ทางการ สปป.ลาว รายงานสถานการณ์ชายฝั่งน้ำโขงใกล้ถึงจุดอันตราย

ระดับแม่น้ำโขงจะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเข้าใกล้ระดับอันตราย หลังจากฝนตกหนักเป็นระยะเวลาหลายวัน จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา รายงานว่าระดับน้ำโขง ณ จุดกิโลเมตรที่ 4 ในเวียงจันทน์บันทึกไว้ที่ 8.85 เมตร ในวันที่ 8 ส.ค. โดยคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.86 เมตร ในวันที่ 9 ส.ค. และเพิ่มขึ้นเป็น 11.92 เมตร ในวันที่ 11 ส.ค. ซึ่งถึงจุดที่สูงกว่าระดับในการเตือนภัยที่ 11.50 เมตร และใกล้ระดับอันตรายที่กำหนดไว้ที่ 12.50 เมตร ขณะเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา บางพื้นที่น้ำได้ล้นตลิ่งและค่อยๆ ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนในหมู่บ้านสีทันเตย์ของแขวงหาดไซฟองในเวียงจันทน์ ส่งผลทำให้หลายครัวเรือนได้รับผลกระทบ โดยทางการกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหลังมีการพยากรณ์ฝนตกหนักทั่วประเทศในช่วงวันที่ 9-15 ส.ค. พร้อมกับให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากน้ำท่วมควบคู่ไปกับการดูแลของทางภาครัฐฯ-เอกชน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Mekong154.php

รัฐบาลท้องถิ่น สปป.ลาว เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

หลายร้อยหมู่บ้านในหลายจังหวัดในภาคกลางและภาคใต้ของ สปป.ลาว กำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมหลังจากฝนตกหนักมาในช่วงหลายวัน ส่งผลทำให้ฟาร์มจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ และประชาชนหลายพันคนในพื้นที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ บอลิคำไซ คำม่วน และสะหวันนะเขต ได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนัก ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นและพันธมิตรอื่นๆ กำลังเร่งดำเนินการอย่างหนักเพื่อให้ทันต่อการตอบสนองสถานการณ์เร่งด่วน โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังหน่วยงานแรงงานและสวัสดิการสังคมในเขตพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมในการแก้ไขเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพิ่มเติม พร้อมกันนี้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจะประสานงานกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยต่อไปเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ด้านกระทรวงและคณะกรรมการป้องกันและควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งทำงานร่วมกับภาคีการพัฒนาได้ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคมูลค่ารวมกว่า 573.93 ล้านกีบ ในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในแขวงบอลิคำไซ คำม่วน และแขวงสะหวันนะเขต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_152_Local_y23.php

CRF คาดสถานการณ์น้ำท่วม ไม่กระทบกับผลผลิตข้าวในกัมพูชา

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) คาดการณ์ถึงสถานการณ์การผลิตข้าวในกัมพูชา หลังประสบกับปัญหาทางด้านอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่เพาะปลูกข้าวไปแล้ว 200,000 เฮกตาร์ โดยในปัจจุบันกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งหมดอยู่ที่ 2.5 ล้านเฮกตาร์ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 8 ของพื้นที่เพาะปลูก แต่ถึงอย่างไรทางสมาพันธ์ข้าวกัมพูชายังคงมองว่าผลกระทบยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบจากน้ำท่วมจะคลี่คลายในอีกไม่ช้า ในขณะที่ภาครัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านความร่วมมือกับ CRF ในการขยายตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร่งสนับสนุนตลาดที่มีอยู่อย่างจีนและสหภาพยุโรป ที่มีความต้องการข้าวของกัมพูชาสูง ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้วกว่า 449,325 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามรายงานของ CRF สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 287 ล้านดอลลาร์ โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งได้ทำการนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชาปริมาณกว่า 198,107 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 44.09 ของยอดการส่งออกข้าวทั้งหมดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501171338/rice-output-forecasts-unchanged-despite-floods-says-crf/

ชาวสปป.ลาว หลายพันคนได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วมฉับพลัน

ประชาชนนับพันคนในจังหวัดภาคเหนือของสปป.ลาว (อุดมไซ บ่อแก้ว หัวพัน พงษ์สาลี) ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยจังหวัดอุดมไซ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ถนนถูกน้ำท่วมและเข้าไม่ได้ บ้านเรือนเสียหาย และไฟฟ้ารวมถึงน้ำประปาถูกตัดขาด ทำให้ประชาชนผู้คนต้องการเสื้อผ้า อาหาร และน้ำดื่มอย่างเร่งด่วน แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้เนื่องจากถนนถูกตัดขาด จึงต้องใช้เรือในการอพยพประชาชนออกมา ในขณะเดียวกัน 97 ครัวเรือนในจังหวัดพงสาลีต้องไร้ที่อยู่ ประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 5.6 พันล้านกีบ (ประมาณ 363,000 ดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ อำเภอหินหุบในเวียงจันทน์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหลังจากแม่น้ำล้นตลิ่งฉับพลัน ส่วนจังหวัดหัวพันกำลังเตรียมสถานที่เพื่อรองรับให้กับประชาชนที่ไร้ที่อยู่

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/palm-oil-wholesale-reference-price-rebounds-to-nearly-k5000-per-viss/

เยอรมนีสนับสนุนทุน 114 พันล้านกีบในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางใต้ของสปป.ลาว

กรมโยธาธิการและขนส่งจังหวัดอัตตะปือมอบสัญญา 3 ฉบับสำหรับการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วมภายใต้โครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของสปป.ลาวใต้ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีผ่าน KfW Development Bank โดยให้ทุนประมาณ 114 พันล้านกีบ (มากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค วัตถุประสงค์ของโครงการคือ“ ให้ประชากรในชนบทที่ประสบอุทกภัยสามารถเข้าถึงตลาด โรงเรียน สถานีอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกอย่างยั่งยืนของประชากรในชนบท” ผลกระทบจากการพัฒนาระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าจะส่งผลให้การผลิตสินค้าเกษตรและร้านค้าปลีกที่มุ่งเน้นตลาดเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของความพร้อมของไฟฟ้าในพื้นที่เป้าหมายอีกด้วย โครงการคาดการณ์จะก่อสร้างแล้วเสร็จใน 18 เดือนสำหรับแต่ละสัญญา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_234.php

สปป.ลาวพยายามสร้างชีวิตของผู้ประสบอุทกภัยท่ามกลางข้อจำกัดด้านงบประมาณ

รัฐบาลประเมินว่าจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 3 ล้านล้านกีบในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมและเพื่อฟื้นฟูชุมชนที่ถูกน้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ ผลกระทบของภัยพิบัติเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับสปป.ลาวในการทำงานเพื่อขจัดความยากจนโดยที่หลายครอบครัวขาดที่อยู่อาศัยเนื่องจากน้ำท่วม โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนในการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายและการให้บริการแก่ผู้ประสบอุทกภัยเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ รัฐบาลให้การสนับสนุนทางการเงินอย่างจำกัด แต่ไม่เพียงพอสำหรับทุกกรณี น้ำท่วมได้ทำลายบ่อเลี้ยงปลาและระบบชลประทานที่เสียหายรวมถึงพื้นที่เพาะปลูก โรงเรียน สายไฟฟ้า โรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ จากรายงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพบว่าประชาชนประมาณ 765,000 คนใน 44 อำเภอใน 6 จังหวัดทางภาคใต้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นเดือนก.ย. และประชาชนเกือบ 195,000 คนต้องพลัดถิ่น

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-attempts-rebuild-flood-victims%E2%80%99-lives-amid-budget-constraints-107776