รัฐบาลเตรียมรับนักท่องเที่ยวครั้ง
รัฐบาลกำลังเตรียมที่จะเปิดประเทศลาวอีกครั้งโดยมีแผนจะเริ่มดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่บางแห่งของประเทศในขั้นต้น เรื่องนี้ได้มีการหารือกันในการประชุมของคณะกรรมการที่รับผิดชอบการท่องเที่ยวแบบ kickstarting โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจะกำหนดระเบียบข้อบังคับเพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการการกลับมาของผู้มาเยือนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนในการสร้างความไว้วางใจในหมู่นักท่องเที่ยว ตลอดจนมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั้งนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องร่วมมือกับภาคธุรกิจในการเตรียมตัวอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลแก่ผู้มาเยี่ยมเยือน ตลอดจนให้รายละเอียดขั้นตอนในการยื่นขอวีซ่าและช่องทางการรับข้อมูล
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt246.php
กระทรวงสาธารณะ เร่งการค้าข้ามพรมแดน
รัฐบาลกำลังร่วมมือกันเพื่อให้การดำเนินงานด้านศุลกากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเร่งการค้าข้ามพรมแดน ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการและกลไกการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน MOU จัดให้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับข้อมูลศุลกากร (ASYCUDA) ระบบจะใช้ระบบนี้ที่จุดผ่านแดนเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าและส่งออกมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงร่วมซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานงานการรวบรวมข้อมูลและพัฒนาโปรไฟล์ความเสี่ยงแบบบูรณาการเพื่ออัปโหลดเข้าสู่ระบบ ASYCUDA ทั้งนี้ MOU ดังกล่าวเป็นความคิดริเริ่มที่สำคัญซึ่งให้กรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชายแดนเพื่อปรับปรุงการกวาดล้างชายแดนผ่านข้อตกลงการอำนวยความสะดวกทางการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO-TFA) ข้อตกลงนี้กำลังดำเนินการภายใต้กองทุน Multi-donors Trust Fund- โครงการการแข่งขันและการค้าของสปป.ลาว ซึ่งได้รับทุนจากธนาคารโลก รัฐบาลของออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministries_245_21.php
กองทุนเพื่อการพัฒนาเขตสนับสนุนเงิน 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สู่ท้องถื่น
ตั้งแต่ปี 2548 ถึง พ.ศ. 2564 กองทุนเพื่อการพัฒนาเขตได้จ่ายเงินจำนวน 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อดำเนินโครงการ 1,049 โครงการเพื่อช่วยเหลือชุมชนในชนบท รายงานความสำเร็จของกองทุนได้จัดส่งเมื่อวันศุกร์ที่การประชุมเชิงปฏิบัติการซึ่งมีนายนิสิทธิ์ แก้วปัญญา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน รายงานดังกล่าวระบุว่าโครงการดังกล่าวประกอบด้วยโครงการเพื่อสังคม 550 โครงการ โดย 256 โครงการเกี่ยวข้องกับการศึกษา และ 294 โครงการเกี่ยวกับงานสาธารณะ โครงการเศรษฐกิจ 499 โครงการ ครอบคุมด้านการลงทุน ด้านการเกษตร การค้าและสิ่งแวดล้อม กองทุนพัฒนาเขตเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานท้องถิ่นในการพัฒนาและดำเนินการตามลำดับความสำคัญในการพัฒนา ทั้งนี้กองทุนเพื่อการพัฒนาทุนแห่งสหประชาชาติ (UNCDF) เป็นพันธมิตรที่สำคัญและมีส่วนสำคัญในโครงการปฏิรูปการปกครองและการบริหารภาครัฐแห่งชาติ ด้วยการเสริมสร้างวิธีการทำงานด้านการเงินในระดับท้องถิ่น UNCDF มีส่วนสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อขจัดความยากจน กองทุนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมืออันล้ำค่า ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา ระบบสาธารณสุข เพื่อขจัดความยากจนออกจากประชาชนสปป.ลาว และนำพาสป.ลาวสู่อนาคตที่ดี
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_District_244.php
รัฐบาลหารือธุรกิจท่องเที่ยวเร่งดำเนินการพื้นที่ท่องเที่ยวสีเขียว
เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ประกอบธุรกิจกำลังประชุมหารือถึงแผนการเปิดประเทศลาวรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนหน้า ภายใต้เงื่อนไขพิเศษที่บังคับใช้เนื่องจากการระบาดของโควิด การประชุมออนไลน์เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลอนุมัติโครงการ “พื้นที่ท่องเที่ยวสีเขียว” เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพื้นที่มีความปลอดภัยและมาตรการรองรับที่เข้มข้น โดยจะมี 3 เมืองสำคัญด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ วังเวียง วังจันทร์ หลวงพระบาง เจ้าหน้าที่กระทรวงและผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว พวกเขายังจะทำแคมเปญประชาสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย วิทยุ โทรทัศน์ และในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่เฉพาะเจาะจงอีกครั้ง และมีช่องทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม รองนายกรัฐมนตรี Sonexay Siphandone กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่ารัฐบาลจะเชิญนักท่องเที่ยวสปป.ลาวและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid ครบถ้วนมาที่สปป.ลาวโดยเน้นเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและสาธารณรัฐเกาหลีหวังว่าแคมเปญ Lao Thiao Lao (ลาวเยี่ยมชมลาว) จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสปป.ลาวอย่างน้อย 1.9 ล้านคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนในปี 2565
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry_243_21.php
ลาวแอร์ไลน์ ไม่มีแผนปรับปรุงทำการแข่งกับรถไฟลาว-จีน
ลาวแอร์ไลน์และสถานีขนส่งสายเหนือในเวียงจันทน์ไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงบริการหรือราคาตั๋วเพื่อดึงดูดลูกค้าออกจากการเดินทางบนรถไฟลาว-จีน ปัจจุบันมีคนมาที่สถานีรถไฟมากกว่าที่สนามบินและสถานีขนส่ง โดยการเดินทางด้วยรถไฟถูกกว่าเที่ยวบินและเร็วกว่าการเดินทางโดยรถบัสมากินายนู๋แดง จันทผาสุก ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของสายการบินลาว บอกกับเวียงจันทน์ไทมส์ว่า การเปิดรถไฟลาว-จีนจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการดำเนินงานของสายการบิน โดยเสริมว่าผู้คนต้องการใช้รถไฟในตอนนี้เพราะเป็นสิ่งใหม่และรถไฟ รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากความต้องการลดลง สายการบินจะลดจำนวนเที่ยวบินตามกำหนดการ แต่ถ้าจำนวนผู้โดยสารกลับสู่ระดับก่อนหน้า จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้น การเปิดทางรถไฟระยะทาง 426 กม. เป็นก้าวสำคัญของสปป.ลาวและควรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศ เนื่องจากประเทศมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและบูรณาการทางเศรษฐกิจกับส่วนอื่นๆ ของโลก
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_LaoAirlines241.php