10 เดือนของปีงบฯ 65-66 เมียนมาส่งออกกุ้ง พุ่ง 13,000 ตัน

กรมประมงเมียนมา เผย 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 – เดือนมกราคม 2566) เมียนมาส่งออกกุ้งมากกว่า 13,260.329 ตัน มูลค่า 47.655 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกทางทะเลจำนวน 12,268.366 ตัน มูลค่า 43.257 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งออกผ่านชายแดนจำนวน 991.963 ตัน มูลค่า 4.398 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2564-2565 พบว่า เมียนมาส่งออกกุ้งจำนวน 11,646.185 ตัน มูลค่า 51.617 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกทางทะเล 9,091.21 มูลค่า 42.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งออกผ่านชายแดน 2,554.975 ตัน มูลค่า 8.707 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ภาคการเกษตรและการประมงคิดเป็น 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเมียนมาและคิดเป็นรายได้หลักมากกว่า 68% ของประชาชนในชนบท

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-13000-tonnes-of-shrimp-to-external-markets-in-past-ten-months/#article-title

‘เพาะเลี้ยงหอยมุก’ ก้าวขึ้นแท่นอุตสาหกรรมศักยภาพของเวียดนาม

คุณ Nguyen Chu Hoi รองประธานสมาคมประมงของเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามมีแนวชายฝั่งกว่า 3,200 กม. และมีเกาะมากกว่า 150 แห่ง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแหล่งเอื้อต่อการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลา กุ้ง ปูก้ามหัก หอยเชลล์และหอยแมลงภู่

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามผ่านมติศูนย์กลางพรรคฯ ฉบับที่ 36-NQ/TW ลงวันที่ 22 ต.ค. 2561 ว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจทางทะเลเวียดนามจนถึงปี 2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 โดยการเพาะเลี้ยงหอยมุกเป็นส่วนหนึ่งของภาคประมง อีกทั้ง เมื่อพิจารณาว่าการเพาะเลี้ยงหอยมุกเป็นอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาล ตลอดจนการบริหารจัดการของภาครัฐฯ และการดำเนินนโยบาย จะช่วยให้อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงไข่มุกได้ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/farming-pearls-from-mussels-a-potential-industry-for-vietnam/222423.vnp

7 เดือนแรกของปีงบฯ 63-63 ภาคปศุสัตว์ ประมง ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศถึง 5 โครงการ

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 -ของปีงบประมาณ 2563-2564 คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) เผย ภาคปศุสัตว์และประมงดึงดูดโครงการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 5 โครงการ สร้างรายได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย ฟาร์มสัตว์ปีก สุกร ไก่เนื้อ และกุ้ง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 16 ประเทศประมาณ 926.218 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่ภาคปศุสัตว์และการประมง ในจำนวนนั้น ประเทศไทยมีการลงทุนสูงสุด โดยมีมูลค่ามากกว่า 380 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือสิงคโปร์ด้วยเงินประมาณ 130 ล้านดอลลาร์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/livestock-fisheries-attract-five-foreign-investment-projects-in-seven-months/

เวียดนามเผยภาคการประมงก้าวขึ้นเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

การประมงจะก้าวขึ้นเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในปี 2573 ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาของภาคการประมงปี 2573-2588 ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ภาคการประมงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการผลิตขนาดใหญ่ ผ่านกระบวนการเป็นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ขึ้นกับเครื่องจักรและมีความทันสมัย ตลอดจนนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในกระบวนการผลิตและการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อยกระดับผลิตภาพและสร้างเครื่องมือหมายการค้าที่มีชื่อเสียง พร้อมกับเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก อีกทั้ง ได้ตั้งกลยุทธ์การเติบโตของการผลิตในภาคการประมงเฉลี่ยที่ 3-4% ต่อปี โดยผลผลิตรวมแตะ 9.8 ล้านตัน นอกจากนี้ ภาคการประมงได้ตั้งเป้าว่าจะสร้างงานมากกว่า 3.5 ล้านคน โดยมีรายได้ต่อหัวเทียบเท่ากับระดับประเทศ

  ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fisheries-envisaged-to-become-a-vital-economic-sector/197891.vnp

เวียดนามเผยครึ่งแรกของปี 63 ผลผลิตประมงสูงถึง 3.86 ล้านตัน

กรมประมง เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ผลผลิตประมงของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยปริมาณ 3.86 ล้านตัน ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ในทิศทางเชิงลบต่อการผลิตและการส่งออก ข้อมูลข้างต้นนั้นได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ก.ค. โดยทำการตรวจสอบกิจกรรมทางการประมงและดำเนินงานที่สำคัญหลายด้านในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ ผลผลิตที่ได้จากการใช้ประโยชน์จากแหล่งประมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ด้วยปริมาณ 1.88 ล้านตัน ในขณะที่ ผลผลิตการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ด้วยปริมาณ 1.97 ล้านตัน นอกจากนี้ กรมประมงจะทำการตรวจสอบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดและจะแจ้งข้อมูลทางด้านทรัพยากรน้ำ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์จากแหล่งประมงอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/fisheries-output-reaches-386-million-tonnes-in-first-half-416124.vov

COVID-19 กระทบเล็กน้อยต่อส่งออกประมงเมียนมา

แม้ว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลไปยังประเทศจีนได้ลดลงเล็กน้อยในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำการส่งออกไปให้ทั่วโลกเพียง 4,000 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ทางทะเลประมาณ 4,000 ตันมูลค่ากว่า 3.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.3 พันล้านจัต) ถูกส่งออกไปยังประเทศจีนผ่านเส้นทางการค้าชายแดนมูเซ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 8 มีนาคม การส่งออกส่วนใหญ่เป็นปลาไพค์ ปลาฟลาวน์เดอร์ ปลาจะละเม็ดขาว ปลาคาร์พสีเหลือง ปลาปักเป้า กุ้งและปลาหมึก จุดการค้าชายแดนของชินฉ่วยฮ่อ ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ปลาไหลและปลามังกรหรือปลาไหลทะเลมีการส่งออกรวม 28.23 ตันมูลค่า 72,075 ดอลลาร์สหรัฐถูกส่งออกระหว่างวันที่ 1 ถึง 8 มีนาคม การส่งออกชายแดนของผลิตภัณฑ์ประมงเป็นไปตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากประตูชายแดนชินฉ่วยฮ่อ ปิดทำการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแต่จะเปิดใหม่ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตามการค้าผ่านประตูนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกปลาไหล จนถึงปีที่ 28 กุมภาพันธ์ของปีงบประมาณปัจจุบันการส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงเมียนมามูลค่า 415.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 361.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/fisheries-exports-not-badly-hit-agriculture-virus.html

รัฐมนตรีเร่งให้ทางจังหวัดทั่วประเทศแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานประจำ 28 จังหวัดชายทะเล เพื่อส่งเสริมในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งอาจช่วยให้ภาคการประมงเวียดนามได้ปลดใบเหลืองภายในปีนี้ หลังจากการประชุมของคณะกรรมมาธิการยุโรปครั้งที่ 3 ในช่วงกลางปีนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามคำแนะนำของฝ่ายคณะฯยุโรป ซึ่งหากทีมตรวจสอบของคณะกรรมการดังกล่าว มองว่าเวียดนามยังคงทำการประมงที่ผิดกฎหมายอยู่ในครั้งที่ 3 ปีนี้ ส่งผลให้เวียดนามไม่สามารถปลดใบเหลืองได้ และอาจได้รับใบแดง (ห้ามนำเข้า) ด้วยเหตุนี้ รัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานชายฝั่งทะเล เพื่อต่อต้านการประมงที่ผิดกฎหมายและการดำเนินกฎหมายด้านการประมงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเข้า-ออกของเรือประมง การตรวจสอบย้อนกลับสำหรับแหล่งกำเนิดสินค้า เป็นต้น โดยหลังจากการตรวจสอบ พบว่าคณะทำงานยุโรปยอมรับถึงความโปร่งใสในการทำงานและการให้ความร่วมมือมากขึ้นของเวียดนาม และในปัจจุบันเวียดนามยังคงทำตามคำแนะนำของคณะทำงานยุโรป อาทิ การติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และเผยแพร่ข้อบังคับกับเจ้าของเรือ รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ทำเครื่องหมายบนเรือ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/653114/minister-urges-provinces-to-boost-fight-against-iuu-fishing.html

จังหวัดเกียนซางมุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญ

จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัด เปิดเผยว่าในจังหวัดบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้เน้นให้เพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับความสามารถในการแข่งขันขอลผลิตสินค้าเกษตรในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวและการประมง เป็นต้น โดยในจังหวัดเกียนซาง (Kien Giang) เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวสำคัญรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งตั้งเป้าผลผลิตข้าวเปลือกอยู่ที่ 4.3 ล้านตันในปีนี้ และการประมงรวมทั้งสิ้น 755,000 ตัน รวมไปถึงปริมาณกุ้งราว 85,000 ตัน ทั้งนี้ ผลผลิตสินค้าเกษตรได้เผชิญกับปัญหาหลายด้านด้วยกัน เช่น ปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มและผลผลิตการประมงที่ลดลง ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับปัญหาดังกล่าวแต่ก็ยังอยู่ในปริมาณผลผลิตที่จังหวัดได้ตั้งเป้าไว้ในปีที่แล้ว ซึ่งทางจังหวัดได้จัดตั้งพื้นที่การเกษตรที่เข็มข้นขึ้นและส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรม รวมไปถึงความร่วมมือกับผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับมูลค่าของสินค้าเกษตร นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการสำนักงานเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าชาวประมงได้รับการส่งเสริมในการใช้เทคนิคขั้นสูงสำหรับจัดการผลิตผล เพื่อปรับปรุงคุณภาพและรักษาสายพันธุ์สัตว์น้ำ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/kien-giang-aims-to-raise-value-of-key-farming-products/167850.vnp

การทำประมงที่ผิดกฎหมายต้องกำจัดให้หมดไป : รองนายกรัฐมนตรี

รองนายกรัฐมนตรี Trinh Dinh Dung ได้ตรวจสอบการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และสั่งการหน่วยงาน/กระทรวงท้องถิ่นให้รีบเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ในจังหวัดทางตอนใต้เกียนซางเวียดนาม (Kien Giang) ณ วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในเดือนตุลาคม 2560 คณะกรรมการธิการยุโรป (EC) ประกาศให้ใบเหลือง หรือเป็นการเตือนว่าประเทศนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมง IUU ในขณะที่ เดือนกันยายนของปีนี้ มีเรือประมงที่จดทะเบียน 9,858 ลำ และได้ทำการบันทึกสถิติจับสัตว์น้ำทั้งหมด 450,593 ตัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.24 ของยอดเป้าหมายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการละเมิดการประมงที่ผิดกฎหมายอยู่ 52 ครั้ง ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทางหน่วยงานรัฐฯที่เกี่ยวข้องพยายามควบคุม/ตรวจสอบการทำประมง และจัดการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/iuu-fishing-must-be-eradicated-deputy-pm/162556.vnp