เวียดนามเผยเดือนม.ค.-ต.ค. FDI ไหลเข้าลดลง 2.5%YoY ด้วยมูลค่า 15.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงการวางและการลงทุน (MPI) เผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามได้รับเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 15.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ FDI ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม โดยธุรกิจส่วนใหญ่ร้อยละ 70 มาจากการลงทุนของบริษัทต่างชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ การเบิกจ่ายเงินทุน FDI ในอนาคต ลดลงร้อยละ 19.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 2,348 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนใหญ่จะลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว รองลงมาเกาหลีใต้และจีน

ที่มา : https://vietreader.com/business/20673-vietnam-jan-oct-fdi-inflows-drop-25-y-y-to-158-bln-govt.html

เวียดนามเผยส่งออกซีเมนต์และปูนเม็ดพุ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

จากรายงานอุตสาหกรรมซีเมนต์ในประเทศที่เผยแพร่โดยบริษัท FPT Securities Joint ระบุว่าปริมาณการส่งออกซีเมนต์และปูนเม็ดของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 30 เท่าในปี 2553-2562 มีสัดส่วนร้อยละ 32 ของการบริโภครวม และการส่งออกสินค้าดังกล่าวมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการส่งออกจะอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากธุรกิจในประเทศส่วนใหญ่ส่งออกปูนเม็ดและวัตถุดิบที่ทำมาจากซีเมนต์ ทั้งนี้ ราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 38.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งราคาส่งออกต่ำกว่าในประเทศร้อยละ 10 เป็นผลมาจากธุรกิจต้องลดราคา เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งตลาดต่างประเทศได้ นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกซีเมนต์กว่า 28 ล้านตันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ในแง่ของปริมาณ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 และในแง่ของมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

  ที่มา : https://vov.vn/en/economy/cement-and-clinker-exports-skyrocket-over-past-decade-812483.vov

เวียดนามส่งออกไปอาเซียน โตต่ำ 5.26%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าในปีนี้ เวียดนามส่งออกไปยังอาเซียนอยู่ที่ 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตราการขยายตัวในปี 2559-2563 คาดว่าจะขยายตัวในระดับต่ำที่ร้อยละ 5.26 ซึ่งจากตัวเลขสถิติ ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามไปอาเซียน คาดว่าจะอยู่ที่ 55.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.4 ของยอดการส่งออกและนำเข้าของเวียดนามทั้งหมด โดยอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนามอันดับที่ 5 ของคู่ค้าต่างประเทศ หากแบ่งรายประเทศ พบว่าไทยและมาเลเซียเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาอินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา ฟิลิปปินส์และสปป.ลาว ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามไปอาเซียน ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน, เหล็กทุกชนิด, คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรและส่วนประกอบ, ยานยนต์และอะไหล่, เสื้อผ้า สิ่งทอและข้าว เป็นต้น ในขณะเดียวกัน สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ผักและผลไม้, ขนมและธัญพืช, อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม, ยาง,  วัสดุพลาสติก เป็นต้น นอกจากนี้ นอกจากนี้ ในปี 2562 มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกของเวียดนามไปยังอาเซียนอยู่ที่ 57.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลการค้ากับอาเซียน 6.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับปี 2561

ที่มา : http://export.vccinews.com/detail/26004/vietnamese-exports-to-asean-grow-at-low-rate-of-5-26.html

COVID-19 ผลักดันให้เวียดนามขาดดุลการคลังราว 6% ของ GDP

นาย Dinh Tien Dung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าในปีนี้ เวียดนามขาดดุลงบประมาณ 319.5-328 ล้านล้านด่อง (หรือ 13.78-14.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็นร้อยละ 4.99-5.59 ของ GDP ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ในช่วงต้นปีนี้ที่ร้อยละ 3.44 ของ GDP ทั้งนี้ การขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูง เป็นผลมาจากรายรับงบประมาณอยู่ในระดับต่ำจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 หากแบ่งรายรับ-รายจ่ายงบประมาณ พบว่าในปีนี้รายรับงบประมาณอยู่ที่ราว 57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 8.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับประมาณการในปีที่แล้ว ในขณะที่ รายจ่ายงบประมาณอาจสูงถึง 72.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 2.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับประมาณการในปีที่แล้ว นอกจากนี้ คณะกรรมการด้านการเงินและงบประมาณ ได้เตือนว่าอัตราส่วนของการชำระหนี้ต่อรายรับงบประมาณอาจสูงถึงร้อยละ 25 สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่งคงทางการเงินของประเทศ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/covid-19-pushes-vietnam-fiscal-deficit-to-nearly-6-of-gdp-314586.html

Standard Chartered ปรับเป้า GDP เวียดนามชะลอตัว 3% ในปีนี้ และฟื้นตัวเหลือ 7.8% ในปีหน้า

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ปรับเป้า GDP ของเวียดนามเหลือเพียงร้อยละ 3 ในปี 2563 และกลับมาขยายตัวร้อยละ 7.8 ในปีหน้า เนื่องจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและได้รับแรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ทั้งนี้ นาย Chidu Narayanan นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเอเชีย กล่าวว่า ‘เวียดนามถือเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีการขยายตัวในทิศทางที่เป็นบวกปีนี้ ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าในไตรมาสที่ 4 กิจกรรมธุรกิจในประเทศจะกลับมาฟื้นตัว อีกทั้ง การปรับปรุงด้านการบริการและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยให้เวียดนามมีความได้เปรียบทางด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย’ นอกจากนี้ เม็ดเงินทุน FDI คาดว่าจะไหลเข้าไปยังกลุ่มธุรกิจที่จดทะเบียนใหม่ลดลงในปีนี้ แต่ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งอยู่ ด้วยมูลค่า 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความไม่แน่นอนของอุปสงค์ทั่วโลกและความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนที่หดตัวลง อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้รับผลประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง แต่การไหลเข้าของการลงทุนมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ว่าด้วยมาตรการของรัฐฯ และการเคลื่อนย้ายของเทคโนโลยี จะช่วยส่งเสริมการไหลเข้าของเงินทุน FDI

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-growth-may-slow-to-3-in-2020-likely-to-rebound-to-78-in-2021-stanchart-787676.vov

เวียดนามเผยต้นปีนี้จนถึงต.ค. เกินดุลการค้า 17.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานทางสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วงกลางเดือนต.ค. ของปีนี้ เวียดนามเกินดุลการค้าถึง 17.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกในช่วงครึ่งแรกของเดือนต.ค. อยู่ที่ประมาณ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจากตัวเลขข้างต้น เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกที่ 12.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ มูลค่าการนำเข้า 11.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ในภาพรวม มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกรวมในช่วงต้นปีนี้จนถึงกลางเดือนต.ค. อยู่ที่ 413 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออก 215.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมูลค่าการนำเข้า 197.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน 2.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน สินค้านำเข้าสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเครื่องจักร อะไหล่ เป็นต้น

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/nation-racks-up-trade-surplus-of-us173-billion-by-mid-october-787464.vov