อัตราเงินเฟ้อของ สปป. ลาว เดือน มิถุนายน 2563 ลดลงเล็กน้อย

ศูนย์สถิติแห่งชาติ กระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อลาวเดือน มิถุนายน 2563 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.28 จากร้อยละ 5.46 เมื่อเดือน พฤษภาคม 2563  ปัจจัยที่ทำให้ราคาสินค้าบางประเภทปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
(1) ความผันผวนของราคาสินค้าบางรายการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19
(2) การส่งเสริมการผลิตสินค้าภายในประเทศที่ยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และสินค้าที่ผลิตได้ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและปัจจัยการผลิต
(3) ราคาสินค้าสำคัญในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
(4) อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบกับบาทและดอลลาร์สหรัฐยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://globthailand.com/laos-20082020/

รัฐบาลคาดว่าเงินจัตเสื่อมค่าจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นในเมียนมา

คาดเงินจัตของเมียนมาจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2563-2564 นายหม่องหม่องวินรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและอุตสาหกรรมกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (Pyithu Hluttaw) ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยการขาดดุลงบประมาณและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะเฉลี่ยร้อยละ 7.9 ในปีงบประมาณ 2563-2564 เทียบกับ 6.7% ในปีงบประมาณ 2562-2563 วันที่ 24 มิถุนายน 2563 อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงของธนาคารกลางคือ 1,391.4 จัตต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตามได้รับการปรับลดมาอยู่ที่ 1,520 จัตต่อดอลลาร์สำหรับหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรสำหรับปีถัดไป จากผลกระทบจาก COVID-19 ดังนั้นรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะลดลงเนื่องจากรายได้จากภาษีที่ลดลงและรายได้จากการส่งออกที่สำคัญ เช่น น้ำมันและก๊าซ การขาดดุลทางการคลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.8 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณที่จะมาถึงเมื่อเทียบกับ 6.7 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณ 2562-2563 ซึ่งขาดดุลต่อ GDP จะอยู่อยู่ที่ 5.4% ของปีหน้า

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/govt-expects-kyat-depreciation-higher-exchange-rate-myanmar.html

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวถึงงบประมาณภายในประเทศกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ากัมพูชาเริ่มดำเนินงบประมาณเข้าสู่จุดสมดุล โดยรัฐบาลได้เตรียมกองทุนสำรองฉุกเฉินมูลค่า 800 ล้านถึง 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชาหลังจากการระบาดของ COVID-19 โดยระบุว่ากองทุนจะถูกใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความเหมาะสม ตามแผนงบประมาณยุทธศาสตร์ระดับชาติของรัฐบาล (2564-2566) นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ -1.9 ซึ่งรัฐบาลวางแผนที่จะลดงบประมาณของรัฐในปี 2564 ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนลดลงร้อยละ 50 จากงบประมาณของรัฐในปีนี้รวมถึงการลดลงร้อยละ 11.3 สำหรับกิจการสังคมและร้อยละ 6.4 สำหรับการบริหารทั่วไป ตามที่รัฐบาลคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะสามารถควบคุมได้ที่อัตราร้อยละ 2.8 อย่างไรก็ตามในปีหน้าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 3.1 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในตลาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736883/pm-hun-sen-says-budget-balanced/

เวียดนามมีแรงกดดันต่อการควบคุมเงินเฟ้อ ในปี 2563

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าในปีนี้ การควบคุมเงินเฟ่อและราคาสินค้าจะมีความซับซ้อนและลำบากมากยิ่งขึ้น ด้วยราคาเนื้อหมูที่มีความผันผวนจากปีที่แล้วและกระทบต่อตลาดสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาเนื้อหมูลดลงอยู่ที่ 46,000-50,000 ด่องต่อกิโลกรัม ไปสู่ในระดับที่ต่ำสุดอยู่ที่ 28,000-32,000 ต่อกิโลกรัมในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ราคาเนื้อหมูก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อ ซึ่งในเดือนตุลาคม ราคาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60-95 เมื่อเทียบกับต้นปีที่แล้ว และในปัจจุบันราคาเนื้อหมูสูงขึ้นมาก อยู่ที่ 160,000-180,000 ต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ จากคำแถลงการณ์ของผู้อำนวยการศูนย์สถาบันเศรษฐกิจศาสตร์-การเงิน เปิดเผยว่าสถานการณ์การพุ่งสูงขึ้นของราคาเนื้อหมูมากกว่าร้อยละ 50 ในไตรมาสที่ 4/62 และควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ต่ำกว่าร้อยละ 4 ในปีนี้ ก็ยังแสดงให้เห็นว่ามีความไม่แน่นอน เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 5.23 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากสมมติปัจจัยอื่นๆที่มีผลกระทบต่อภาะเงินเฟ้อไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ในปีนี้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/571018/a-lot-of-pressure-for-inflation-control-in-2020.html

อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเวลาเก้าเดือนติดต่อกัน

จากตัวเลขของกระทรวงวางแผนและการเงิน เดือน เม.ย.61 ถึงเดือน มิ.ย. 62 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.53% ถึง 3.27% นานถึง 9 เดือนติดต่อกันของปีงบประมาณปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบเป็นรายปีคาดแตะระดับ 4.10% และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 4.81% ในปี 61-62 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่คำนวณโดยใช้ปี 55 เป็นปีฐานอยู่ที่ 8.08% และอัตราเงินเฟ้อปีต่อปีคิดเป็น 9.51% ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. เขตมะกเวมีค่าสูงสุดอยู่ที่ 12.31% รองลงมาคือรัฐมอญ 10.14% และมัณฑะเลย์ 9.99% ในเดือน พ.ย. 55 องค์กรสถิติกลางได้ทำการสำรวจครัวเรือนและการบริโภคของครัวเรือน 32,669 ครัวเรือนใน 82 เมืองทั่วประเทศเพื่อคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อ ในอดีตอัตราเงินเฟ้อคำนวณโดยใช้ปี 49 เป็นปีฐาน ปัจจุบันปี 55 ถูกใช้เป็นปีฐานในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/average-inflation-rate-increases-for-nine-consecutive-months