เมียนมามีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรมากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 10 เดือน

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ณ วันที่ 26 มกราคม 2567 รายงานว่า การส่งออกสินค้าเกษตรสร้างรายได้มากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2567 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวลดลง 321 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรายได้การส่งออกช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกทางการเกษตรขั้นต้น ได้แก่ ข้าว ข้าวหัก ถั่วและถั่ว และข้าวโพด นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกผลไม้ ผัก งา ใบชาแห้ง น้ำตาล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ ซึ่งผู้ซื้อผลผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ของเมียนมาร์ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/agricultural-exports-earn-over-us2-6-bln-in-10-months/#article-title

MyRO ได้รับการลงทะเบียนโรงเก็บข้าว 193 แห่ง

ตามข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ขณะนี้ โกดังเก็บข้าว 193 แห่งได้รับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มการลงทะเบียนออนไลน์ของ Myanmar Rice Online (MyRO) ทั้งนี้ MRF ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการคลังสินค้าและผู้ค้าส่งลงทะเบียนบน MyRO ที่ www.myro.com.mm การลงทะเบียนนี้จำเป็นสำหรับการจัดซื้อข้าวเปลือกมากกว่า 5,000 ตะกร้า หรือข้าวมากกว่า 50 ตัน เป้าหมายคือเพื่อให้มั่นใจว่าราคาข้าวมีเสถียรภาพ สร้างแนวทางการส่งออกข้าวอย่างเป็นระบบ ชี้นำตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการปั่นราคา รักษาสต๊อกข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าส่งอย่างเป็นระบบ และพัฒนาระบบการเงินคลังสินค้า อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 คลังสินค้า 193 แห่งในย่างกุ้ง อิรวดี พะโค มัณฑะเลย์ และสะกาย รัฐยะไข่ และเขตสภาเนปิดอว์ ได้รับการจดทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มกราคม กรมกิจการผู้บริโภคได้แจ้งให้ MRF สมาคมในเครือ สมาคมย่อยระดับภูมิภาค รัฐ เขต และเมือง ตลอดจนคณะกรรมการและคลังที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเรื่องการลงทะเบียนโดยทันที บริษัทและผู้ประกอบการรายบุคคลควรลงทะเบียนกับ MyRO ตามระเบียบข้อบังคับด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myro-receives-registration-of-193-rice-storage-facilities/#article-title

การส่งออกของเมียนมาเกิน 234 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ท่ามกลางความต้องการผลไม้ที่สูงในช่วงตรุษจีน

ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ เมียนมามีรายได้มากกว่า 234 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมถึง 5 มกราคมของปีงบประมาณ 2566-2567 เนื่องจากความต้องการผลไม้ของจีนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ดังกล่าวเมื่อใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ รายงานระบุว่าประเทศเมียนมาส่งออกผลิตผลทางการเกษตรสำคัญ เช่น ข้าวโพด ถั่วลันเตา ถั่วลูกไก่ ถั่วเนย ถั่วลิสง งา หัวหอม ขิงแห้ง ขมิ้น แตงโม อะโวคาโด ส้ม กล้วยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และกล้วย รวมถึงในช่วงสัปดาห์นี้ ยังมีการส่งออกแตงโม แตงไทย (แตงกวา) และกล้วยจำนวน 35,000 ตันไปยังประเทศจีนผ่านทางด่านการค้าชายแดนเมืองเชียงตุง เมืองลเวเจ และกัมปะติ นอกจากนี้ ส้ม อะโวคาโด และกล้วยยังถูกส่งออกไปยังประเทศไทยผ่านทางด่านการค้าชายแดนท่าขี้เหล็ก และมอต่องอีกด้วย ตามรายงานดังกล่าว คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกผลไม้ อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ใกล้เข้ามา เมียนมาจะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับการส่งออกข้าวโพดไปยังประเทศไทย ซึ่งคาดว่าการขนส่งข้าวโพดจะเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปเมียนมาส่งออกเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดมากถึง 2.6 ล้านตัน ดังนั้นผู้ค้าข้าวโพดจึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายตลาดส่งออกข้าวโพด รวมถึงประเทศไทย (ผู้ซื้อข้าวโพดเมียนมารรายใหญ่) และประเทศอื่น ๆ ที่มีตลาดที่มีศักยภาพ เช่น ฟิลิปปินส์ จีน สิงคโปร์ และเวียดนาม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-exceed-us234m-in-early-january-amid-high-fruit-demand-for-chinese-new-year/

ราคา FOB ของถั่วดำ ถั่วมะแฮะ และถั่วเขียว ลดลงเล็กน้อย

ราคา FOB ของถั่วดำ ถั่วมะแฮะ และถั่วเขียว ลดลงอีกครั้งในวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2566 โดยราคา FOB ของถั่วดำมีราคาอยู่ที่ 1,060-1,080 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ในขณะที่ราคาถั่วมะแฮะอยู่ที่ 1,250-1,270 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ถั่วเขียวที่มาจากเมียนมาร์ตอนกลางราคาอยู่ที่ 700-720 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และถั่วเขียวพันธุ์ชเววา ราคาอยู่ที่ 880-910 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งถั่วดำมีราคาลดลงจากเดิม 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ในขณะที่ถั่วมะแฮะราคาลดลง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ถั่วเขียวราคาลดลง 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน สำหรับถั่วเขียวที่มาจากเมียนมาร์ตอนกลาง และถั่วเขียวพันธุ์ชเววา ราคาลดลง 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน อย่างไรก็ดี ในตลาดย่างกุ้งราคาถั่วดำยังคงผันผวนอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านจ๊าดต่อตัน (สำหรับถั่วดำคุณภาพเฉลี่ย) ในขณะที่ราคาถั่วดำคุณภาพดีผันผวนอยู่ที่ประมาณ 3.14 ล้านจ๊าดต่อตัน ส่วนราคาถั่วมะแฮะอยู่ที่ 3.25 ล้านจ๊าดต่อตัน ถั่วเขียวที่มาจากเมียนมาร์ตอนกลางราคาอยู่ที่ 500-2,835 จ๊าดต่อviss และถั่วเขียวพันธุ์ชเววา ราคาอยู่ที่ 3,465 จ๊าดต่อviss

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fob-prices-of-black-gram-pigeon-pea-green-gram-post-slight-decline/#article-title