ธุรกิจขนส่งและยานยนต์

ธุรกิจขนส่งและธุรกิจยานยนต์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เป็นปกติที่ประเทศเปิดใหม่ มักจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะก่อน ในเมียนมาทุกอย่างกำลังเริ่มต้นใหม่ เพียงแต่ต่างจากไทยอาจเวลาถึง 30 ปีกว่าจะเปลี่ยนเป็นประเทศกำลังพัฒนา ในเมียนมาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 ปี ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปก่อนล่วงที่เมียนมาเปลี่ยน จึงทำให้เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เหมือนเวียดนามนั่นเอง แต่ในชนบทยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะไม่มีเงินทุนสำรองมากนัก จึงเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากกันมากขึ้น ในแง่ของธุรกิจยานยนต์ ที่นี่ในอดีตที่ผ่านมา ไม่อนุญาตให้นำเข้ารถยนต์ ตั้งแต่ ปี 2000 เพราะในยุคก่อนนั้นมีการนำเข้ารถเก่าญี่ปุ่นจากประเทศไทยเข้าไปเยอะ และเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันจะได้รับการอุ้มจากรัฐบาล ราคาตลาดมืดลิตรละประมาณ 1,000-1,200 Ks/ลิตร แต่ราคารัฐบาลขายให้ประชาชนที่มีรถยนต์ โดยการจำกัดรถ 1 คัน ให้เติมวันละ 4 แกลลอน/ละ 400-600 Ks รถ 1 คัน สามารถวิ่งเข้าไปเติมน้ำมันแล้วเก็บไว้ขายสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เลย ดังนั้นจึงห้ามนำเข้ารถยนต์ พอในเดือน ส.ค. 2007 รัฐบาลทนต่อการขาดทุนไม่ไหวจึงประกาศงดการสนับสนุนอีกต่อไป

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/scoop/561437

การขนส่งทางเรือของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 30%

ท่าเรือในความดูแลของรัฐฯกัมพูชามีปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 7 เดือนแรกของปี โดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชา (CSX) เปิดเผยว่าเรือบรรทุกสินค้ากว่า 1,332 ลำแล่นผ่านท่าเรือในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นถึง 12.8% ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซที่ส่งผ่านท่าเรือเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านตันเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรายงานยังแสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้ช่องทางการเดินทางผ่านทางเรือหรือผ่านทางเครื่องบนน้ำ (ของ PAPP) เพิ่มขึ้นอย่างมากอยู่ที่ 27,600 คน เพิ่มขึ้นกว่า 29.7% ซึ่งบริษัท PPAP เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนใน CSX มีกำไรสุทธิเติบโตถึง 39%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50635864/container-traffic-at-capitals-port-up-30-pct/