เอสเอ็มอีกัมพูชามองหาการสนับสนุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
สหพันธ์สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลให้การสนับสนุนด้านภาษีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาด SMEs โดยสมาคมยังคงให้การสนับสนุน SMEs ที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตรในท้องถิ่นรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งสมาคมวางแผนที่จะพูดคุยกับกระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เผชิญรวมถึงขอความช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตรในการผลิต โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมีต้นทุนที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่นำเข้า จึงพยายามที่จะช่วยลดต้นทุนโดยรวมทั้งภาษี วัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า และค่าจ้างแรงงานเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศสามารถแข่งขันได้ดีมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ FASMAC ประเทศกัมพูชามีผู้ประกอบการ SMEs ถึง 5 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตรถึง 1.5 แสนราย ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/645740/smes-seek-support-to-boost-market-competitiveness/
ปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและกวางสีที่กำลังจะขยายตัว
กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาให้คำมั่นว่าจะเพิ่มปริมาณการค้ากับมณฑลกวางสีทางตอนใต้ของจีนภายในสิ้นปีนี้ประมาณ 30% โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 54 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วและคาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลได้ปฏิรูปและร่างมาตรการที่เป็นรูปธรรมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจในกัมพูชาเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจจะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยรวมระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่าการค้าประมาณ 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ในขณะที่จีนทำการลงทุนในกัมพูชาประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนจีนมีส่วนร่วมในเกือบทุกภาคเศรษฐกิจในกัมพูชาเช่นโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ การเงิน รวมถึงภาคการท่องเที่ยว
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645741/cambodia-guangxi-trade-volume-to-expand-commerce-ministry/
กลุ่มนักธุรกิจไทยเรียกร้องให้มีการดำเนินการต่อต้านสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น
กลุ่มนักธุรกิจไทยในกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามการขายสินค้าปลอมที่ผลิตในประเทศไทยในกัมพูชา จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ที่จัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญและสภาธุรกิจไทยในกัมพูชา (TBCC) ร่วมกับคณะกรรมการต่อต้านการปลอมแปลง (CCCC) ของกระทรวงมหาดไทย โดยจากรายงานของ CCCC แสดงให้เห็นการปราบปรามในปีที่ผ่านมาได้เปิดโปงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 20 รายการที่จำหน่ายในกัมพูชา ซึ่งสินค้าปลอมส่วนใหญ่จัดอยู่ในสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคที่มีสารเคมีเป็นพิษและละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการได้ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไปกว่า 70 ตัน รวมถึงกัมพูชาและไทยได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการค้าทวิภาคีเป็น 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2563 คิดเป็นการเติบโตที่ 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนกัมพูชาส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมูลค่า 685 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 52% แต่ในทางตรงกันข้ามการนำเข้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพียง 1% อยู่ที่ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645404/thai-business-community-urges-more-action-against-fake-goods/
อีกครั้งกับการค้นหาข้าวคุณภาพดีที่สุดของกัมพูชา
สหพันธ์ข้าวกัมพูชาได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวเข้าร่วมการแข่งขันประกวดข้าวแห่งชาติปี 2019 โดยทำการส่งตัวอย่างข้าวเข้าประกวด ซึ่งการแข่งขันข้าวระดับชาติครั้งที่ 4 นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน และผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกข้าวจะต้องส่งตัวอย่างข้าวไปยัง CRF ภายในกันที่ 25 ตุลาคม หากต้องการเข้าแข่งขัน โดยกำหนดข้าวไว้ 3 ประเภทที่สามารถเข้าแข่งขันได้คือ ข้าวหอมพรีเมี่ยม ,ข้าวหอม และข้าวขาวเมล็ดยาว ซึ่งการแข่งขันจะเน้นไปที่คุณภาพของข้าวหลักทำการปรุงสุกแล้ว และนับตั้งแต่มีการเข้าร่วมการประกวด World Best Rice ประจำปี ข้าวของกัมพูชาได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วในปี 2555 ,2556 ,2557 และในปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปีที่แล้วข้าวหอมพรีเมี่ยมของกัมพูชาได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในการแข่งขันระดับโลกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอยประเทศเวียดนามในระหว่างการประชุม TRT World Rice Conference ครั้งที่ 10 ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้ว 281,538 ตัน ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645419/search-on-again-for-kingdoms-best-quality-rice/
Reed Smith สนับสนุนข้อตกลงพลังงาน 2,400 เมกะวัตต์กับสปป.เทศลาว
ข้อตกลงด้านพลังงานที่สำคัญซึ่งได้ลงนามเมื่อต้นเดือน โดย Electricité du Cambodge (EDC) และผู้ให้บริการไฟฟ้าอิสระสองรายในประเทศสปป.ลาว ซึ่งการลงนามในข้อตกลงสำคัญระหว่าง EDC และผู้ให้บริการไฟฟ้าสองรายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือบริษัท Xekong Thermal Power Plant จำกัด และ บริษัท TSBP Sekong Power and Mineral Limited ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของสิงคโปร์ Kohe Hasan และ Bree Miechel ให้การจัดการด้านพลังงานแก่กัมพูชาระยะเวลา 30 ปีในอัตรา 7.7 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยเริ่มจากการถ่ายโอนพลังงานในปี 2567 จะทำการซื้อ 300 MW ในปี 2568-2569 เพิ่มขึ้นเป็น 600 MW และในปี 2570 เพิ่มเป็น 900 MW บนพื้นฐานความต้องการและการเติบโตอย่างรวดเร็วในกัมพูชาคิดเป็น 17-20% ในแต่ละปี
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645407/reed-smith-supports-2400-mw-energy-deal-with-laos/
กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเซ็นสัญญาการท่องเที่ยวกับกลุ่มชาวจีน
กระทรวงการท่องเที่ยวและสถาบันการศึกษาสามแห่งจากมณฑลกวางสีของจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในความร่วมมือการฝึกอบรมด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยเฉพาะการพัฒนาขีดความสามารถของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ซึ่งการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวในโรงเรียนกัมพูชา โดยเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้เพิ่มจำนวนบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเป็น 1.2 ล้านคนภายในปี 2568 ซึ่งในปัจจุบันมีคนงานประมาณ 800,000 คนในภาคการท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่ต้องการการรับรองทักษะบางประเภทผ่านการฝึกอบรม โดยกัมพูชาตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 7 ล้านคนในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 6.2 ล้านคนในปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกกัมพูชาได้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 3.3 ล้านคน โดย 1.2 ล้านคนมาจากจีนที่เพิ่มขึ้นถึง 38%
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645420/ministry-signs-tourism-pact-with-chinese-groups/