สะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 5 คืบหน้า 80% คาดเปิดใช้ปีหน้า

งานก่อสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทย ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 คืบหน้าแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้งานได้ภายในปีหน้า โดยงานก่อสร้างที่เหลือบนสะพานซึ่งเชื่อมโยงจังหวัดบึงกาฬของไทยกับแขวงคำม่วนทางตอนกลางของ สปป.ลาว จะเสร็จสิ้นในปี 2567 บางกอกโพสต์อ้างคำพูดของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย มานะพร เจริญศรี สะพานแห่งใหม่นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า ผู้คน และบริการ และเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทย ลาว และเวียดนาม จากพันล้านบาทเป็นหมื่นล้านบาท สะพานนี้รวมถึงถนนทางเข้ามีระยะทาง 16.18 กิโลเมตร โดย 12.13 กม. เป็นของประเทศไทยและส่วนที่เหลือเป็นของประเทศลาว โดยสะพานนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคมนาคมใหม่ผ่านจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสกลนคร เมื่อสะพานเปิดใช้ ยานพาหนะจำนวนมากจะใช้เส้นทางนี้ ดังนั้น แนวทางถนนสายเดี่ยวที่มีอยู่จะต้องได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนเป็นทางคู่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_233_5th_y23.php

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชยศาสตร์อนุญาตให้มีบริการส่งน้ำมันฟรี

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชยศาสตร์อนุญาตให้บริษัท เอ็นทีพี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการจัดส่งเชื้อเพลิงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีที่สุดและลดต้นทุนการเดินทาง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์ นายจินดาศักดิ์ โฆษะมันคง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็นทีพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการส่งน้ำมันจะเริ่มในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนประหยัดเวลาและเงินในการเดินทาง อีกทั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ทำให้บริการดังกล่าวจะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างคลังสินค้าในจังหวัดสะหวันนะเขตเพื่อเก็บเชื้อเพลิง 3.5 ล้านลิตร โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดหาเชื้อเพลิงให้กับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอื่นๆ เช่น การรถไฟลาว-จีน และสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 5

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_NTP_27_22.php

สะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 5 สำเร็จไปแล้วกว่า 14 %

การก่อสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทยแห่งที่ 5 เชื่อมจังหวัดบริคัมไซกับจังหวัดบึงกาฬในประเทศไทยข้ามแม่น้ำโขงคีบหน้า 14 % ของการก่อสร้างทั้งหมด เมื่อแล้วเสร็จคาดว่าสะพานจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและเส้นทางคมนาคมระดับภูมิภาคอีกแห่งสำหรับสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้าน โครงการดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย (สพพ.) ให้เงินกู้แก่รัฐบาลสปป.ลาว 1.38 พันล้านบาท นายเลทอง พรมวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการกล่วว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการก่อสร้างถนนและสะพานที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อไม่ให้ลาวถูกมองว่าไม่มีทางออกสู่ทะเลอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นประเทศศูนย์กลางโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาค ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Road177.php