เมียนมาตั้งเป้าส่งออกข้าวโพดกว่า 2 ล้านตัน ในฤดูกาลผลิตปี 66

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งเมียนมา เผย ปี 2566 เมียนมามีผลผลิตข้าวโพดรวมทั่วประเทศ 3 ล้านตัน โดยมีเป้าส่งออกมากกว่า 2 ล้านตัน และเก็บไว้บริโภคภายในประเทศอีก 1 ล้านตัน ซึ่งตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย เวียดนาม ในปัจจุบันราคาข้าวโพดพุ่งสูงสุดถึง 1,280 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) จากความต้องการของต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตัน ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังไทย และบางส่วนส่งออกไปยัง จีน อินเดีย และเวียดนาม ปัจจุบันการปลูกข้าวโพดของเมียนมาส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น รัฐกะยา รัฐกะเหรี่ยง ภาคมัณฑะเลย์ ภาคซะไกง์ และภาคมะกเว โดยมีฤดูกาลปลูกอยู่ 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูมรสุม ส่วนผลผลิตข้าวโพดต่อปีอยู่ที่ 2.5-3 ล้านตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-sets-over-2-mln-tonnes-of-corn-export-target-this-season/#article-title

เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปไทย ลดฮวบ !

นาย U Aye Chan Aung ประธานสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดของเมียนมา กล่าวว่า การส่งออกข้าวโพดไปไทยลดลงอย่างมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะสามารถส่งออกข้าวโพดได้ 150,000 ตันต่อเดือน แต่พบว่าการส่งออกเมื่อเดือนก.ค.2565 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถึง 30%  ซึ่งเกิดจากการอ่อนค่าของเงินจัตจาก 1,850 จัตต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 2,500 จัตต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและการค้าที่ลดลงอย่างมาก เพราะเงินจัตที่อ่อนค่าจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้น อีกทั้งปัญหาขั้นตอนทางกฎหมายและกฎระเบียบที่ยุ่งยากและซับซ้อน (red tape) ในการออกใบอนุญาตส่งออกข้าวโพดมีความล่าช้า ส่งผลให้มีสต็อกข้าวโพดในตลาดในประเทศตกค้างเป็นจำนวนมาก  ปัจจุบันราคาข้าวโพดอยู่ที่ประมาณ 800-820 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในตลาดย่างกุ้ง ที่ผ่านมาไทยให้ไฟเขียวการนำเข้าข้าวโพดภายใต้ภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ (แบบ Form-D) ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. ถึง 31 ส.ค.2565 อย่างไรก็ตาม ไทยได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงสุด 73% เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดของไทย โดยในปีงบประมาณ 2563-2564  เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตันไปยังต่างประเทศ ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังไทย และบางส่วนจะถูกส่งออกไปยังจีน อินเดีย และเวียดนาม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/corn-exports-to-thailand-plummet/#article-title

เดือนพ.ค. 65 เมียนมาส่งออกข้าวโพด 254,930 ตัน สร้างรายได้กว่า 79.58 ล้านดอลลาร์ฯ เข้าประเทศ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย เดือนพ.ค.2565 เมียนมาส่งออกข้าวโพดมากกว่า 254,930 ตัน ผ่านทางทะเลและชายแดน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 79.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปฟิลิปปินส์ ไทย และบังคลาเทศ โดยส่งออกไปไทยจำนวน 215,974 ตัน และจีน 695 ตัน ผ่านการค้าชายแดน เพิ่มขึ้น 191,180 ตัน (มูลค่า 59.632 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ปีการผลิต 2564-2565 (ต.ค.2564-ก.ย.2565) สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดของเมียนมา ตั้งเป้าส่งออกข้าวโพดประมาณ 2 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-79-58-mln-worth-of-254930-tonne-corn-to-foreign-markets-in-may/#article-title

 

ยอดส่งออกข้าวโพดเมียนมาพุ่ง ดันราคาพุ่งแตะ 1,000 จัตต่อ viss

หอการค้าและอุตสาหกรรมเขตย่างกุ้ง (Bayintnaung) เผย ราคาข้าวโพดในประเทศพุ่งสถึง 1,000 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ผลมาจากความต้องการจากต่างประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินจัตที่อ่อนค่าลง ปัจจุบันราคา FOB ข้าวโพดอยู่ที่ 310-330 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ทั้งนี้ราคาอาจพุ่งไปถึง 1,010-1,030 จัตต่อ viss ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ไทยได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าระหว่างเดือนก.พ ถึงเดือนส.ค. อย่างไรก็ตามไทยกำหนดอัตราภาษีสูงสุดร้อยละ 73 สำหรับการนำเข้าเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ โดยเมียนมาตั้งเป้าส่งออก 1.5 ล้านตันไปยังไทยในปีการผลิต 2564-2565 ซึ้งปีงบประมาณ 2563-2564 ที่ผ่านมา ประเทศส่งออกข้าวโพดมากกว่า 1.7 ล้านตันไปยังไทย เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตัน ส่วนใหญ่ส่งกลับไทย ที่เหลือส่งออกไปจีน อินเดีย และเวียดนาม ปัจจุบันมีการเปลูกข้าวโพดในรัฐฉาน รัฐคะฉิ่น คะยา และกะเหรี่ยง มัณฑะเลย์ ซากาย และมาเกว โดยมีการเพาะปลูกได้ทั้ 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และมรสุม มีผลผลิตอยู่ที่ 2.5-3 ล้านตันต่อปี

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/foreign-demand-kyat-depreciation-drive-corn-price-up-to-over-k1000-per-viss/#article-title

 

ค้าชายแดนไทย-เมียนมา หยุดนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปชั่วคราว

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจำนวน 4 รายการชั่วคราวผ่านชายแดนเมียนมา – ไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 64 ได้แก่ เครื่องดื่มต่างๆ กาแฟและชาแฟสำเร็จรูป นมข้นและนมข้นจืด แต่สามารถนำเข้าผ่านทางเรือแทน ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคมถึง 2 เมษายนของปีงบประมาณ 63-64 มูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมาลดลง 370.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเมียนมามีการส่งออกสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์และการนำเข้ามูลค่ากว่า 589.7 ล้านดอลลาร์ มูลค่าการค้ารวม 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชายแดนเมียวดีมีผลการดำเนินการดีที่สุดจากจำนวนชายแดน 7 แห่ง โดยมีมูลค่าการค้า 729.46 ล้านดอลลาร์ ซึงในปีงบประมาณ 62-63 การค้าชายแดนเมียนมา- ไทยแตะระดับสูงสุดที่ 2.28 พันล้านดอลลาร์ อีกทั้งการส่งออกข้าวโพดไปยังไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากถึง 1.2 ล้านตัน ปัจจุบันมีการส่งออกประมาณ 5,000-6,000 ตันถูกส่งไปยังไทยทุกวันผ่านชายแดนเมียวดี ซึ่งเมียนมาได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ e-Form D ในการส่งออกข้าวโพดระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคมซึ่งไทยเรียกเก็บภาษีร้อยละ 73 โดยเมียนมามีเป้าหมายส่งออกข้าวโพดไปยังไทย 1 ล้านตันในปีนี้

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/food-commodities-including-instant-coffee-temporarily-banned-on-myanmar-thailand-border/

ส่งออกข้าวโพดไปไทยพุ่ง แต่นำเข้าลดลงกว่าครึ่ง

การส่งออกข้าวโพดไปยังไทยที่ด่านเมียวดีกำลังเติบโต แต่การนำเข้าจากเพื่อนบ้านในอาเซียนลดลง เมียนมาส่งออกข้าวโพดกว่า 200 คัน ไปยังไทยทุกวันผลเกิดจากการยกวันภาษีการส่งออกสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 เป็นต้นไป การนำเข้าสินค้าของไทยจึงลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ความไม่สงบทางการเมืองและการปิดทำการของธนาคารสร้างความเสียหายอย่างมากต่อการค้าของเมียนมา ก่อนหน้านี้ด่านการค้าชายแดนมีรถบรรทุกประมาณ 50 คันขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ถั่วดิน พริก หัวหอม ปลาและกุ้ง ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นโดยมีรถบรรทุกประมาณ 200 ถึง 300 คันที่ขนส่งข้าวโพดมายังไทยทุกวัน มีการประท้วงอย่างต่อเนื่องและการปิดธนาคาร ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน การสั่งซื้อสินค้า อีกทั้งไม่สามารถเสียภาษีได้และปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก่อนหน้ามีรถบรรทุกจากไทยประมาณ 400 คันเข้าเมียนมาทุกวัน ตอนนี้มีเหลือเพียง 150 คันเท่านั้น

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmars-corn-exports-rise-thai-imports-more-halved.html

COVID-19 กระทบส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปยังไทย

ปีงบประมาณนี้ การส่งออกข้าวโพดของเมียนมาไปยังไทยอาจลดลงเนื่องจากการระบาดของโควิด -19 ตลาดจะหดตัวในปีหน้าความล่าช้าอาจเกิดขึ้นได้ในการขนส่งจากเมียวดีไปยังไทยในช่วงที่โควิด -19 ระบาด แนวทางการป้องกัน COVID-19 ผู้ขับรถบรรทุกต้องได้รับการกักกัน 14 วัน ดังนั้นจึงมีคนขับน้อยซึ่งทำให้ไม่เพียงพอ ทั้งยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการเมืองของไทย เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนถูกระงับตั้งแต่ปี 61 ผลผลิตข้าวโพดถูกส่งออกไปไทยมากกว่าหนึ่งล้านตันเพิ่มขึ้นจาก 700,000 ตันในปีก่อนหน้า

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-maize-exports-thailand-take-hit-due-covid-19.html

ไทยเป็นตลาดส่งออกข้าวโพดเบอร์ต้น ๆ ของเมียนมา

นาย U Myo Thu รองอธิบดีองค์การส่งเสริมการค้าเมียนมาเผยปัจจุบันไทยเป็นนำเข้าข้าวโพดจากเมียนมาเป็นอันดับต้น ๆ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเก็บเกี่ยวถูกส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ข้าวโพดที่ใช้ในอุตสาหกรรมหรืออาหารสัตว์เป็นที่ต้องการสูงในไทย จากการส่งออกไปยังจีนถูกระงับตั้งแต่ปี 61 ผลผลิตข้าวโพดส่วนใหญ่จึงถูกส่งออกไปยังไทย ซึ่งในปีงบประมาณ 62 – 63 มีการนำเข้ามากกว่ามากกว่าหนึ่งล้านตันเพิ่มขึ้นจาก 700,000 ตันในปีก่อนหน้า การส่งออกข้าวโพดเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายปีในปีงบประมาณ 62 – 63 การส่งออกข้าวโพดต่อปีอยู่ที่ 2.5 ล้านตันเมื่อเทียบกับ 1.5 ล้านตันในปีก่อนหน้า ปัจจุบันเมียนมามีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 1.5 ล้านเอเคอร์

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/thailand-becomes-top-corn-export-market-myanmar.html

ส่งออกข้าวโพดไปไทยหยุดชะงัก

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 63 เมียนมาหยุดการส่งออกข้าวโพดจากชายแดนเมียวดี  เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 63 โดยได้รับการยกเว้นภาษีเป็นไปตามข้อกำหนดข้าวโพดของไทย แต่เวลานี้ตรงกับเวลาที่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดในไทย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยจึงเพิ่มภาษีการส่งออกข้าวโพดของเมียนมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/corn-export-to-thailand-halts

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผยการส่งออกข้าวโพดมีแนวโน้มดีขึ้น

ในขณะที่ความต้องการของต่างประเทศในนำสินค้าอุปโภคของเมียนมาบางส่วนในปีนี้ลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 แต่การส่งออกพืชผลหลายชนิดยังคงเพิ่มขึ้นและบางส่วนก็ดูมีแนวโน้มดี กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกข้าวโพดเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายปีในปีงบประมาณปัจจุบันและแนวโน้มการเติบโตดูสดใส การส่งออกในปีนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านตันเทียบกับ 1.5 ล้านตันในปีที่แล้ว โดยปกติแล้วข้าวโพดจะส่งออกไปยังจีน แต่ความต้องการจากไทยเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ 2562-2563 กว่าร้อยละ 60 ของการส่งออกข้าวโพดในปีนี้ผ่านชายแดนท่าขี้เหล็กและเมียวดี ความต้องการจากประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน  ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากำลังเชื่อมโยงเกษตรกรกับธนาคารเพื่อหาทุนในการปลูก ส่วนพืชอื่น ๆ ของที่มีความต้องการในต่างประเทศมากคืออะโวคาโด ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากสิงคโปร์และจีน โดยอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) เป็นอะโวคาโดที่ปลูกกันมากที่สุดในโลก ซึ่งมักจะพบทางตอนใต้ของรัฐฉาน และถือว่าอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) มีสัดส่วนร้อยละ 80 ของอะโวคาโดที่บริโภคกันทั่วโลก การปลูกอะโวคาโดในปีนี้ประสบความสำเร็จและล่าสุดจีนเสนอให้นำเข้า 500 ตันต่อปี และสิงคโปร์ 15 ตันต่อสัปดาห์เช่นกัน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/commerce-ministry-myanmar-says-corn-exports-very-promising.html