สงครามอิสราเอล-กราดยิงพารากอน ททท. ชี้ 2 ความเสี่ยงท่องเที่ยวไทยปลายปี 66

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนัก ท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย (ณ ต้นเดือนตุลาคม ปี 2566) แตะ 20 ล้านคน คาดการณ์ว่าเป้าหมายที่วางไว้ 25-28 ล้านคน มีความเป็นไปได้ เนื่องจาก เดือนตุลาคม-ธันวาคม ปี 2566 แนวโน้มนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มตลาดระยะไกล หรือลองฮอลล์ (จากยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา) ที่ยังมีบุ๊กกิ้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตลาดระยะใกล้ หรือ ช็อตฮอลล์ ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายของไทยก็เติบโต ทั้งเกาหลีใต้ มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย ทำให้เป้าหมายที่วางไว้ 25 ล้านคน น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ดี ช่วงไฮซีซั่นภาคการท่องเที่ยว คือ ช่วงปลายปี 2566 ทว่าไทยพบความเสี่ยง 2 ประการ ได้แก่ กราดยิงสยามพารากอน และซ้ำเติมด้วยปัญหาสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเบื้องต้นเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอนคาดว่าจะกระทบไทยในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน สะท้อนจากตัวเลขการจองไฟลท์บินจากจีนมาไทยลดลง ขณะที่สงครามอิสราเอล-ฮามาส ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรงในแง่ความรู้สึกของนักท่องเที่ยว จนทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความลังเลในการเดินทาง เพื่อรอดูสถานการณ์ แต่ยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวอิสราเอลปัจจุบันเดินทางเข้าไทยประมาณ 170,000-180,000 คน โดยประเมินว่าสิ้นปี 2566 จะเข้ามาเยือนถึง 200,000 คน เนื่องจากเที่ยวบินระหว่างกรุงเทลอาวีฟ ไปภูเก็ตและกรุงเทพ ยังไม่มีการยกเลิก

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/66705/

“ททท.” เร่งบูสต์ตัวเลขนักท่องเที่ยว ตั้งเป้าไตรมาส 4 เดือนละ 1 ล้านคน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-มีนาคม) ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 444,039 คน สร้างรายได้รวม 34,173 ล้านบาท โดยตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ยุโรป 265,888 คน สร้างรายได้ 21,894 ล้านบาท รองลงมาคือ เอเชียตะวันออก 85,362 คน สร้างรายได้ 4,674 ล้านคน อาเซียน 45,471 คน สร้างรายได้ 2,139 ล้านบาท เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ 39,891 คน สร้างรายได้ 2,535 ล้านบาท และอเมริกา 33,875 คน สร้างรายได้ 2,691 ล้านบาท และประเมินว่าจากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศด้วยการยกเลิก Test & Go 1 พฤษภาคม 2565 รอบนี้จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดย ททท.ตั้งเป้าว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2565 จะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศไทยไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน และตั้งเป้าว่าในช่วงไตรมาส 4 หรือในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มเป็นเดือนละ 1 ล้านคน ซึ่ง ททท.จะเร่งทำการตลาดโดยเร่งด่วนทั้งตลาดระยะใกล้และตลาดระยะไกล

ที่มา : https://www.prachachat.net/tourism/news-922701

ททท.จับมืออาเซียนต้า จัดประชุมสมาชิก เตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพ ในการขายท่องเที่ยวไทย หลังโควิดคลี่คลาย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยกองตลาดอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ร่วมกับ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ สมาคมท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Association : ASEANTA) จัดประชุมให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ได้เตรียมความพร้อมหลังสถานการณ์ COVID-19 และเพิ่มขีดความสามารถในการที่จะทำการตลาดท่องเที่ยว กับกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดในภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับเครือข่าย ในการส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวสู่ประเทศไทย เมื่อมีการเปิดการเดินทางได้ตามปกติ โดยได้มีการอัพเดทสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคภาคเหนือ และนำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการ ASEANTA จำนวน 60 คน ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ได้รับทราบ พร้อมกิจกรรม Workshop กับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาระดมความคิดเห็น และแนวคิดในการจัดทำ Product หรือเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อรองรับการท่องเที่ยวแบบ New Normal ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างประเทศ ททท. จึงได้จัดทำ Platform Online Thailand Tourism Virtual Market (TTVM) ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและการตลาดดิจิตัล ในรูปแบบ B2B (Business to Business) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำตลาด

ที่มา : https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1612282/

ททท.วางแผนรองรับนักท่องเที่ยว หลังการระบาด COVID-19

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เตรียมรับการคลายล็อกดาวน์ประเทศ จากสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ไว้ 3 ระดับ และหากทุกอย่างเปิดหมดต้องเตรียมตัวรับมือกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปททท.มองว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่พร้อมออกเดินทางหลังการระบาดคลี่คลาย คือกลุ่มเจเนอเรชั่น Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบคิดนอกกรอบ ชอบนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจึงต้องปรับตัวให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนบริการของตัวเองให้สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพื่อรองรับกระแสการเดินทางที่กำลังจะเกิดขึ้นนอกจากนี้ยังประเมินว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คือการเปลี่ยนแปลงภายใต้ New Normal การท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ ความสะอาด และความปลอดภัยมากขึ้น และไม่สามารถคาดหวังนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ เช่น กรุ๊ปทัวร์ได้แล้ว แต่หลังจากนี้ไปการเดินทางท่องเที่ยวจะเปลี่ยนมาเป็นกรุ๊ปขนาดเล็กมากขึ้น หรือเดินทางด้วยตัวเอง และรูปแบบการท่องเที่ยวจะเป็นระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อรวมทั้งเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะหันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ส่วนคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปีนี้ (63) น่าจะอยู่ที่ 14-16 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยคาดอยู่ที่ 80-100 ล้านครั้ง

ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/292423