นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเยือนกัมพูชาในช่วง 8 เดือนเพิ่มขึ้น 33%

กัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 1.7 ล้านคนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีที่จากรายงานล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา โดยรายงานแสดงให้เห็นว่ากัมพูชายังคงเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดคิดเป็นกว่า 39% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนกัมพูชาทั้งหมดในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีนี้ ซึ่งหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 2.6 ล้านคนภายในปี 2562 และเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านคนภายในปี 2573 ซึ่งจากรายงานแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 4.36 ล้านคนเดินทางไปกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งใน 4 ภาคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาได้ทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 6.2 ล้านคนซึ่งรวมถึงชาวจีน 2 ล้านคนมีรายได้รวมจากภาคการท่องเที่ยวถึง 4.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50649196/1-7-million-chinese-tourists-visit-kingdom-in-8-months-up-33-pct/

กัมพูชากระโดด 12 จุดในการสำรวจความยั่งยืนด้านพลังงานโลก

การจัดอันดับของกัมพูชาในการสำรวจความยั่งยืนด้านพลังงานทั่วโลกล่าสุดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากซึ่งบ่งชี้ว่าความพยายามของกัมพูชาในการแก้ปัญหาด้านพลังงานและการจัดหาพลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยดัชนีพลังงาน Trilemma 2019 ที่เพิ่งรายงานออกมาว่ากัมพูชาได้รับการจัดอันดับที่ 105 จาก 128 ประเทศ คิดเป็น 12 จุดเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่ง ETI ได้รับหน้าที่จาก WEC และ บริษัท ที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลก โดย Oliver Wyman จัดอันดับประเทศในด้านความสามารถในการจัดหาพลังงานที่ยั่งยืนของระบบพลังงานในแต่ละประเทศ ซึ่งจัดลำดับจากสามมิติ ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน ความเท่าเทียมด้านพลังงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกัมพูชาดูเหมือนจะแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานเรื้อรังบางส่วนโดยการซื้อพลังงานเพิ่มเติมจากประเทศสปป.ลาว เวียดนามและไทย โดยภายในปี 2563 รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลิตพลังงานแสงอาทิตย์คิดเป็น 15% ของการผลิตพลังงานทั้งหมด รวมถึงกำลังมองหาศักยภาพด้านพลังงานลมอีกด้วย ซึ่งในเดือนพฤษภาคมปีนี้ บริษัท บลูเซอร์เคิลได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการสร้างกังหันลมในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50649231/cambodia-jumps-12-spots-in-global-energy-sustainability-survey/

ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานในกัมพูชา

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กำลังเรียกร้องให้มีการลงทุนในภาคบริการของกัมพูชาทั้งการให้บริการคลังสินค้าและการเช่าโรงงานเนื่องจากความต้องการสูง แต่ขาดตลาด โดย Sear Rithy ประธานกลุ่ม WorldBridge และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงกล่าวในงานแสดงภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นโดย realestate.com.kh เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่านักลงทุนจำนวนมากต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยแนะให้นักลงทุนเห็นถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจโรงแรม คาสิโน โรงงานและคลังสินค้า ที่มีความน่าสนใจให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาคการขนส่ง และตอบรับต่อความต้องการที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศ ทั้งภาคการผลิตของจีนที่มีการย้ายฐานการผลิตมายังกัมพูชาที่มีความต้องการโรงงานและคลังสินค้าในการผลิตและจัดเก็บสินค้า โดยมองว่าคลังสินค้าหรือโรงงานที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งรัฐบาลมีส่วนร่วมในการขอให้นักลงทุนสร้างโรงงานในแถบชานเมืองที่มีราคาที่ดินยังไม่สูงมาก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648875/experts-urge-investment-in-warehouses-and-factories/

บิ๊กซีจากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชา

บิ๊กซีห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชาในจังหวัดปอยเปต โดยได้ลงทุนไปกว่า 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำด้วยสินค้าที่หลากหลายราคาไม่แพง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในกัมพูชา คาดว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้จะช่วยสร้างงานกว่า 1,200 ตำแหน่ง และนำความก้าวหน้ามาสู่กัมพูชา โดยจังหวัดปอยเปตมีประชากรกว่า 200,000 คนระหว่างชายแดนไทยกัมพูชาและเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้จังหวัดกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งจากไทย จีน และจากประเทศอื่นๆอย่างมาก โดยเมืองนี้มีโครงการที่จะสร้างคาสิโนในโรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการร่วมมือจากทางภาครัฐและภาคเอกชนกำลังร่วมกันเพื่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งแรกในปอยเปตอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648873/thailands-big-c-opens-first-supermarket-in-cambodia/

Moody’s ยังคงจัดอันดับของกัมพูชาไว้ที่ B2

Moody’s ยังคงยืนยันจัดอันดับเครดิตผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาวไว้ที่ระดับ B2 ของกัมพูชาจากการเติบโตของ GDP ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง รวมถึงหนี้สินภาครัฐที่ค่อนข้างต่ำ โดยมองว่าการลดทอนสิทธิประโยชน์ทางภาษี (EBA) จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกทั้งสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเสถียรภาพได้ คือการขาดดุลทางการคลังเล็กน้อยเนื่องจากส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายทางด้านภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรักษาระดับการชำระภาษีให้สูงและหนี้สินภาครัฐในระดับที่ต่ำ โดยเชื่อว่าการเติบโตที่ชะลอตัวในจีนอาจนำความเสี่ยงต่อเนื่องมาถึงกัมพูชาเนื่องจากมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ซึ่ง Moody’s ได้คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไว้ที่ 7% ภายในปี 2562 และ 5.5% สำหรับปี 2563 จาก 7.5% ในปี 2561 ซึ่งอัตราการเติบโตอาจจะดูชะลตัวลงแต่กัมพูชาก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูง โดยการปรับอันดับเครดิตอาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างที่ชี้ไปที่ความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นและเป็นการลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจและรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648299/moodys-maintains-cambodias-b2-rating-says-outlook-stable/

การจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิทัลของกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวง เพื่อทำงานในการรวบรวมร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายรัฐบาลดิจิทัล โดยคณะกรรมการนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเป็นประทานในการประชุม ซึ่งคณะกรรมการได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หลักในการรวบรวมและร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและกรอบนโยบายดิจิทัลเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อตรวจสอบการอนุมัติ โดยคณะกรรมการจะจัดตั้งคณะทำงานแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือด้านนโยบายเศรษฐกิจนำโดยสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสูงสุดและอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ด้านนโยบายรัฐบาลนำโดยกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ซึ่งมองว่ากัมพูชากำลังจะเริ่มนำวิธีการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดมาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น รวมถึงมีนวัตกรรมมามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งขึ้น แรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางดิจิทัลมากขึ้นและเศรษฐกิจที่มั่นคงมากขึ้น โดยจะมีการเชื่อมต่อรวมถึงการสร้างเครือข่ายข้อมูลการบริหารระดับชาติที่เชื่อมต่อทุกสำนักงานของเมืองหลวงแต่ละแห่งใน 25 จังหวัดภายใต้กรอบรัฐบาลดิจิทัล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648297/digital-economy-committee-formed/

กรีนลีดเดอร์สร้างโรงงานมะม่วงอบแห้งแห่งที่สาม

กรีนลีดเดอร์โฮลดิ้งกรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงประกาศว่าจะเพิ่มการลงทุนในตลาดท้องถิ่น โดยการสร้างโรงงานแปรรูปมะม่วงแห่งใหม่ในจังหวัดทงบังคำของกัมพูชา ซึ่งแต่ละแห่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตรและสามารถผลิตมะม่วงอบแห้งได้มากถึง 2,000 ตันต่อปี โดยการผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังประเทศจีนและได้ทำการตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกมะม่วงอบแห้งถึงปีละ 10,000 ตันต่อปีไปยังประเทศจีน ซึ่งบริษัทซื้อมะม่วงสดเกรด 2 ที่เป็นวัตถุดิบจากเกษตรกรผ่านโครงการทำสัญญาและแปรรูปเพื่อส่งออกไปยังตลาดจีน โดยเชื่อว่าการลงทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปรรูปวัตถุดิบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อการส่งออก ซึ่งบริษัทกล่าวว่าโรงงานใหม่แห่งนี้จะสามารถผลิตและแปรรูปแป้งได้มากถึง 130,000 ตันต่อปี โดยใช้มันสำปะหลังจากเกษตรกรในท้องถิ่นถึง 500,000 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648298/green-leader-to-build-third-dried-mango-plant/