“เวียดนาม” เผยผลผลิตแร่แรร์เอิร์ธ พุ่ง 10 เท่า

ผลผลิตแร่แรร์เอิร์ธของเวียดนามเพิ่มขึ้น 10 เท่าในปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของสหรัฐฯ ระบุว่าในขณะที่บริษัทระดับโลกพากันแห่ไปที่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ที่เป็นแหล่งแร่หายากที่ประเมินว่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เพื่อลดการพึ่งพาจีนสำหรับโลหะอุตสาหกรรมสำคัญ ความพยายามที่ผ่านมาในการสร้างอุตสาหกรรมแรร์เอิร์ธของเวียดนามต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากราคาที่ตกต่ำลงและอุปสรรคด้านกฎระเบียบ แต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และความพยายามของบริษัทต่างๆ ที่จะกระจายความหลากหลายของซัปพลายเออร์ได้ฟื้นความสนใจในเวียดนาม

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/vietnam-boosts-rare-earths-output-by-tenfold-data/

เวียดนามจัดโครงสร้างแหล่งพลังงานใหม่ หวังดูดเงินลงทุนต่างชาติหลายพันล้านดอลลาร์เข้าประเทศ

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า แหล่งข่าวจากวงการพลังงานเวียดนามระบุว่า รัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 2 เท่าภายในปี 2030 โดยมีแผนลดเป้าหมายสำหรับพลังงานลมนอกชายฝั่งลง และจะพึ่งพาถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลักเพิ่มขึ้นเป็น 30.1 กิกะวัตต์ จากแผนเดิมปี 2020 อยู่ที่ 21.4 กิกะวัตต์ และยืนยันว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นแหล่งไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งคิดเป็น 19% ของโรงไฟฟ้าทั้งหมด ส่วนไฟฟ้าพลังน้ำจะเป็นแหล่งพลังงานหลักอันดับ 2 รองลงมาคือ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และพลังงานลม ส่วนแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยมีการคาดการณ์ว่า กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 158 กิกะวัตต์ในอีก 7 ปี เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 69 กิกะวัตต์ ทั้งนี้ ก็เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้ามาหลายพันล้านดอลลาร์  อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวมีความสำคัญต่อการปลดล็อกกองทุนเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานมูลค่า 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ให้คำมั่นไว้ในเดือนธันวาคมโดยกลุ่ม 7 ชาติและประเทศที่ร่ำรวย แต่การอนุมัติยังล่าช้าไปหลายปี ท่ามกลางความขัดแย้งภายในและการปฏิรูปที่ซับซ้อน

ที่มา : https://thestandard.co/vietnam-new-energy-resource-structure/

“เวียดนาม” เผย 4 เดือนแรก รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงถึง 645.4 ล้านล้านดอง

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ สูงถึง 645.4 ล้านล้านดอง (27.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็นสัดส่วน 39.8% ของเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวอยู่ในระดับค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ประมาณการไว้ อย่างไรก็ดีการจัดเก็บรายเดือยมีทิศทางที่ลดลง เนื่องจากยอดสะสมในเดือน ม.ค. สูงถึง 14.7% ของประมาณการ, ก.พ. 7.7%, มี.ค. 8.9% และ เม.ย. 8.6% ทั้งนี้ การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 500.3 ล้านล้านดอง คิดเป็นสัดส่วน 24.1% ของเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการใช้จ่ายเป็นไปตามแผนงานของรัฐบาล ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การป้องกัน การปกป้องความมั่นคง การจัดการของรัฐ การชำระหนี้และการดำเนินงานประกันสังคม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/state-budget-revenue-reaches-6454-trillion-vnd-in-four-months/252602.vnp

“เอชเอสบีซี” ประเมินศก.เวียดนาม ไตรมาส 2 ปี 66 คงเผชิญความท้าทาย

ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) รายงานว่าเศรษฐกิจของเวียดนามได้รับอิทธิผลอย่างมากต่อปัจจัยภายนอกและสถานการณ์การค้าโลก แสดงให้เห็นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ที่หดตัวลง 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตลอดจนยอดการส่งออกที่ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก โดยจุดอ่อนหลักที่สร้างผลกระทบไปยังวงกว้าง คือ สินค้าที่ทำการซื้อขายระหว่างประเทศ อาทิเช่น สิ่งทอ รองเท้า สมาร์ทโฟนและเฟอร์นิเจอร์ไม้ สินค้าดังกล่าวตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ดัชนี PMI ส่งสัญญาณเริ่มต้นอยู่ในระดับทรงตัว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจนกว่าวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกจะดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดีถึงแม้การเติบโตเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1531980/viet-nam-continues-to-face-challenges-in-q2-2023-hsbc.html

เวียดนาม-กัมพูชา ตกลงร่วมมือส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา

Nguyen Van Hung รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม ได้ประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา Thong Khon ณ กรุงพนมเปญ เพื่อทบทวนความร่วมมือทวิภาคีในแง่ของการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาระหว่างกัน ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่ลงนามระหว่างกระทรวงทั้งสองฝ่าย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว เชื่อมโยงแหล่งมรดกโลกของเวียดนามและกัมพูชา กำหนดนโยบายซึ่งเอื้อต่อภาคการท่อง เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501285715/vietnam-cambodia-agree-to-promote-tourism-sports-cooperation/

“เวียดนาม” คาดได้รับผลกระทบจากภาษีคาร์บอนจากตลาดอียู

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่าภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ที่สหภาพยุโรปได้กำหนดไว้ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าอุตสาหกรรมของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป โดยสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) บังคับใช้ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ภายใต้กฎระเบียบใหม่นั้น กลุ่มสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีคาร์บอนขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ด้วยเหตุนี้ กลไกดังกล่าวจะเริ่มต้นมาจากกลุ่มสินค้าที่มีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) จำนวนมาก ได้แก่ เหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย อะลูมิเนียมและไฟฟ้า มีสัดส่วนรวมกันราว 94% ของการปล่อยคาร์บอนของทั้งทวีป อย่างไรก็ดี สำนักงานการค้าเวียดนาม ระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์และปุ๋ยของเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-be-impacted-by-eu-carbon-tax-post1017645.vov

“สมาคมเหล็กเวียดนาม” เผยเหล็กก่อสร้าง ราคาลดลงต่อเนื่อง

สมาคมเหล็กเวียดนาม (Vietnam Steel Association) เปิดเผยว่าความต้องการเหล็กทั่วโลกได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและจีน นอกจากนี้ยังไม่เห็นสัญญาว่าอัตราเงินเฟ้อจะถูกควบคุมและอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาลดราคาสินค้า รวมไปถึงราคาวัตถุดิบที่ลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ธุรกิจเหล็กในประเทศปรับลดราคาเหล็กก่อสร้างลงมาอย่างต่อเนื่อง ราว 50 – 450 ดองต่อกิโลกรัม ลงมาอยู่ที่ 14,720 ดอง (0.62 ดอลลาร์สหรัฐ) – 15,660 ดอง (0.66 ดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทสินค้า นับว่าเป็นการลดราคาเหล็กก่อสร้างเป็นครั้งที่ 4 ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ คาดการณ์ว่าตลาดเหล็กก่อสร้างจะเผชิญกับอุปสรรคไปจนถึงสิ้นปี

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/price-of-construction-steel-continues-downwards.htm

“เวียดนาม” เผยช่วง 4 เดือนแรกของปี 66 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.7 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 3.7 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 และนักท่องเที่ยวในประเทศมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 38 ล้านคน ทำรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวประมาณ 196.6 ล้านล้านดอง (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ หากพิจาณาเฉพาะในเดือน เม.ย. 2566 พบว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 984,000 คน นับว่าเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว” ที่ถ่ายทำในเวียดนาม ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลกและยังนำเสนอถึงความงามของภูมิประเทศและวัฒนธรรมในท้องถิ่น

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/tourism/vietnam-greets-37-million-foreign-tourists-in-four-months-604229.html