ทางการกัมพูชาพร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในจังหวัดกำปงธม

รัฐบาลกัมพูชากำลังเร่งวางแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในจังหวัดกำปงธม โดยเฉพาะสะพานทอดข้ามแม่น้ำโขงเพื่อเชื่อมต่อไปยังจังหวัดกระแจะ รวมถึงถนนและทางด่วนที่ทอดยาวไปจนถึงอำเภอกำปงเหลียงซึ่งตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดกำปงฉนัง และทางรถไฟสายใหม่จากปอยเปตไปยังบาเวต เพื่อเป็นการเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างเวียดนาม ซึ่งจะช่วยปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางด้านการค้า การท่องเที่ยว และการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น กล่าวโดย Sun Chanthol รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง โดยรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมต่อการทำงานของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในการให้การสนับสนุนทางด้านเงินกู้ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501314607/major-infra-boosts-for-kampong-thom/

‘นายกฯไทย-ลาว’ วางศิลาฤกษ์สร้างสะพานมิตรภาพบึงกาฬ-บอลิคำไซ คาดเปิดปี 67

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พร้อมด้วยนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม คณะผู้บริหาร กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง (ทล.) และกรมขัวทาง กระทรวงโยธาธิการและขนส่งร่วมงาน ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ทั้ง 4 มิติ ได้แก่ บก ราง น้ำ และอากาศ ให้เชื่อมโยงการเดินทางสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยระบบการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สำหรับโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) วงเงินก่อสร้าง 3.65 พันล้านบาท ที่ร่วมลงทุนโดยรัฐบาลไทย 2.50 พันล้านบาท และรัฐบาล สปป.ลาว 1.15 พันล้านบาท แบ่งความรับผิดชอบการก่อสร้างจากกึ่งกลางสะพาน ปัจจุบันมีความคืบหน้าในภาพรวมทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวอยู่ที่ 57% (ณ เดือนกันยายน 2565)

ที่มา : https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_621791

ธนาคารโลกสนับสนุนเงินทุนในการปรับปรุงถนนแก่กัมพูชา

กระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกัมพูชาได้เริ่มก่อสร้างและปรับปรุงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (NR4) ภายใต้เงินทุน 110 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของการจราจรในปัจจุบัน ซึ่งการก่อสร้างและปรับปรุงถนนสาย NR4 เริ่มต้นจากชุมชน Bek Chan อำเภอ Ang Snuol จังหวัดกันดาล ไปจนถึงชุมชน Bit Trang อำเภอ Prey Nup จังหวัดพระสีหนุ โดยโครงการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2021 และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2026  ซึ่งกระทรวงกล่าวว่าโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนนสาย NR4 จะทำการขยายถนนจากความกว้าง 7 เมตร ในปัจจุบัน เป็น 10 เมตร รวมถึงการปรับปรุงสะพานและท่อระบายน้ำคอนกรีตอีก 46 แห่ง และก่อสร้างสะพานใหม่ 8 แห่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะลดความแออัดของการจราจร ไปจนถึงแก้ปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/1033275/110-million-from-world-bank-to-improve-national-road-number-four-to-sihanoukville/

สะพานบ่อแก้ว-ไซยะบุรี แล้วสำเร็จไปแล้วกว่า 66 เปอร์เซ็นต์

สะพานคนทึน-ห้วยแก้ว ซึ่งทอดข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมจังหวัดบ่อแก้วและไซยะบุรี เสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า 66 % การก่อสร้างโครงการเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลลาวเป็นมูลค่ากว่า 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 36 เดือน หลังจากสร้างแล้วเสร็จ สะพานจะมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคโดยการเพิ่มการไหลเวียนของผลิตภัณฑ์ ให้ทางลัดสำหรับยานพาหนะที่วิ่งผ่านพื้นที่ และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างลาวและไทยทั้งนี้ยังเป็นไปแผนยุทธศาสตร์ชาติที่จะนำพาสปป.ลาวสู่ประเทศที่เชื่อมต่อการขนส่งระดับภูมิภาค เป็นการส่งเสริมขนส่งในประเทศและการเชื่อมต่อการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/09/21/bokeo-xayaboury-bridge-now-over-66-percent-completed/

สะพานข้ามแม่น้ำบ่อแก้ว-ไซยะบุรีเชื่อมต่อประเทศไทย แล้วเสร็จไปแล้วกว่า 65 เปอร์เซ็นต์

สะพานยาว 505 เมตรที่ทอดข้ามแม่น้ำโขงระหว่างอำเภอปากทาในจังหวัดบ่อแก้วและอำเภอคอบในจังหวัดไซยะบุรีซึ่งให้การเชื่อมโยงที่ง่ายกว่ากับประเทศไทย ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วกว่าร้อยละ 65 มูลค่าก่อสร้างกว่า 180 พันล้านกีบ โดยโครงการได้รับทุนจากรัฐบาล สะพานนี้จะเชื่อมโยงได้ง่ายขึ้นจากถนนแห่งชาติหมายเลข 2243 ในอำเภอปากทา จังหวัดบ่อแก้ว ไปยังอำเภอคอบ จังหวัดไซบูรี และต่อไปยังประเทศไทย โดยจะเป็นช่องทางลัดสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่เดินทางผ่านพื้นที่และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างสปป.ลาวและไทย สะพานจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคโดยรวมจากการปรับปรุงการไหลของสินค้า เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นสะพานเหล็กที่ยาวที่สุดในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Bokeo146.php

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทย

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทยข้ามแม่น้ำโขงได้เริ่มขึ้นหลังจากมีการลงนามในข้อตกลงในเดือนธ.ค. จะใช้เวลาสร้าง 36 เดือนจะเชื่อมแขวงบอลิคำไซในสปป.ลาวกับจังหวัดบึงกาฬของไทย ขณะนี้งานมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณที่จะสร้างสะพานและสถานที่ตรวจคนเข้าเมือง กำลังเคลียร์ที่ดินบนพื้นที่ 50 เฮกเตอร์ก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างและตอนนี้งานนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 80% ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 130.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสปป.ลาวจะต้องรับผิดชอบบางส่วน 46.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนการก่อสร้างของสปป.ลาวจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านของไทยผ่านการจัดหาเงินกู้ เมื่อสะพานสร้างเสร็จในปี 66 จะช่วยให้แขวงบอลิคำไซกลายเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอีกแห่งและเป็นเส้นทางขนส่งสำหรับสปป.ลาว ไทยและเวียดนามในระยะทางเพียง 150 กม. สะพานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ระหว่างสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนามและไทย จะทำให้สปป.ลาวได้รับประโยชน์จากบริการขนส่งสาธารณะรวมทั้งดึงดูดการค้าและการลงทุนมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยว แต่ทางการจำเป็นต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมและปรับปรุงบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มาเยือน

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/construction-of-fifth-lao-thai-bridge-begins

เมียนมามีแผนสร้างสะพานในอิระวดี-รัฐฉาน

จากข้อมูลของกระทรวงการก่อสร้าง สะพานปะเต็ง 2 (Pathein 2) ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับถนน Mahabandoola ของเมืองปะเต็ง กับฝั่งตะวันตกของแม่น้ำงะวูน (Ngawun) ในเขตอิรวดีจะเปิดให้สัญจรใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2563 สะพานถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการจราจรที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการขยายที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม รถโดยสารจะสามารถใช้สะพานได้ระหว่างเวลา 05.00 น. ถึง 19.00 น. ก่อนการเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า สะพานมีความยาว 725 เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ขณะนี้กระทรวงการก่อสร้างกำลังขออนุมัติเพื่อสร้างสะพานแห่งใหม่ในเมือง Thanlwin ชองรัฐฉานโดยใช้เงินกู้ 8.4 ล้านยูโรจากออสเตรีย Thanlwin Bridge ปัจจุบันเชื่อมระหว่างเมียนมาตอนกลางกับรัฐฉานถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2542 ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ครั้งละ 16 ตันเท่านั้นเมื่อเทียบกับความจุเดิมที่ 30 ตัน ดังนั้นต้องย้ายสินค้าจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปยังรถขนาดเล็กเพื่อให้สินค้าผ่านได้ต้องใช้เวลานานเกินและไม่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ สะพานสายใหม่มีความยาว 870 ฟุตและรับน้ำหนักได้สูงสุด 60 ตัน เงินกู้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากธนาคาร Uni Credit ของออสเตรียจะปลอดดอกเบี้ยและมีกำหนดชำระคืนภายใน 28.5 ปี ซึ่งรวมระยะเวลาผ่อนผัน 14 ปี

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/new-bridge-infrastructure-planned-ayeyarwady-shan.html