‘ผู้ค้าปลีกเวียดนาม’ กลับมาฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เอส เอส ไอ (SSI) คาดการณ์ว่าธุรกิจจะกลับมาทำกำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 และในปี 2567 เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายเงินให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคและการปรับตัวดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจ ในขณะที่ผู้ค้าปลีกเวียดนามมีแนวโน้มที่จะหันไปสู่การค้าสมัยใหม่ รวมไปถึงการระดมเงินทุน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ของผู้ค้าปลีกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เผชิญกับอุปสรรคหลายประการ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าธุรกิจค้าปลีกได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาแล้ว

ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานสถิติของเวียดนาม (GSO) ระบุว่ารายได้รวมจากการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่ากว่า 3.01 ล้านล้านด่อง

ในขณะเดียวกันจากผลการสำรวจของ ‘Infocus’ พบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเวียดนาม ลดลงมาอยู่ที่ 54 จุด ในเดือน มิ.ย.66 จากเดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 63 จุด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/domestic-retailers-on-path-to-recovery/259465.vnp

‘เวียดนาม’ มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมมะพร้าวอย่างยั่งยืน

อุตสาหกรรมมะพร้าวมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม และควรได้รับพิจารณาให้เป็นส่วนสำคัญของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศ อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมมะพร้าวในปัจจุบันมีปัญหาในการจัดหาเงินทุน เพื่อที่จะยกระดับเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งผลักดันให้มะพร้าวเป็นพืชอุตสาหกรรมหลักของเวียดนามภายในปี 2573 ทั้งนี้ เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวมากกว่า 188,000 เฮกตาร์ คิดเป็น 1.67% ของพื้นที่ทั่วโลก ในขณะที่ต้นมะพร้าวนับเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเกษตรกรกว่า 389,530 ครัวเรือน และทำรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและแปรรูปมะพร้าว จำนวน 854 ราย และอีกกว่า 90 บริษัทที่ส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวไปทั่วโลก รวมถึงมีการจ้างแรงงานมากกว่า 15,000 คน

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnam-eyes-sustainable-development-for-coconut-industry-post127536.html

เจาะแผน ‘เซ็นทรัลรีเทล’ รุกเวียดนามครึ่งปีหลัง ลุยขยายซูเปอร์มาร์เก็ต

บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้บุกเบิกธุรกิจไปในเวียดนามมาเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีแล้ว ด้วยจุดเริ่มต้นจากการจำหน่ายกลุ่มสินค้าแฟชั่น ต่อมาในปี 2558 ได้เข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับ เหงียนคิม (Nguyen Kim) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม หลังจากนั้นในปี 2559 ได้ขยายธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น ด้วยการเข้าไปซื้อกิจการ บิ๊กซี เวียดนาม และขยายธุรกิจค้าปลีกมาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ตามแผนในปี 2566 ได้มีการก่อสร้าง ศูนย์การค้า GO! จำนวน 5-7 แห่ง คาดว่าจะเปิดได้ในปี 2567 จากในปัจจุบันมีศูนย์การค้ารวม 39 แห่ง ส่วนห้างค้าปลีก มีแผนรีโนเวทใหม่ หรือ รีโมเดล รวม 10 สาขา จากในปัจจุบันมีสาขาของ GO! รวม 38 สาขา พร้อมกันนี้วางแผนรีโนเวท สาขาของ บิ๊กซีเดิมที่มีอยู่ ให้เป็นสู่ศูนย์การค้าและห้างค้าปลีก GO! จำนวน 10 สาขาให้แล้วเสร็จในปีนี้

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1078688

‘ซาวิลส์’ ชี้โอกาสของเวียดนามที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เหตุนักลงทุนเล็งหาศูนย์การผลิตด้วยต้นทุนต่ำ

บริษัท ซาวิลส์ เอเชีย แปซิฟิก ระบุว่าประเทศต่างๆ ได้แก่ เวียดนามและอินโดนีเซีย อาจได้รับประโยชน์ หากบริษัทเริ่มที่จะมองหาศูนย์การผลิตด้วยต้นทุนต่ำในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นและต้นทุนการผลิตต่ำ โดยหลังจาก 3 ปีที่เกิดการหลุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลก ดูเหมือนว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สังเกตได้จากต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลหรือทางอากาศส่วนใหญ่กลับสู่ช่วงก่อนโควิด-19 ตลอดจนเรือตู้คอนเทนเนอร์ไม่มีคิวรอเข้าท่าเรือหลัก ทั้งนี้ Jack Harkness ผู้อำนวยการฝ่ายบริการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคของบริษัท กล่าวว่าต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นในจีน บ่งชี้ให้เห็นว่าไม่คุ้มค่ากับการดำเนินธุรกิจ และยังแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ มองหาแหล่งการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-could-benefit-as-investors-look-for-low-cost-production-centres-savills-post1032775.vov

‘เวียดนาม’ เผยยอดทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ม.ค.-พ.ค. พุ่ง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม ‘VnExpress’ เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ผู้บริโภคชาวเวียดนามใช้จ่ายในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่ตามข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แสดงให้เห็นว่ารายได้จากการทำธุรกรรมทางการเงินบนช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ iOS ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. สูงกว่าอุปกรณ์ Android ถึง 1.5 เท่า และยอดการใช้จ่ายของทั้งสองแพลตฟอร์มเกินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ทั้งนี้ จากตัวเลขของการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 2.2% ของปริมาณการดาวน์โหลดแอปบนมือถือทั่วโลก โดยประเภทของการดาวน์โหลดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเกมส์ออนไลน์

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-spends-us100-million-on-in-app-purchases-in-jan-may/

‘CIEM’ คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ โต 6.46% และเงินเฟ้อ 4.39%

จากงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดยหน่วยงาน Centre Institute for Economic Management (CIEM) ได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเวียดนาม ภายใต้ 3 สถานการณ์ ดังนี้

สถานการณ์แรก มองว่าหากเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินต่อไปได้ และเวียดนามจะยังคงใช้นโยบายในลักษณะแบบเดิมในช่วงครึ่งหลังของปี 2564-2565 ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.34% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 5.64% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้น 3.43%

ในขณะที่สถานการณ์ที่สอง ตั้งสมมติฐานเหมือนกัยสถานการณ์แรก แต่จะมีการปรับนโยบายการเงินผ่อนคลายที่เกี่ยวข้องกับการลดอัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์ทางการคลังที่เป็นบวกมากขึ้นในเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.72% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 3.66% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้น 3.87%

และสถานกาณณ์ที่สาม ตั้งสมมติฐานในเชิงบวกมากขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.46% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 2.17% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะสูงถึง 4.39%

ที่มา : https://en.sggp.org.vn/vietnams-economic-growth-forecast-at-646-percent-inflation-439-percent-post103486.html

‘สื่ออังกฤษ’ ตีบทความ โอกาสครั้งสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม

สื่ออังกฤษด้านธุรกิจและการเงิน ‘Financial Times’ ลงบทความที่ทำการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่นำไปสู่การผลักดันให้สัญญาต่างๆ และในโอกาสครั้งสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนามที่จะไปสู่การเติบโตสูงสุด และการใช้ความได้เปรียบทางด้านการผลิต เพื่อการส่งเสริมประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้ามาในประเทศสูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา มูลค่ากว่า 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่เข้ามาลงทุน อาทิเช่น เดลล์ (Dell), กูเกิล (Google), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และ แอปเปิล (Apple) บริษัททั้งหมดในข้างต้นทำการย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมองหาโอกาสที่จะพัฒนามากขึ้นในอนาคตข้างหน้า นอกจากนี้ เวียดนามจำเป็นที่จะต้องยกระดับขีดความสามารถในการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อตอบสนอบความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-economic-moment-has-arrived-financial-times/256097.vnp