เวียดนามเผยยอดค้าปลีกและบริการลดลง ในเดือน สิ.ค.

เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เพิ่งประกาศสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในเดือนสิงหาคม พบว่ายอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการรวม อยู่ที่ 442,900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน เนื่องจากพบการระบาดใหม่ที่ดานัง อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับปีที่แล้ว ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 หากจำแนกพบว่ารายได้จากการท่องเที่ยวลดลงมากที่สุด ร้อยละ 62 ด้วยมูลค่า 974 พันล้านด่อง รองลงมารายได้จากที่พักอาศัย ลดลงร้อยละ 15 ในขณะที่ รายได้จากค้าปลีกลดลงเพียงร้อยละ 0.2 ยิ่งไปกว่านั้น รายได้จากบริการอื่นๆ ลดลงร้อยละ 4.5 ด้วยมูลค่ามากกว่า 46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ อยู่ที่ 3.22 ล้านด่อง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมืองไฮฟอง (Hai Phong) เป็นเมืองที่มียอดค้าปลีกสูงที่สุดเมื่อเทียบกับปี 2562 รองลงมาฮานอย ด่งนายและโฮจิมินห์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8, 9.4 และ 8.3 ตามลำดับ ขณะที่ ดานังและคั้ญฮหว่า มียอดค้าปลีกลดลงร้อยละ 5-6 นอกจากนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวในช่วง 8 เดือน อยู่ที่ประมาณ 13,100 พันล้านด่อง ลดลงร้อยละ 54.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้นโยบายการท่องเที่ยวในประเทศไม่ได้ดำเนินมาใช้ รวมถึงนักท่องเที่ยวยกเลิกทริปทัวร์และงานเทศกาลอีกหลายแห่ง

ที่มา : https://vnexplorer.net/retail-sales-of-consumer-goods-and-services-decreased-in-august-a202088640.html

ห้างฯ ยอมเฉือนเนื้อหั่นราคาระบายสต็อกครึ่งปีหลัง

นักการตลาด ชี้ ครึ่งหลังปีนี้ห้างใช้หมัดเด็ด ยอมขายขาดทุนดึงคนเข้าห้าง แห่กระหน่ำแคมเปญแรงลดสูงสุด 80% ช่วยกระตุ้นตลาด ระบายสต็อกเก่า นายชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้บรรดาผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าต่างออกมาใช้กลยุทธ์ ยอมขายขาดทุนเพื่อเป็นตัวดึงดูดคนเข้าห้าง สำหรับช่วยระบายสต็อกสินค้าเก่าและกระตุ้นยอดขายชดเชยในช่วงที่ปิดให้บริการชั่วคราวไป 2 เดือน ซึ่งเห็นได้จากการที่ห้างยักษ์ใหญ่ต่างๆออกมากจัดแคมเปญ ลดราคา ตรึงราคา สินค้าเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังนี้เกือบทุกค่าย นายสเตฟาน จูเบิร์ท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า และรักษาการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์ เงินเพิ่ม มาโรบินสัน โดยจับมือร่วมกับพันธมิตรแบรนด์สินค้าชั้นนำ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องครัว และของใช้ในบ้าน ของใช้และของเล่นเด็กทั้งหมด 100 แบรนด์ รวม 10,000 รายการ เพื่อจำหน่ายสินค้าในราคาที่คุ้มค่า เช่น ตรึงราคาสินค้านาน 6 เดือน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค และกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้น ทั้งนี้กลยุทธ์ดังกล่าวประกอบด้วย ราคาดี ถูกจริง ไม่มีการปรับราคาสินค้าขึ้นหรือลดลงในเวลา 6 เดือน ,จำหน่ายสินค้าราคาถูกหมดแล้วหมดเลย ,ซื้อมากลดมาก และจำหน่ายสินค้าลิมิเต็ด อิดิชั่น ในราคาพิเศษ ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่โรบินสันเท่านั้น รายงานข่าวจาก บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จัดแคมเปญ ไอคอนสยาม ช้อปปิ้ง ดับเบิ้ลโบนัส นำสินค้ามาลดราคาสูงสุด 80% พร้อมมอบของรางวัลและบัตรกำนัลต่างๆ อาทิ  กิ๊ฟว้อยเชอร์ 1,000 บาท บัตรชมภาพยนตร์ เพื่อต้อนรับวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 3-7 ก.ย.นี้ ที่ห้างไอคอนสยาม และในช่วงเดียวกันนี้ห้างสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ ยังได้จัดแคมเปญ เซลสุดพลังรับวันหยุดยาวตลอด5 วันเต็ม ยกกองทัพสินค้าแบรนด์ดังทั้งไทยและระดับอินเตอร์มาลดราคาสูงสุด 70% เพื่อให้คนไทยได้ปลดปล่อยพลังช้อปแบรนด์สินค้ามากมาย น.ส.นงลักษณ์ โลหะมาณพ ผู้จัดการใหญ่การตลาด คอปเปอร์เรท โปรโมชั่นทบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ได้จัดแคมเปญ พกพอยท์ มาช้อปเวอร์ โดยสมาชิกเอ็ม การ์ด นำคะแนนสะสมมาแลกเป็นคูปงส่วนลดได้สูงสุด 40% เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/792801

เซเว่นอีเลฟเว่น วางแผนบุกตลาดกัมพูชา

เชนร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากลมีแผนที่จะบุกตลาดกัมพูชาในปีหน้าภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ซีพีออลล์กัมพูชา ตามที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกล่าวว่า บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) จะทำการลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์ประมาณ 700 ถึง 1,000 สาขาในกัมพูชา ภายในช่วง 5 ปีแรก อย่างไรก็ตามมีคำถามว่ามาร์ตอื่น ๆ ในกัมพูชาจะตอบสนองต่อการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงจากเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างไร โดยร้อยละ 50 ของสินค้าที่ผลิตในกัมพูชาจะวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งใหม่ทั่วประเทศ และจะเสนอแฟรนไชส์ให้กับเจ้าของธุรกิจในท้องถิ่น และนักลงทุนต่างชาติที่สนใจมีสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นของตนเอง ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับ RFI ในเดือนพฤษภาคม โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าโครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ขายรายอื่นในกัมพูชา แต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50755370/poser-over-competition-from-7-11-stores-opening-in-kingdom/

ยอดค้าปลีกเวียดนาม 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาด

สำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าปลีกสูงถึง 1,895,600 พันล้านด่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.6 ของมูลค่าทั้งหมดและเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น เมื่อภาครัฐดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมนั้น ทำให้ผู้คนมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ในขณะที่ เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทั้งนี้ เมือง/จังหวัดที่มีการทำธุรกรรมการค้าปลีกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ได้แก่ ไฮฟอง (10.4%) รองลงมาโฮจิมินห์ (10.1%), ฮานอย (9.9%, ด่งนาย (8.4%), บินห์ดินห์ (4.3%), บ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (3%) และทัญฮว้า (0.9%) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน รายได้จากที่พักและบริการจัดเลี้ยง อยู่ที่ 234,700 ล้านด่ง ลดลงร้อยละ 18.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ลดลงอย่างรุนแรงถึงร้อยละ 26.1 เนื่องจากผลกระทบของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/retail-sales-enjoy-sixmonth-increase-despite-epidemic-impact-415539.vov

พนมเปญเมกามอลล์พร้อมเปิดตัวในปี 2565

ผู้บริหารระดับสูงของ Chip Mong Retail กล่าวว่าการก่อสร้าง Chip Mong 271 Mega Mall เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 20 และพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าภายในปี 2565 โดยมีขนาดพื้นที่กว่า 150,000 ตารางเมตร 5 ชั้น มีที่จอดรถ 2,000 คันและมอเตอร์ไซค์ 500 คัน รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างบนที่ดินมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ ในใจกลางกรุงพนมเปญ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ภายในพื้นที่พัฒนา Chip Land ของ Landmark 271 เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่าโครงการก่อสร้างนี้จะช่วยให้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญไปสู่เขตการค้าที่ทันสมัยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อเพิ่มเมืองสีเขียวและศูนย์กลางการค้า ซึ่งกรรมการผู้จัดการของ DBD Engineering Co Ltd. กล่าวว่าการลงนามใน MoU กับ Chip Mong เพื่อดำเนินการพัฒนาและติดตั้งระบบไฟฟ้าแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เหมาะสมของโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731799/mega-mall-20-percent-complete/

เวียดนามเผยยอดค้าปลีกดิ่งลง ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกและบริการของเวียดนามโดยรวมลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แตะระดับ 82.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะเดียวกัน ในเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้กำลังซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวในท้องถิ่น ทั้งนี้ หากจำแนกแหล่งที่มาของยอดค้าปลีก พบว่าการซื้ออาหารขยายตัวร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาเครื่องใช้ในบ้าน (2%) ขณะที่ผลิตภัณฑ์ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ปรับตัวลดลงร้อยละ 8.2 และเครื่องนุ่งห่ม (3%) ด้านเมืองที่มีการเติบโตของการค้าปลีก ได้แก่ เมืองไฮฟอง รองลงมากรุงฮานอยและโฮจิมินห์ นอกจากนี้ ธุรกิจที่พักและการท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ถึงแม้ว่าธุรกิจกลับมาดำเนินงานต่อและผู้คนในท้องถิ่นกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 54 แตะระดับ 8.3 ล้านล้านด่ง จากการที่เวียดนามหยุดการออกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศยังไม่ฟื้นตัว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8729302-vietnam%E2%80%99s-retail-sales-down-in-five-months.html

‘กรุงฮานอย’ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกลดลง 30% เหตุโควิด-19

เวียดนามดูเหมือนว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว และธุรกิจเริ่มหันมาดำเนินต่อไป แต่ว่าสถานการณ์ของตลาดค้าปลีกในกรุงฮานอยกลับดิ่งลงฮวบ โดยค่าเช่าพื้นที่ปรับลดร้อยละ 20-30 สำหรับธุรกิจที่ลำบากในช่วงการแพร่ระบาดไวรัส ส่งผลให้ร้านค้าส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลงและหาทางโอนหรือคืนร้านค้าที่เช่ามา ทั้งนี้ คุณ Pham Danh Tung เจ้าของร้านค้าแฟชั่นแห่งหนึ่ง กล่าวว่าจำนวนลูกค้าและรายได้ลดลงหนักมาก ประกอบกับอัตราค่าเช่าอยู่ในระดับสูง ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชั่วคราวและหันไปเป็นเจ้าของบ้านเช่า ในขณะเดียวกัน จากผลการสำรวจของบริษัทที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ‘CBRE’ ระบุว่าผู้เช่าพื้นที่ค้าปลีกส่วนใหญ่ร้อยละ 43 คาดรายได้ลดลงร้อยละ 10-30 ในปีนี้ และร้อยละ 27 หวังว่าจะได้รับการส่งเสริมจากผู้ปล่อยเช่าพื้นที่ค้าปลีก เนื่องจากได้รับผลกระทบทางลบจากไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ระบุว่าเทรนด์การช็อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การธุรกิจค้าปลีกได้รับความนิยมน้อยลง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hanoi-retail-space-rentals-down-30-due-to-covid19-413778.vov

สถานการณ์ร้านค้าปลีกในกัมพูชาระหว่างการแพร่ระบาด COVID-19

การกักตุนสินค้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในกรุงพนมเปญ เนื่องจากการปิดชายแดนกัมพูชาจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้เกิดความกังวลว่าจะขาดแคลนอาหารภายในประเทศ ส่งผลให้ราคาสินค้าหลักประเภทอาหารเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศว่าจะดำเนินการเพื่อหยุดการกระทำของผู้ค้ากลุ่มที่กำลังแสวงหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ขายอาหารในท้องถิ่นกล่าวว่าปลาแห้งราคาเพิ่มขึ้นจาก 25,000 riels (6.25 ดอลลาร์) เป็น 35,000 riels (8.75 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัมเนื้อหมูเพิ่มขึ้นจาก 19,000 riels (4.75 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัมเป็นประมาณ 30,000 riels (7.5 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัมทันที ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้นจาก 20,000 riels (5 ดอลลาร์) เป็น 32,000 riels (8 ดอลลาร์) ต่อกล่องเป็นต้น โดยกระทรวงมีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับราคาของสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อทำการควบคุมราคาของสินค้าในตลาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50705054/retailers-told-to-not-price-gouge-from-panic-buying/

ยอดค้าปลีกและบริการเวียดนาม 37.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรก

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ว่ารายได้จากการค้าปลีกและบริการของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าอยู่ที่ 863.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ มียอดค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 674 ล้านล้านด่อง (29.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากจำแนกรายสินค้าที่มียอดขายเพิ่มขึ้น พบว่ารถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 ตามมาด้วยน้ำมันเบนซินและน้ำมัน (11%), เครื่องใช้ในบ้าน (9.5%), เครื่องนุ่งห่ม (8.9%), อาหาร (8.6%), ยานยนต์ (7.1%) และวัฒนธรรมและอุปกรณ์การเรียน (4.7%) สำหรับเมือง/นครที่มีรายได้จากการค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ Quang Ninh, Hai Phong, Thanh Hoa, Nghe An และ Hanoi เป็นต้น ทั้งนี้ รายได้จากที่พักและบริการจัดเลี้ยงอยู่ที่ 95 ล้านล้านด่อง (4.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกัน รายได้จากบริการด้านการท่องเที่ยวอยู่ที่ 7.4 ล้านล้านด่อง (320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-sales-service-revenues-post-374-billion-usd-in-two-months/169460.vnp

ธุรกิจญี่ปุ่นลงทุนภาคการค้าปลีกและบริการในเวียดนาม

ภาคการค้าปลีกและบริการเวียดนาม คาดว่าจะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากญี่ปุ่นจำนวนมากในปีนี้ จากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JETRO) เปิดเผยว่ากำลังซื้อของชาวเวียดนามที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนั้น ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกและบริการชาวญี่ปุ่น มองหาโอกาสธุรกิจในตลาดที่กำลังเติบโต ถึงแม้ว่าการลงทุนของญี่ปุ่นจะลดลงในปีที่แล้ว แต่จำนวนโครงการใหม่ของนักลงทุนญี่ปุ่นกลับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งจำนวนโครงการที่จดทะเบียนแตะระดับสูงสุดอยู่ที่ 435 โครงการในปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากผลการสำรวจของเจโทร ระบุว่าผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในเวียดนามส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ตั้งใจที่จะขยายธุรกิจในประเทศ นับว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการลงทุนสูงสุดในอาเซียน ในขณะเดียวกัน องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่าเมื่อ 3 ปีก่อน ว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น แต่ด้วยแนวโน้มในปัจจุบัน ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่หันมาลงทุนในเวียดนามแทน เนื่องจากจำนวนประชากรมากกว่า 96 ล้านคน ดังนั้น ภาคบริการจีงมีศักยภาพสูงและเป็นสาเหตุที่ผู้ค้าปลีกญี่ปุ่นหลายรายเข้ามาทำตลาดในเวียดนาม นอกจากนี้ กระทรวงการวางแผนและการลงทุน ระบุว่าธุรกิจญี่ปุ่นหลายรายมักจะระมัดระวังในการลงทุน ซึ่งจากข้อมูลสถิติการลงทุน ระบุว่าในปีที่แล้ว เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/japanese-businesses-to-invest-in-vietnam-s-services-and-retail/169100.vnp