กัมพูชาคาดหวังสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกัมพูชาอาจจะฟื้นตัวได้ในปี 2025 จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายในประเทศ โดยหากทุกประเทศทั่วโลกสามารถควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้ร้อยละ 70 ในปลายปีนี้การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในกัมพูชาคาดว่าจะฟื้นตัวประมาณร้อยละ 30 ในปี 2021 และ 2022 กล่าวโดยประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งเอเชียแปซิฟิกประเทศกัมพูชาบทที่ (PATACC) ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2020 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับชาวต่างชาติเพียงประมาณ 1.16 ล้านคน ตามตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนกัมพูชา 4,841 คน ในเดือนเมษายน คิดเป็นการลดลงถึงร้อยละ 99.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734635/hopes-for-early-tourism-resumption-dashed/

กัมพูชาคาดกลุ่มอุตสาหกรรมนอกเหนือกลุ่มเครื่องนุ่งห่มยังคงแข็งแกร่งในปีหน้า

อุตสาหกรรมนอกเหนือกลุ่มเครื่องนุ่งห่มในกัมพูชาคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งในปีหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเกษตรและบริการตามแผนยุทธศาสตร์งบประมาณของรัฐบาลในปี 2564-2566 ท่ามกลางการระบาดของ Covid-19 รัฐบาลวางแผนที่จะลดงบประมาณของรัฐในปี 2021 เป็นประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 50 จากปีนี้ ตามแผนงบประมาณรัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะหดตัวมาอยูที่ระดับร้อยละ 1.9 ในปี 2020 แต่จะดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ในปี 2021 ที่คาดว่าจะหนุนโดยภาคเกษตรที่เติบโตร้อย 1.6 และภาคบริการที่เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโต ร้อยละ 4.1 ผ่านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่ไม่ใช่เสื้อผ้า รวมถึงการเติบโตจะมาจากการทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ เช่น จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยเฉพาะการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร, วัสดุก่อสร้าง, การประกอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734782/non-garment-sectors-predicted-to-remain-healthy-next-year/

กระทรวงฯเรียกร้องมีการเปิดโรงงานแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์

กระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงได้เรียกร้องให้บริษัทผู้ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ในเสียมเรียบเริ่มลงทุนในโรงงานแปรรูป เนื่องจากรัฐบาลกำลังพิจารณาจัดตั้งศูนย์วิจัยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยบริษัท Sophorn Theary Peanich Co Ltd. ซึ่งได้รับสัมปทานที่ดินทางเศรษฐกิจ (ELC) 4,000 เฮคเตอร์ ในจังหวัดเสียมเรียบตั้งแต่ปี 2549 โดยทำสัญญากับกระทรวงเกษตรใน 2017 ที่จะปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์บนพื้นที่ปลูก 1,232 เฮกตาร์ ซึ่งรัฐบาลแนะนำให้บริษัทควรเริ่มขยายพื้นที่เพาะปลูก และจัดตั้งโรงงานแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยกระทรวงฯกล่าวว่าหากบริษัทสามารถลงทุนในโรงงานแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ได้จะส่งผลให้ภูมิภาคกลายเป็นศูนย์กลางการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในอนาคตและจะสร้างงานให้มากขึ้นในจังหวัด ซึ่งรายงานจากกระทรวงเกษตรแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 190,141 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734356/ministry-calls-for-cashew-nut-processing-factory/

ธนาคาร SME อนุมัติ 2.3 ล้านดอลลาร์

SME Co-Financing Scheme (SCFS) ได้อนุมัติคำร้องขอกู้ยืมเงินจำนวน 13 ฉบับ โดยมีมูลค่าการอนุมัติของสินเชื่อรวม 2.338 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SME Bank แห่งกัมพูชากล่าวว่าการเบิกจ่ายทั้งหมดมีมูลค่า 1.908 ล้านดอลลาร์และคาดว่าจะมีการเบิกถอนเงินอีกจำนวน 4.3 แสนดอลลาร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยปล่อยเงินกู้ยืมให้แก่ธุรกิจและกิจกรรมภายในประเทศหลายภาคส่วน เช่นการผลิตและการแปรรูปอาหาร, การผลิตสินค้าสำหรับภาคการท่องเที่ยว, การผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป, อะไหล่หรือชิ้นส่วนประกอบ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งโครงการ Co-Financing SME ของรัฐบาลมีวัตถุประสงค์ในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนและพัฒนา SMEs ท้องถิ่นในภาคต่างๆ ซึ่ง SMEs สามารถยืมเงินทุนหมุนเวียน 2 แสนดอลลาร์ และสำหรับเงินลงทุน 3 แสนดอลลาร์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 7 ต่อปี ระยะเวลาการชำระคืน 7 ปีและหลักประกันขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของ PFI แต่ละรายการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734391/2-3-million-approved-by-sme-bank/

นายกรัฐมนตรีคาดการณ์เศรษฐกิจหดตัวมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.9 ในปีนี้

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศอาจหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปีนี้ เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 เป็นสำคัญ โดยการเติบโตของของประเทศขึ้นอยู่กับการส่งออกเสื้อผ้า, รองเท้า, การท่องเที่ยว, การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเกษตร ซึ่งการส่งออกเสื้อผ้า, รองเท้าและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดของ Covid-19 โดยนายกรัฐมนตรียังคงมองในแง่ดีว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ในปี 2564 เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์จากต่างประเทศ โดยคาดการณ์เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ที่ร้อยละ 2.8 ในปีนี้และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยถึงร้อยละ 3.1 ในปีหน้าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันระหว่างประเทศ ซึ่งธนาคารโลกกล่าวในรายงานล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่าเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มหดตัวระหว่างร้อยละ 1 ถึง 2.9 ในปีนี้ โดยถือเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 รวมถึงหน่วยงานจัดอันดับเครดิตของมูดี้ส์เมื่อเดือนที่แล้วคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจขยายตัวประมาณ 0.3% ในปี 2020 และ 6% ในปีหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50733913/pm-forecasts-economic-contraction-of-1-9-percent-this-year/

การค้าระหว่างกัมพูชากับไทยมีมูลค่าสูงถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 4 เดือน

การค้าระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่าสูงถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 18.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยกัมพูชานำเข้าสินค้าจากไทย 2.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักร, สินค้าอิเล็คทรอนิคส์, เชื้อเพลิง, วัสดุก่อสร้าง, อาหาร, เครื่องสำอางและเครื่องใช้ในครัวเรือน ซึ่งกัมพูชาทำการส่งออกสินค้าไปยังไทยมูลค่า 687 ล้านดอลลาร์ จากการส่งออกสินค้าประเภทอัญมณีและผลิตผลจากฟาร์ม โดยทั้งสองประเทศกำลังมองหาการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้ถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปีนี้เทียบกับ 9.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 และ 8.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 จากข้อมูลในอดีต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50733994/cambodia-thailand-trade-hit-3-1-billion-in-four-months/