พานาโซนิคย้ายโรงงานจากไทยไปเวียดนาม
โดย nuttachit I Marketeer
สำนักข่าวนิคเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่าพานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น มีแผนปิดโรงงาน ผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าในประเทศไทย เพื่อย้ายกำลังการผลิตไปรวมกับโรงงานผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าในเวียดนามให้เป็นโรงงานหลักในการผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้า เหตุผลสำคัญ คือ ลดต้นทุนการจัดหาชิ้นส่วน ซึ่งการย้ายกำลังการผลิตในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยมีเป้าหมายลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย 100 ล้านเยนหรือประมาณ 29.56 ล้านบาทในเดือนมีนาคม 2565
‘Marketeer’ วิเคราะห์ออกเป็น ดังนี้
- ลดต้นทุนค่าแรงสูงบนรายได้การผลิตที่ลดลง ลดต้นทุนในการจัดหาชิ้นส่วน และลดต้นทุนในการจ้างแรงงานที่มีค่าแรงขั้นต่ำถูกกว่าประเทศไทย
- ยอดขายในไทยลดลงบนการแข่งขันที่สูง แม้พานาโซนิคจะเข้ามาทำธุรกิจในไทยมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พานาโซนิค ถูกสินค้าแบรนด์เกาหลี และจีน เข้ามาท้าทายตลาดอย่างต่อเนื่องจนรายได้และกำไรในการขายสินค้าพานาโซนิคลงอย่างเห็นได้ชัดในปี 2562
ทั้งนี้ ศิริรัตน์ ยงค์เจริญชัย ผู้จัดการทั่วไปสายสื่อสารองค์กร บริษัท พานาโซนิค แมนเนจเม้นท์ ประเทศไทย จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การควบรวมโรงงานผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าไปอยู่ที่ประเทศเวียดนามเป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีพิจารณาแผนการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2562 เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งเรื่องของพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า และการบริหารด้านการผลิตและต้นทุนให้มากขึ้น
อัพเดท สถานการณ์ COVID-19 เวียดนาม วันที่ 19.05.2563
คนเวียดนามกลับจากต่างประเทศติดเชื้อเพิ่ม 4 คนแต่ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศมากกว่า 1 เดือน
พัฒนาการที่สำคัญในวันนี้
- เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในระดับชุมชน กว่า 1 เดือน แต่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่กลับจากต่างประเทศ 4 ราย
- ยกเว้นการห้ามการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างประเทศ โดยจะพิจารณาอนุญาตให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญ แรงงานทักษะสูง ผู้บริหารกิจการ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาชาวเวียดนามที่ศึกษาในต่างประเทศ โดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและกักตัวอย่างเข็มงวด
- เวียดนามส่งเสริมการท่องเที่ยว “Safe Haven Tourism” ซึ่งเน้นการจำกัดความเสี่ยง COVID-19 และคาดว่า การท่องเที่ยวจะเป็นแหล่งรายได้ถึงร้อยละ 10-15 และจ้างงาน 1.3 ล้านคน
- รองประธานหอการค้าสหภาพยุโรปประจำเวียดนามเห็นว่า เวียดนามเตรียมตัวดีในการกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติ COVID-19 และจำเป็นประเทศที่ปลอดภัยและน่าดึงดูดสำหรับธุรกิจและนักลงทุนจากต่างประเทศ พร้อมย้ำว่า เวียดนามจะต้องว่า เวียดนามจะต้องไม่ปกป้องธุรกิจของเวียดนามเพียงอย่างเดียว เนื่องจากจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะการส่งออกเมื่อการค้าของโลกกลับสู่ภาวะปกติ
- วันที่ 21 พ.ค. 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดเที่ยวบินพิเศษสำหรับคนไทยที่ตกค้างกลับไทย
มาตรการสำคัญที่ยังบังคับใช้
- ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่องเพื่อมิให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่
- แนะนำให้ประชาชนหมั่นล้างมือ สวมหน้ากาก
- งดกิจกรรมเฉลิมฉลอง พิธีกรรมทางศาสนา และมหกรรมกีฬา
- ยังคงห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนาม เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่
- บุคคลที่เดินทางเข้าเวียดนามจะถูกกักตัว 14 วัน
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
เวียดนามเผยอนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ท่าอากาศยานเตินเซินเญิ้ต
รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม อนุมัติแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ของท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต ในนครโฮจิมินห์ โดยอาคารผู้โดยสารดังกล่าวสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 20 ล้านคนต่อปี และคาดว่าจะช่วยลดภาระการใช้งานที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ T1 ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนโครงการดังกล่าวทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 470.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบริษัท Airports Corporation of Vietnam (ACV) ในระยะเวลา 37 เดือน นอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา อาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง (T1-T2) สามารถรองรับผู้โดยสารกว่า 40 ล้านคน ขยายตัวมากกว่า 1.6 เท่า จากที่รองรับผู้โดยสารไว้ 28 ล้านคนต่อปี
เวียดนามเร่งส่งออกลิ้นจี่สดไปยังญี่ปุ่นในช่วงปลายปีนี้
รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามเข้าร่วมการประชุมเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนาม เปิดเผยว่าทางกระทรวงฯ เรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นหาแนวทางแก้ปัญหา เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกลิ้นจี่สดไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้ ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ขอความร่วมมือต่อหน่วยงานญี่ปุ่นในการปฏิบัติงานที่มีความยืดหยุ่น เมื่อทดสอบการรมควันฆ่าเชื้อลิ้นจี่และอำนวยความสะดวกในการส่งออกลิ้นจี่สดชุดแรกไปยังญี่ปุ่นช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงฯ แสดงความขอบคุณถึงรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น สำหรับการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเวียดนาม ด้วยความร่วมมือระหว่างอาเซียน ญี่ปุ่นและอินเดีย เพื่อเร่งการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
สายการบินแบมบูเวียดนามเข้าตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาส 4
สายการบินแบมบูแอร์เวย์ส (Bamboo Airways) คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเส้นทางสายการบินในประเทศมากเป็นสองเท่า รวมทั้งเปิดเส้นทางการบินใหม่ไปยังสหรัฐอเมริกา ภายในสิ้นปี 2564 หรือต้นปี 2565 ซึ่งการเคลื่อนไหวของบริษัทดังกล่าว มาจากแผนแรกเริ่มอยู่แล้วที่จะนำไปจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องเลื่อนการจดทะเบียนออกไป ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สายการบินแบมบูแอร์เวย์สกำลังวางแผนที่จะซื้อเครื่องยนต์ คิดเป็นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาจากบ.เจเนอรัลอิเล็กทริก (GE) สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ และจะขยายธุรกิจต่อไปเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ นอกจากนี้ สายการบินมีแนวโน้มให้เช่าเครื่องบินเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากต้องการขยายการดำเนินงาน โดยจริงๆแล้ว ปัจจุบันสายการบินขยายการดำเนินงานในประเทศ 45-50 เที่ยวบิน/วัน และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 100 เที่ยวบิน/วัน ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของเที่ยวบินทั้งหมดก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดไวรัส
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/bamboo-airways-to-go-public-on-stock-market-in-q4-413869.vov
เวียดนามเผยส่งออกเหล็กฉุดรุนแรง รับพิษโควิด-19
สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) คาดว่าอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศจะยังได้รับผลกระทบหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลงไป เนื่องจากยอดส่งออกเหล็กไปยังตลาดต่างประเทศลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งการลดลงข้างต้น ส่วนใหญ่มาจากการผลิตอุตสาหกรรมที่หลากหลายขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้แก่ กิจกรรมการก่อสร้าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผลิตเหล็กสำเร็จรูปที่มีทุกประเภท ในช่วง 4 เดือนของปีนี้ มีปริมาณการผลิต 7.5 ล้านตัน ในขณะที่ การบริโภคเหล็ก 6.75 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 8.4 และ 13.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามลำดับ ส่งผลให้ยอดส่งออกเหล็กดิ่งลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นปริมาณ 1.28 ล้านตัน ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ คาดการณ์ส่งออกกลับมาเป็นบวกในไตรมาสสอง เมื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของตลาดในประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีการนำมาตรการ/นโยบายของภาครัฐ เพื่อส่งเสริมตลาดให้กลับมาฟื้นตัวเร็วที่สุด
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/steel-exports-suffer-severe-drops-due-to-covid19-413868.vov