ราคาข้าวโพดเมียนมา พุ่งขึ้นกว่า 1,100 จัตต่อ viss

รายงานของสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมา เผยข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ราคาข้าวโพดเลี้ยงเลี้ยงสัตว์ดีดตัวขึ้น 1,100 จัตต่อ viss เป็นผลมาจากค่าเงินจัตที่อ่อนตัวและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดต่างประเทศอย่างเวียดนามและฟิลิปปินส์ นาย U Aye Chan Aung ประธานสมาคมฯ ได้ให้ข้อมูลว่า มีบริษัทจำนวน 112 แห่ง ได้อนุญาติให้ทำการส่งออกไปต่างประเทศได้ ในปีงบประมาณ 2563-2564  เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตัน ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังไทย ที่เหลือไปจีน อินเดีย และเวียดนาม ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดหลักๆ ของเมียนมาอยู่ในรัฐฉาน รัฐคะฉิ่น กะยา และกะเหรี่ยง และมัณฑะเลย์ สะกาย และมะกเว โดยมีผลผลิตตข้าวโพดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5-3 ล้านตันทุกปี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/corn-prices-bounce-back-over-k1100-per-viss/#article-title

ราคายาง รัฐมอญ พุ่งทะลุ 1,150 จัต สูงกว่าปีที่แล้ว ผลจากค่าเงินจัตอ่อนค่า

ปัจจุบันรัฐมอญ ราคายาง 1 ปอนด์มีราคา 1,150 จัต เพิ่มขึ้นจาก 700 จัตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลจากการอ่อนค่าของเงินจัตและการซื้อยางทางเลือก แม้การส่งออกที่ชายแดนจีนปิดตัวลง สถานการณ์ปัจจุบันคือเมื่อเงินอ่อนค่าลง ผู้ที่ถือเงินจัตมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น จึงทำให้คนเมียนมาเลือกที่จะถือเงินสกุลอื่นหรือสิ่งอื่นเพื่อซื้อสินค้าแทน ส่งผลให้ปัจจุบันราคายางต่อปอนด์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,150 / 1,200 จัต

ที่มา : https://news-eleven.com/article/216737

รัฐบาลคาดว่าเงินจัตเสื่อมค่าจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นในเมียนมา

คาดเงินจัตของเมียนมาจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2563-2564 นายหม่องหม่องวินรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและอุตสาหกรรมกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (Pyithu Hluttaw) ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยการขาดดุลงบประมาณและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะเฉลี่ยร้อยละ 7.9 ในปีงบประมาณ 2563-2564 เทียบกับ 6.7% ในปีงบประมาณ 2562-2563 วันที่ 24 มิถุนายน 2563 อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงของธนาคารกลางคือ 1,391.4 จัตต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตามได้รับการปรับลดมาอยู่ที่ 1,520 จัตต่อดอลลาร์สำหรับหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรสำหรับปีถัดไป จากผลกระทบจาก COVID-19 ดังนั้นรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะลดลงเนื่องจากรายได้จากภาษีที่ลดลงและรายได้จากการส่งออกที่สำคัญ เช่น น้ำมันและก๊าซ การขาดดุลทางการคลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.8 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณที่จะมาถึงเมื่อเทียบกับ 6.7 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณ 2562-2563 ซึ่งขาดดุลต่อ GDP จะอยู่อยู่ที่ 5.4% ของปีหน้า

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/govt-expects-kyat-depreciation-higher-exchange-rate-myanmar.html