รัฐบาลของรัฐยะไข่จัดสรรเงิน 3.5 พันล้านจ๊าดเพื่อการฟื้นฟูเมืองซิตตเว
รัฐบาลรัฐยะไข่กำลังจัดสรรงบประมาณ 3,500 ล้านจ๊าดสำหรับการพัฒนาเมืองซิตตเวใหม่ เนื่องจากเมืองซิตตเว ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของรัฐยะไข่ จุดสนใจหลักคือการเสริมสร้างความสวยงามของเมือง โดยผ่านโครงการ 90 วัน ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และงานทั้งหมดมีกำหนดจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า ทั้งนี้ ยังคงมีการดำเนินงานต่างๆอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งถนนสายรอง การขุดท่อระบายน้ำ การดำเนินการเก็บขยะทั่วเมือง และการติดตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายในสวนสาธารณะสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการใช้มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน และการปรับปรุงถนน Shukhintha และถนนที่ทอดไปสู่ชายหาด แม้ว่ารัฐบาลจะดำเนินโครงการ 90 วันและงานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมการพัฒนารัฐยะไข่จะยังคงดูแลการเตรียมการและการบำรุงรักษาต่อไป
จ๊าด อ่อนค่าเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์ ที่ประมาณ 3,300 จ๊าด ในตลาดซื้อขายที่ไม่เป็นทางการ
จ๊าตอ่อนค่าลงเป็น 3,310 จ๊าด/ดอลลาร์ ในตลาดซื้อขายที่ไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจาก 3,230 จ๊าด/ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปัจจุบันธนาคารกลางเมียนมาร์กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงไว้ที่ 2,100 จ๊าด/ดอลลาร์ ธนาคารกลางเมียนมาร์ได้กำหนดขอบเขตความผันผวนของการซื้อ-ขายสกุลเงินจ๊าดไว้ที่ร้อยละ 0.3 สำหรับการทำธุรกรรมการขายหรือการซื้อมีผลมาตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยสถาบันการเงิน รวมถึงธนาคารและจุดแลกเปลี่ยนเงินนอกระบบได้รับคำสั่งให้กำหนดมูลค่าเงินดอลลาร์ที่ 2,094 จ๊าด/ดอลลาร์ สำหรับการซื้อ และ 2,106 จ๊าด/ดอลลาร์ สำหรับการขาย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 พฤศจิกายนอัตราแลกเปลี่ยน จ๊าดต่อดอลลาร์ ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่ 3,270 จ๊าด/ดอลลาร์ สำหรับการซื้อ และ 3,310 จ๊าด/ดอลลาร์ สำหรับขาย แม้ว่าราคาอ้างอิงของธนาคารกลางแห่งเมียนมาจะมีความแตกต่างอย่างมากกับอัตราตลาดที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งธนาคารกลางแห่งเมียนมาไม่สามารถกำหนดราคาใหม่ได้ ตามประกาศที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2566
เมียนมา และจีนลงนามข้อตกลงซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โครงการ
ตามการแถลงของสถานเอกอัครราชทูตจีนในเมียนมา การลงนามข้อตกลงระหว่างเมียนมาและจีนในการซื้อไฟฟ้าสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โครงการ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยคำแถลงระบุว่า กำลังการผลิตรวมของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โครงการของ Kyeon Kyeewa, Kinda และ Sedoktaya ในเขต Magway และ Mandalay ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Power China Resources Ltd. และกระทรวงพลังงานไฟฟ้าของเมียนมา อยู่ที่ 90 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับการพัฒนาของ ภูมิภาค ด้านรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานไฟฟ้าแห่งสหภาพ ชื่นชมความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และหารือทัศนคติที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านไฟฟ้าจีน-เมียนมาต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาของทั้งสองประเทศ และดึงดูดความสนใจของประชาชนเมียนมามากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการตามผลข้อตกลงของการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่ 3 การพัฒนาการเชื่อมต่อไฟฟ้าระหว่างจีน-เมียนมา ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา “ความต้องการไฟฟ้า” ของเมียนมา และรองรับการก่อสร้าง ระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา
เมียนมา เอธิโอเปีย ร่วมมือกันภาคการค้า อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาระบุ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำอินเดียและเอกอัครราชทูตเอธิโอเปียประจำอินเดีย ได้จัดการเจรจาเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเมียนมาและเอธิโอเปีย ในการพัฒนาภาคการค้า อุตสาหกรรม และการเกษตร โดยมีการหารือกันเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สถานทูตเมียนมาในอินเดีย U Moe Kyaw Aung เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำอินเดีย และ Mr. Demeke Atnafu Ambulo เอกอัครราชทูตเอธิโอเปียประจำอินเดีย กล่าวถึงประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือทางการเมืองและสถานการณ์การค้าระหว่างเมียนมาและเอธิโอเปีย ตลอดจนแนวโน้มความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาภาคเกษตรกรรม
หนังสือเชิญแสดงความสนใจ สำหรับสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเมียนมา ในความร่วมมือโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์
ในการจัดตั้งสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของเมียนมา คณะกรรมการกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาภายใต้กระทรวงพาณิชย์จะเรียกร้องให้มีการแสดงหนังสือความสนใจ (EOI) และมาตรการต่างๆ กำลังดำเนินการเพื่อจัดตั้งสมาคมหน่วยงานที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเมียนมา เพื่อร่วมมือกันในโครงการท่าเรือทะเลลึกนอกชายฝั่ง เขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ บริษัทที่เป็นของชาวเมียนมาจะถูกตรวจสอบเพื่อเข้าร่วมกลุ่มภายใต้กฎและข้อบังคับ โดยบริษัทจะต้องเป็นบริษัทเอกชนในประเทศหรือบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายบริษัทเมียนมาปี 2017 จะต้องดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่การจัดตั้งบริษัท และจะต้องถือแบบฟอร์มแยกบริษัทและใบรับรองการจดทะเบียนบริษัทที่ออกโดยคณะกรรมการการลงทุนและการจดทะเบียนบริษัท และต้อง ไม่ถูกระงับบนระบบทะเบียนออนไลน์ MyCO ของ DICA ทั้งนี้ บริษัทจะต้องจัดตั้งขึ้นมานานกว่า 10 ปีหรือต้องมีประสบการณ์ 5 ปีในกระบวนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จ หากนิติบุคคลถูกจัดตั้งขึ้นในรัฐยะไข่ ระยะเวลาในการจัดตั้งนิติบุคคลที่กำหนดจะผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปีจะต้องเท่ากับ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือจำนวนเทียบเท่าในสกุลเงินต่างประเทศหรือสกุลเงินท้องถิ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และจะต้องไม่ถูกขึ้นบัญชีดำหรือถูกตัดสิทธิ์โดยกระทรวง สภาเนปิดอว์ และรัฐบาล รวมทั้งบริษัทเหล่านั้นจะต้องจ้างพนักงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเพียงพอซึ่งสามารถให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่โครงการได้ แต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอเอกสารยืนยันว่าพวกเขาสามารถลงทุนอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้อเสนอ ต้องส่งรายงานงบการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพร้อมกับใบรับรองด้านภาษีจากสำนักงานสรรพากรที่เกี่ยวข้องด้วย
การก่อสร้างท่าเทียบเรือ Union National Race Village (Yangon) มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน พ.ย
การก่อสร้างท่าเทียบเรือที่หมู่บ้าน Union National Races Village (ย่างกุ้ง) เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวที่จะมาที่หมู่บ้าน Union National Races Village (ย่างกุ้ง) ในเมือง Thakayta เขตย่างกุ้ง ผ่านทางแม่น้ำพะโค โดยโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือแม้ว่าจะมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน โครงการดังกล่าวได้รับการพัฒนาในปีงบประมาณ 2565-2566 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 449.505 ล้านจ๊าด ท่าเทียบเรือดังกล่าวมีความยาว 96 ฟุต กว้าง 12 ฟุต และมีสะพานโครงเหล็กขนาด 80 ฟุต ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำ ป่าชายเลน ระหว่างการเดินทางทางทะเล และยังสามารถล่องเรือเที่ยวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ท่าเรือดังกล่าวยังสามารถเชื่อต่อกับท่าเทียบเรือ Botahtaung และ Pansodan และผู้ที่มาจากตอนบนของแม่น้ำพะโค