กัมพูชาได้รับการอนุมัติในการส่งออกพริกไทยไปยังจีน

สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) อนุมัติข้อเสนอการส่งออกพริกไทยของกัมพูชาไปยังจีน โดยได้อนุมัติโรงงานผลิตพริกไทยในกัมพูชา 7 แห่ง รวมถึงฟาร์มพริกไทยที่ได้จดทะเบียนในการเพาะปลูก 28 แห่ง สำหรับการส่งออกพริกไทยไปยังจีน ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยในประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการอนุมัติในครั้งนี้ โดยจะช่วยเพิ่มการผลิตและการกระจายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งพริกไทยถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เนื่องจากเป็นเครื่องเทศชนิดแรกของกัมพูชาที่ได้รับการอนุมัติให้ส่งออกโดยตรงไปยังจีนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้ระบุว่าการส่งออกสินค้าครั้งแรกจากกัมพูชาจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยตั้งแต่ต้นปี 2022 กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 6,000 เฮกตาร์ ซึ่งมีผลผลิตเฉลี่ยปีละ 20,000 ถึง 30,000 ตัน ขณะที่รายงานระบุว่ากัมพูชาส่งออกพริกไทยไปยังต่างประเทศจำนวนกว่า 822,654 ตัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ด้านสมาพันธ์พริกไทยและเครื่องเทศกัมพูชา กล่าวว่า ราคาพริกไทยในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 3,000-3,500 ดอลลาร์ต่อตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290261/cambodian-pepper-gets-china-approval-for-direct-exports/

สมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมปอต รายงานการส่งออกพริกไทยลดลงร้อยละ 30.7 ในปี 2022

พริกไทยกัมปอต หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของสหภาพยุโรป ลดลงเกือบหนึ่งในสามในปี 2022 รายงานโดย Nguon Lay ประธานสมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมปอต (KPPA) ซึ่งกล่าวเสริมว่ากัมพูชาส่งออกพริกไทยเพียง 79 ตันในปีที่แล้ว ลดลงร้อยละ 30.7 จากปริมาณ 114 ตันในปีก่อนหน้า โดยกว่าร้อยละ 85 ของการส่งออกพริกไทยถูกส่งไปยังยุโรป และอีกร้อยละ 15 ถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อาทิเช่น สหรัฐฯ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันพริกไทยกัมปอตมี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สีดำ สีแดง และสีขาว โดยมีราคาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์, 25 ดอลลาร์ และ 28 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ตามลำดับ แต่ถึงอย่างไรกัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกพริกไทยไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการส่งออกพริกไทยกัมพูชาไปยังจีนในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501231393/kampot-pepper-promotion-association-says-cambodias-pepper-exports-declined-by-30-7-percent-in-2022/

ผลผลิตพริกไทยในจังหวัดกำปอตของกัมพูชา พุ่งแตะ 120 ตัน ในปีนี้

พริกไทยในจังหวัดกำปอต ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกถือเป็นหนึ่งในสองผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในสหภาพยุโรป โดยในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้มีผลผลิตรวมอยู่ที่ 120 ตัน เท่ากันกับช่วงเดียวกันของปีก่อนรายงานโดย Ngoun Lay ประธานสมาคมส่งเสริมพริกไทย
กำปอต ซึ่งกัมพูชาได้รับการลงนามสำหรับการส่งออกพริกไทยแห้งกับบริษัท 6 แห่ง โดยสหภาพยุโรปถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด สำหรับพริกไทยกัมพูชา คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ 80 และส่วนที่เหลือส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น    ซึ่งพริกไทยที่ผลิตในจังหวัดกำปอตจะมีลักษณะสามแบบ คือ สีดำ สีแดง และสีขาว โดยมีราคาขายอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์ต่อตัน, 25,000 ดอลลาร์ และ 28,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งในปัจจุบันจังหวัดกำปอตมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยประมาณ 240 เฮกตาร์ ในขณะที่ปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกพริกไทยจากจังหวัดกำปอตปริมาณ 114 ตัน ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 จากปริมาณ 70 ตัน ในปีก่อนหน้า
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136847/famedkampot-pepper-yields-120-tonnes-this-year/

กัมพูชาส่งออกพริกไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 563%

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกพริกไทยมากกว่า 27,316 ตัน เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 563 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรกัมพูชา โดยพริกไทยจำนวนนี้ส่งออกไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เวียดนาม เยอรมนี ไทย ฝรั่งเศส เบลเยียม เป็นสำคัญ ตามรายงานสถิติ เวียดนามถือเป็นผู้นำเข้าพริกไทยรายใหญ่ของกัมพูชาด้วยจำนวน 26,686 ตัน ตามด้วยเยอรมนี 314 ตัน ไทย 180 ตัน ฝรั่งเศส 31 ตัน และเบลเยียมเกือบ 16 ตัน ซึ่งพริกไทยถูกปลูกอยู่ในหลายพื้นที่ของกัมพูชา โดยเฉพาะในจังหวัดกำปงจาม ตบูงขมุม กำปอต และแกบ ซึ่งพริกไทยที่ถูกปลูกในจังหวัดกำปอตถือเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งทางด้านคุณภาพและราคาสูง โดยพริกไทยกัมพูชาได้รับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากสหภาพยุโรป (EU) ในปี 2016 และจากองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2010

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50947511/pepper-exports-up-nearly-563-percent/

กัมพูชาเร่งผลิตพริกไทยเพิ่ม จากความต้องการตลาดที่สูงขึ้น

ฟาร์มพริกไทยและผู้ส่งออกต่างพยายามเพิ่มผลผลิตพริกไทยในกัมพูชาเพื่อตอบสนองและเป็นการพัฒนาศักยภาพในการส่งออกพริกไทยของกัมพูชา โดยจะร่วมอภิปรายผ่านการประชุมเสมือนจะจัดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคมภายใต้การอุปถัมภ์ของสมาพันธ์พริกไทยและเครื่องเทศกัมพูชา ได้รับการยืนยันว่าบริษัทแปรรูปพริกไทยและผู้ส่งออกที่สำคัญจะเข้าร่วมการประชุมระหว่างกัน ซึ่งหัวข้อหลักในวาระการประชุมจะร่วมหารือในหัวข้อผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2021 รวมถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขที่บริษัทผู้ส่งออก ผู้แปรรูป และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกำลังเผชิญต่อผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยรายงานจากกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงพบว่าการปลูกพริกไทยทั่วประเทศครอบคลุมบนพื้นที่ 6,822 เฮกตาร์ในปี 2020 ซึ่งสร้างผลผลิตพริกไทยรวมทั่วประเทศประมาณ 18,000 ตันต่อปี โดยการปลูกพริกไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้เนื่องจากความต้องการเครื่องปรุงรสในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50829747/pepper-production-increase-sought/

อินเดียเล็งนำเข้าพริกไทยและขมิ้นจากกัมพูชา

สถานทูตอินเดียประจำกัมพูชาระบุถึงความต้องการของอินเดียที่จะนำเข้าสินค้าภาคการเกษตร ของกัมพูชา โดยเฉพาะพริกไทยและขมิ้นเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ทางสถานทูตอินเดียประจำประเทศกัมพูชาจะจัดให้มีการประชุมเสมือนจริงระหว่างคณะกรรมการเครื่องเทศของอินเดียและคู่สัญญาผู้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรของกัมพูชา ในการหารือเกี่ยวกับโอกาสสำหรับเครื่องเทศกัมพูชาในตลาดอินเดีย พร้อมกับข้อกำหนดด้านสุขอนามัยพืช หลังจากการหารือดังกล่าวบริษัทอินเดียและกัมพูชาจะต้องมีการประชุมแบบ B2B อีกทั้งรัฐบาลกัมพูชายังสนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรมองหาโครงการในลักษณะปลอดภาษีอากรภายในประเทศอินเดีย ที่ขยายไปยังประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า (LDCs) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822835/india-seeking-pepper-and-turmeric-from-cambodia/

เวียดนามเผยกลางเดือน ก.ค. ส่งออกพริกไทยสูงถึง 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่ากลางเดือนกรกฎาคม ปริมาณการส่งออกพริกไทยของเวียดนามอยู่ที่ 182,000 ตัน มูลค่าราว 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ไปทั่วโลก แต่การส่งออกพริกไทยของเวียดนามไปยังตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ อียิปต์และสหราชอาณาจักร ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ สมาคมพริกไทยเวียดนาม (VPA) แนะนำให้ผู้ส่งออกควรมุ่งเน้นการส่งออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งมีการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ได้แก่ จีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นต้น และส่งเสริมการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เผยว่าผลผลิตพริกไทยของเวียดนามมีสัดส่วนร้อยละ 95 เพื่อเตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ และอีกร้อยละ 5 เพื่อการบริโภคในประเทศ โดยทางกระทรวงฯ เน้นในการวางแผนเตรียมพื้นที่เพาะปลูกพริกไทย และส่งเสริมการผลิตผ่านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เพื่อได้มีมาตรฐานการทำฟาร์มและเชื่อมโยงการผลิตเกษตรเชิงอนุรักษ์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pepper-export-turnover-hits-385-million-usd-by-midjuly/179349.vnp

ราคาพริกไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ในปีนี้

ราคาพริกไทยคาดว่าน่าจะยังไม่ฟื้นตัวหลังจากลดลงอย่างมากในปี 2562 เนื่องจากผลผลิตมีปริมาณมาก ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศยังไม่ส่งสัญญาที่ดีขึ้น ซึ่งทางสมาคมพริกไทยเวียดนาม (VPA) คาดว่าตลาดในประเทศยังคงสต๊อกสินค้าอยู่จำนวนมาก เนื่องมาจากการเก็บเกี่ยวพืชผลในครั้งก่อน สำหรับตลาดโลก ผลผลิตพริกไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตพริกไทยรายใหญ่ ได้แก่ อินเดียที่จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตพริกไทยอยู่ที่ 61,000-62,000 ตัน (เพิ่มขึ้น 30%YoY) เป็นต้น และด้วยจำนวนพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกหลายๆประเทศ ตั้งแต่ปี 2559-2560 ทำให้ผลผลิตพริกไทยทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงสิ้นปี 2563 ทั้งนี้ ด้านการส่งออก พบว่าปริมาณส่งออกพริกไทยของเวียดนามทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน แต่มูลค่าส่งออกกลับลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากราคาในตลาดโลกลดลง โดยจากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าในปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกอยู่ที่ 284,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 715 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 23.4%YoY และลดลง 5.7%YoY ตามลำดับ) ซึ่งประเทศสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกพริกไทยรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 19.5% ของยอดส่งออกทั้งหมด รองลงมาอินเดีย เยอรมันและเนเธอแลนด์ ตามลำดับ นอกจากนี้ เวียดนามยังมีการขยายตัวของการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดบางแห่งสูงขึ้น รวมไปถึงไทย รัสเซียและตุรกี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591556/pepper-price-to-remain-low-this-year.html

ผู้ส่งออกเรียกร้องให้เกษตรกรกัมปอตในกัมพูชาผลิตพริกไทยที่เน้นถึงคุณภาพ

ผู้ส่งออกขอให้เกษตรกรให้ความสำคัญกับการผลิตพริกไทยคุณภาพสูงโดยทำตามมาตรฐานที่เข้มงวดเพื่อเพิ่มความต้องการของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ โดยพริกไทยจากเมืองกัมปอตยังคงเป็นที่นิยมในระดับสากลโดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรจะต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพเพื่อรักษายอดขายให้แข็งแกร่ง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่สนใจเรื่องราคาจนไม่สนใจคุณภาพ ซึ่งคุณภาพถือเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกให้ความสำคัญ โดยพริกไทยกัมปอตได้รับสถานะบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในสหภาพยุโรปในปี 2015 ซึ่งสมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมปอตระบุว่า 50% ของพริกไทยกำปอตส่งออกไปยังสหภาพยุโรปในขณะที่ 30% บริโภคภายใน ส่วนที่เหลือจะถูกส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในส่วนของ Confirel โดยขายพริกไทยกัมปอตภายใต้แบรนด์ Kirum ส่งออกประมาณ 14 ตันของพริกกัมปอตในต่างประเทศใน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า 20% ถึง 25% ของเกษตรกรรายย่อย (เกษตรกรที่มีพื้นที่น้อยกว่า 3,000 ตารางเมตร) จะทำการยกเลิกการเพาะปลูกหลังจากจบฤดูเก็บเกี่ยวในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50673130/exporter-urges-kampot-pepper-farmers-to-focus-on-quality

เวียดนามเผชิญกับอุปสรรคในการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลก

ตามข้อมูลของสำนักงานการนำเข้า-ส่งออก ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรค เป็นผลมาจากผลผลิตล้นในตลาดโลก และการแข่งขันจากคู่แข่งที่สูงขึ้น ทำให้ระดับราคาลดลง โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยอยู่ที่ 100,000 เฮกเตอร์ คิดเป็นปริมาณผลผลิตราว 247,000 ตัน ขณะที่ ราคาพริกไทยยังอยู่ในระดับต่ำและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมพริกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไปอีก ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตพริกไทยในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านตันในปี 2050 เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาพริกไทย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามเผชิญกับความท้าทาย แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น CPTPP และ EVFTA เป็นต้น จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pepper-exports-face-hurdles-in-global-market-407916.vov