กระแสน้ำกระทบราคาสินค้าประมงเมียนมาผันผวน

ราคาสินค้าประมงในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมักมีความผันผวน เช่น ราคาค่อนข้างถูกในช่วงน้ำหลากหรือน้ำท่วม และจะเพิ่มขึ้นในช่วงน้ำลง ซึ่งเป็นช่วงที่กุ้งและปลาจับมีให้จับค่อนข้างน้อย สินค้าประมงที่จับได้จะถูกส่งไปศูนย์ค้าส่งในย่างกุ้ง ซึ่งในช่วงน้ำท่วม ราคากุ้งหนึ่งตัวจะอยู่ประมาณ 5,000-6,000 จัต ในขณะที่ช่วงที่น้ำขึ้นน้ำลงราคาจะอยู่ประมาณ 9,000-10,000 จัต ทั้งนี้ราคาสินค้าประมงที่ลดลงทำให้ราคาไก่ในตลาดลดลงด้วย เนื่องจากราคาสินค้าประมงขึ้นอยู่กับน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้ประชาชนต้องซื้อกักตุนไว้บริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fishery-product-prices-fluctuate-based-on-flood-tide-and-neap-tide/#article-title

สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเป็นผู้นำขีดความสามารถในการแข่งขันรายจังหวัด

รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) แถลงรายงานตัวชี้วัดขีดความสามารถในการแข่งขันรายจังหวัด (PCI) เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พบว่าจังหวัดที่อยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (Mekong Delta) เป็นภูมิภาคชั้นนำทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีการประเมินว่าภูมิภาคดังกล่าวมีความพยายามในการพัฒนาหรือส่งเสริมคุณภาพทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2558-2562 ดัชนีจังหวัด PIC ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 คิดเป็น 5.95 คะแนน จาก 59 คะแนนในปี 2558 จนถึงปี 2561 อยู่ที่ 64.99 คะแนน ทั้งนี้ ในกลุ่ม 20 จังหวัดและเมืองที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด พบว่าบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง มี 5 จังหวัดที่ติดอันดับ ได้แก่ ดงทับ, วินห์ลอง, เบ็นเต๋, ลองอันและแคนโถ เป็นต้น นอกจากนี้ ในบริเวณณพื้นที่ดังกล่าวมีขนาดยุ้งฉางข้าวใหญ่ที่สุดในประเทศ ประกอบไปด้วย 12 จังหวัดและอีก 1 เมืองศูนย์กลางภูมิภาค

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/mekong-delta-leads-in-provincial-competitive-index/174954.vnp

พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเวียดนาม คาดว่าการผลิตเพิ่มมากกว่า 150,000 ตัน ในช่วงฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง

จากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาขนบท (MARD) เปิดเผยในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง คาดว่าปริมาณข้าวเปลือกจะอยู่ที่มากกว่า 150,000 ตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้ดำเนินเก็บเกี่ยวผลผลิตมาแล้ว 2 ใน 3 ของพื้นที่ กว่า 1.57 ล้านเฮกตาร์ของปริมาณข้าว คิดเป็นผลผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 100 กก. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในฤดูนี้จะช่วยผลผลิตที่ลดลงจากฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงในปีที่แล้ว ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับภัยแล้งและการขยายตัวของน้ำเค็ม ในขณะที่ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อุปสงค์ของประเทศคู่ค้านำเข้าลดลง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าว เป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญของเวียดนาม ที่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า 150 ประเทศ รวมไปถึงประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน เป็นต้น  

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/mekong-delta-expects-150000-more-tonnes-from-summerautumn-rice-crop/158397.vnp