รัฐบาล สปป.ลาว ออกมาตรการเข้มแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและปัญหาเศรษฐกิจ

รัฐบาล สปป.ลาว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการคุมเข้าการเพาะปลูก ไม่ให้เผาเศษซากพืชในที่ที่โล่งแจ้ง ซึ่งทำให้เกิดหมอกควันในปัจจุบัน ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่หน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่นจะต้องทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหานี้ โดยสั่งการให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยกระดับการป้องกันภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนที่เกิดจาก PM2.5 เนื่องจากตัวชี้วัดคุณภาพอากาศบ่งชี้ว่าระดับฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายอยู่ในระดับสูงมากถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากมีความหนาแน่นของอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากในอากาศ ซึ่งสามารถเข้าสู่ส่วนลึกของปอด ทำให้เกิดหรือทำให้โรคทางเดินหายใจรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้เร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มการเก็บรายได้สูงสุด และปรับปรุงระบบจัดเก็บรายได้ให้ทันสมัย ​​อุดช่องโหว่ที่ทำให้สูญเสียรายได้ พร้อมยึดนโยบายเข้มงวด รวมถึงการใช้เงินตราต่างประเทศอย่างประหยัด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_80_Cabinet_y24.php

สปป.ลาว – ไทย ผลักดันการเชื่อมเส้นทางขนส่งทางบกให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้า

รัฐบาล สปป.ลาว และไทย วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการค้าร่วมกัน โดยการสร้างถนนและสะพานเชื่อมเพิ่มเติม รวมถึงสะพานรถไฟพิเศษ ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศนัดหารือในสัปดาห์นี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองประเทศในการกระชับมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน โดยจะยังคงให้ความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงในเขตและจังหวัดตามแนวชายแดนลาว-ไทย ตลอดจนความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข เกษตรกรรมและป่าไม้ แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งผนึกกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_79_LaoThailand_y24.php

สปป.ลาว ขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 2 แม้ส่งออกมันสำปะหลังเติบโต

สปป.ลาว เผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 พบว่า ภาพรวมการค้ามีมูลค่า 1,101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าส่งออกประมาณ 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมันสำปะหลังมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกมากที่สุด รองลงมาคือ ทองคำ แร่ทองแดง กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และแป้งมันสำปะหลัง โดยตลาดจีนยังคงเป็นส่งออกหลักของ สปป.ลาว รองลงมาคือ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และอินเดีย ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าประมาณ 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก คือ ดีเซล รองลงมาคือ ยานพาหนะทางบก อุปกรณ์เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไทยยังคงเป็นแหล่งนำเข้าหลัก รองลงมาคือ จีน เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทั้งนี้ สปป.ลาว ยังคงขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยขาดดุลจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/26/laos-faces-second-month-of-trade-deficit-despite-cassava-export-boom/

สปป.ลาว เร่งออกใบอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว วางแผนที่จะออกวีซ่าทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายและขยายใบอนุญาตให้กับแรงงานที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้สามารถทำงานในประเทศต่อไปได้ เพื่อช่วยให้ประเทศจัดการแรงงานผิดกฎหมายได้ดีขึ้น และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเร่งรัดการออกใบอนุญาตและขยายเวลาใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานต่างด้าวใน ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวอพยพเข้ามาในประเทศลาวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานผิดกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐในทุกระดับจึงได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อปกป้องสิทธิของคนงาน และดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม  ในปี 2555 รัฐบาล สปป.ลาว เริ่มดำเนินการจดทะเบียนแรงงานสำหรับผู้อพยพ และในปี 2566 ได้เปิดศูนย์แรงงานและสวัสดิการสังคมทุกแห่งในแขวงต่างๆ เพื่อให้ชาวต่างชาติลงทะเบียนและออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราว ตามที่กระทรวงแรงงานฯ ระบุว่าระบบการออกใบอนุญาตและระบบการจัดการแรงงานต่างด้าวใหม่จะช่วยให้รัฐบาลรวบรวมข้อมูลและกำหนดจำนวนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-speeds-up-granting-licences-to-foreign-workers/285044.vnp

มีนักท่องเที่ยวกว่าแสนคน เดินทางมาหลวงพระบางในช่วงเทศกาลปีใหม่ลาว

วันที่ 10-19 เมษายน 2567 ช่วงเทศกาลปีใหม่ลาว มีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างชาติกว่า 110,000 คนเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง​ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 364.44% สร้างรายได้ประมาณ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำแนกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 41,500 คน ซึ่งประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจีน 10,497 คน, เกาหลีใต้ 5,541 คน,​ ไทย 4,284 คน, เวียดนาม 2,843 คน, ญี่ปุ่น 1,616 คน, สหรัฐอเมริกา 908 คน, ฝรั่งเศส 882 คน, เยอรมนี 749 คน, สหราชอาณาจักร 657 คน และแคนาดา 506 คน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 23,749 คนเท่านั้น ทั้งนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่าแสนคน ทำให้เมืองหลวงพระบางมีรายได้จากเทศกาลนี้กว่า 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_78_Luang_y24.php

สปป.ลาว เผย ทางด่วนหลวงพระบาง-วังเวียง ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ความคืบหน้าแผนงานการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ติดกับชายแดนจีน ที่แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ระยะ ที่ผ่านมาดำเนินงานในระยะที่ 1 เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ระยะทาง 109 กม. เสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่ปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 9.3% ของความยาวรวมของทางด่วนเวียงจันทน์-บ่อเต็น 1,097.15 กม. ขณะนี้อยู่ในช่วงระยะที่ 2 คือ การก่อสร้างเส้นทางจากหลวงพระบาง-วังเวียง โดยปัจจุบันสิ้นสุดขั้นตอนการสำรวจและออกแบบเบื้องต้นแล้ว ส่วนระยะที่ 3 จากหลวงพระบาง-แขวงอุดมไซ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากับนักลงทุน สำหรับระยะที่ 4 ตั้งแต่แขวงอุดมไซ-บ่อเต็น ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการก่อสร้างกับนักลงทุนแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่ออายุ สำหรับทางด่วนระหว่างเวียงจันทน์-หลวงพระบาง ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถลดเวลาการเดินทางระหว่างเมืองหลวงและจุดท่องเที่ยวจาก 3.5 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้สามารถเดินทางกลับได้ภายในวันเดียว ทั้งนี้ เส้นทางด่วนสายนี้รัฐบาล สปป.ลาว ถือหุ้น 5% และกลุ่มบริษัทยูนนานก่อสร้างและการลงทุน (YCIH) ของจีน ถือหุ้น 95%

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_77_Plansfor_y24.php