เวียดนามเผชิญกับอุปสรรคในการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลก

ตามข้อมูลของสำนักงานการนำเข้า-ส่งออก ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรค เป็นผลมาจากผลผลิตล้นในตลาดโลก และการแข่งขันจากคู่แข่งที่สูงขึ้น ทำให้ระดับราคาลดลง โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยอยู่ที่ 100,000 เฮกเตอร์ คิดเป็นปริมาณผลผลิตราว 247,000 ตัน ขณะที่ ราคาพริกไทยยังอยู่ในระดับต่ำและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมพริกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไปอีก ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตพริกไทยในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านตันในปี 2050 เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาพริกไทย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามเผชิญกับความท้าทาย แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น CPTPP และ EVFTA เป็นต้น จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pepper-exports-face-hurdles-in-global-market-407916.vov

เวียดนามจัดงานแสดงสินค้าในเมียนมา

งานแสดงส่งเสริมสินค้านานาขาติเวียดนามประจำปี 2562 “Vietnam Expo 2019” จัดขึ้นในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม มีคณะธุรกิจเวียดนามกว่า 80 รายและซุ้มแสดงส่งเสริมสินค้า 120 บูธ โดยมีการแสดงสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค และการให้บริการของธนาคาร เป็นต้น สำหรับวัตถุประสงค์ภายในกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมือทางด้านธุรกิจและส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงขยายระบบการกระจายสินค้าและเรียนรู้เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การลงทุนในประเทศคู่ค้า ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเมียนมา อยู่ในอันดับที่ 7 และมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศราว 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8246402-vietnamese-products-promoted-in-myanmar.html

เกาหลีใต้จัดตั้งกองทุน 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

สำนักงานเงินบำนาญแห่งชาติเกาหลี (National Pension Service) พึ่งเปิดตัวกองทุนหุ้นส่วนของกลุ่มบริษัท SK Group เกาหลีใต้ ทำให้สามารถเพิ่มเงินทุนในกลุ่มบริษัท Masan Group และ Vingroup ของเวียดนาม ซึ่งการเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวนั้น จะทำให้บริษัท SK Group สามารถร่วมทุนกับบริษัทเวียดนามในสาขาธุรกิจใหม่และการดำเนินธุรกิจที่ดีที่สุด ผ่านการควบรวมและการซื้อกิจการในบริษัท Masan และ Vingroup โดยในช่วงเดือน พ.ค. กลุ่มบริษัท SK Group ได้ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้นในกลุ่มบริษัทเวียดนามข้างต้น นอกจากนี้ นโยบายใหม่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่าอาเซียนและเวียดนามถือเป็นจุดมุ่งหมายของการลงทุนที่สำคัญที่สุด สำหรับสาขาธุรกิจที่นักลงทุนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก การเงินและอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว ในส่วนของอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร ต้องการเงินทุนจากผู้ประกอบการเกาหลีอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rok-group-sets-up-860-mln-usd-investment-fund-for-vietnam/165908.vnp

เวียดนามคาดว่ายอดการส่งออกสินค้าป่าไม้ 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าภาคป่าไม้ของเวียดนามยังคงเติบโตสูงถึง 5% ในปีนี้ มีมูลค่าการส่งออก 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยอัตราการส่งออกอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ภาคการเกษตรขยายตัว โดยตลาดส่งออกสำคัญของผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สหภาพยุโรป และเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 80% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ทั้งนี้ มีจำนวนผู้ประกอบการแปรรูปไม้กว่า 4,500 ราย และสถานประกอบการในประเทศมีอยู่มากกว่า 1,800 แห่ง นอกจากนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI), อุตสาหกรรมไม้แปรรูปได้พัฒนาในลักษณะของโครงการขนาดใหญ่และมีการส่งเสริมเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปไม้นั้นมีรูปแบบและชนิดหลากหลายขึ้น ทำให้ได้รับมาตรฐานในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/forestry-exports-expected-to-beat-us113-billion-during-2019-407762.vov

จัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้น จากผลกระทบของการค้าเสรี

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าจากการลงนามและการดำเนินงานตามข้อตกลงการค้าเสรีนั้น จะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นของเวียดนามในปีนี้ ซึ่งมูลค่าการจัดเก็บภาษีทั้งหมดอยู่ที่ 335.6 ล้านล้านดง (14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังคงสูงกว่าที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ ผลกระทบของการค้าเสรี จะขยายไปในทิศทางที่เป็นบวกทั้งการค้าและการลงทุนของเวียดนาม สำหรับงานแถลงข่าวในวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่าข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม เกาหลีใต้ (RoK) และ ASEAN ในเรื่องข้อตกลงหุ้นส่วนทางการค้า CPTPP ส่งผลเกิดการพัฒนาของธุรกิจเวียดนามและสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ มูลค่าการจัดเก็บภาษีส่งออก-นำเข้า อยู่ที่ 105.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 7.97% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ทางสำนักงานศุลกากรเวียดนามได้ปราบปรามการลักลอบการนำเข้าและการทุจริตทางการค้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/570061/free-trade-agreements-increase-tax-collection.html

จังหวัดบิ่นห์เยือง ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด (Provincial People’s Committee) เปิดเผยว่าจังหวัดบิ่นห์เยืองได้ดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ประกอบกับจังหวัดดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 2 ของเป้าหมายการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ บิ่นห์เยืองได้ดำเนินการตั้งโครงการ FDI ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้แรงงานน้อยลง พร้อมกับสร้างมูลค่าสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/binh-duong-lures-over-3-billion-usd-in-foreign-investment/165675.vnp

เวียดนามยังคงเป็นจุดมุ่งหมายในการลงทุนข้ามพรมแดน

จากการสำรวจของบริษัท PwC เปิดเผยถึงผลสำรวจนักธุรกิจชั้นนำกว่า 1,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจการประกอบธุรกิจข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2562-2563 (Doing business across borders in Asia Pacific 2019-2020) โดยผลของการสำรวจในครั้งนี้ พบว่าบริษัทเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และกลุ่มธุรกิจมีแนวโน้มทิศทางเป็นบวกมากกว่าธุรกิจในภูมิภาคความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34 ของธุรกิจที่อื่นๆทำรายได้ในระดับสูงได้ โดย 4 ใน 5 ของนักธุรกิจชั้นนำของเวียดนาม ระบุว่าได้วางแผนในการเพิ่มเงินทุนด้านระบบควบคุมอัตโนมัติและทักษะแรงงาน ขณะที่ ผู้ประกอบการร้อยละ 80 มองว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ นักธุรกิจเวียดนามส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มเงินลงทุนในประเทศในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-remains-a-top-destination-for-crossborder-investment-407715.vov