเติบโต ด้านสิ่งแวดล้อมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงใน 4 จังหวัดชายฝั่งของกัมพูชา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและประธานคณะกรรมการบริหารโครงการระดับชาติเป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 20 ม.ค. โดยการประชุมดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการท่องเที่ยว ผ่านโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยว ได้แก่ ท่าเรือนานาชาติกำปอตเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิผลและสำเร็จลุล่วงตามแผนที่วางไว้ เพื่อเป็นการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50806066/tourism-seaport-construction-to-be-completed-by-year-end/

รัฐเล็งช่วยค่าจ้างแรงงานท่องเที่ยวคนละครึ่งพยุงกิจการ

“พิพัฒน์” เตรียมคุย “สุชาติ” ทำโค-เพย์ จ่ายค่าจ้างเดือนละครึ่ง 7,500 บาท หวังช่วยเอกชนท่องเที่ยวทั้งระบบจ้างงานเอาไว้ ไม่ต้องปิดกิจการจากผลกระทบของไวรัสโควิด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะหารือกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือแรงงานภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เบื้องต้นรัฐบาลอาจนำแนวทางการร่วมจ่ายเงินค่าจ้าง (โค-เพย์) มาใช้ โดยรัฐบาลและผู้ประกอบธุรกิจจะร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้พนักงานคนละครึ่ง ฝ่ายละ 7,500 บาทต่อเดือน เพื่อพยุงการจ้างงานเอาไว้ในระบบต่อไป หลังจากตอนนี้มีผู้ประกอบธุรกิจหลายรายได้รับความเดือดร้อนและอาจจำเป็นต้องปิดกิจการลงหากไม่มีแนวทางมาช่วยเหลือ ทั้งนี้ในการช่วยเหลือรูปแบบของการร่วมจ่ายเงินค่าจ้างรายเดือนนั้น จะกำหนดให้ช่วยเหลือครอบคลุมการจ่ายค่าจ้างสูงสุดรายละไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรัฐและผู้ประกอบธุรกิจจะช่วยกันจ่ายคนละครึ่ง แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะช่วยเหลือ 1 ปี หรือเป็นเวลากี่เดือน เพราะต้องพิจารณาวงเงินที่จะใช้ด้วย เช่น วงเงินของกองทุนประกันสังคม หรือขอใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งหากใช้เงินในก้อนหลังก็ต้องหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/819774

เอกชนวอนรัฐแจงพร้อมสนองนโยบายล็อกดาวน์

หอการค้าตะวันออกวอนรัฐชี้แจงมาตรการล็อกดาวน์-ภาคท่องเที่ยวจี้ใช้วัคซีนด่วนหวั่นเสียหายหนัก นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย หรือประธานหอการค้าภาคตะวันออก กล่าวว่า หากรัฐจะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ภาคตะวันออก ต้องการให้รัฐเรียกผู้ประกอบการมาหารือร่วมกันก่อน เพื่อทำความเข้าใจในมาตรการต่างๆ เนื่องจากในพื้นที่มีโรงงานจำนวนมาก ที่ต้องทำงานต่อเนื่องไม่สามารถปิดได้ทันที เช่น โรงงานปิโตรเคมี เพราะต้องเร่งผลิตตามคำสั่งซื้อ ขณะเดียวกันขอให้รัฐชี้แจงให้ชัดเจนถึงความหมายของ ล็อกดาวน์ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน เนื่องจากขณะนี้มีความเข้าใจความหมายที่แตกต่างกัน “ถ้าล็อกดาวน์แล้วไม่ยืดเยื้อผู้ประกอบการก็สามารถเข้าใจได้ เพราะตอนนี้ โรงแรม ท่องเที่ยว กระทบอย่างหนัก และไม่รู้ว่าจะทนได้นานแค่ไหน ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งแรก โควิดที่เกิดต้นปี ครั้งที่ 2 กรณีเกิดการระบาดจากทหารอียิปต์ และครั้งนี้ที่เกิดระบาดระลอกใหม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ว่าจำนวนเท่าใด แต่คาดว่าหลายพันล้านบาท” นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า ทางภาคเอกชนท่องเที่ยว โดยสมาคมขอให้รัฐบาลรีบพิจารณานำวัคซีนมาใช้โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นของประเทศใดก็ได้ นอกเหนือจากที่รัฐได้ทำสัญญาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับประชาชน และจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะกิจการไม่จำเป็นต้องปิดอะไรมาก ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศได้รับผลกระทบแน่นอนจากการปิดกิจการต่างๆ โดยเอกชนยอมรับสถานการณ์พร้อมทำตามนโยบาย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/816626