สหรัฐฯ สนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนโควิดในสปป.ลาว

รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขด้วยการแจกจ่ายวัคซีนโควิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการฉีดวัคซีน และช่วยให้แน่ใจว่าผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนทุกคน การสนับสนุนขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) มูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อรัฐบาลลาวในช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทายเหล่านี้ การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะช่วยให้รัฐบาลเอาชนะความท้าทายที่พบในการควบคุมการระบาดของ Covid โดยให้ความช่วยเหลือในการแจกจ่ายวัคซีนและกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่ต้องการการฉีดวัคซีนมากที่สุด โครงการนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าการฉีดวัคซีนจะดำเนินการอย่างทันท่วงทีตามนโยบายและแผนของฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_USsupports_180.php

USAID เปิดตัวระบบการขนส่งและคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิในกัมพูชา

หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) ได้เปิดตัวระบบการขนส่งและคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิในกัมพูชามูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาภาคการเกษตรในกัมพูชา โดยความคิดริเริ่มนี้เกิดจากผู้อำนวยการด้านภารกิจของ USAID ที่ได้กล่าวถึง “Cambodia Mission Director” ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกัมพูชา ซึ่งในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการด้านภารกิจของ USAID เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา โดยวางแผนในการร่วมพัฒนาระบบขนส่งกัมพูชาในช่วงระยะเวลา 4 ปี คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการขนส่งสินค้าภาคการเกษตรให้ออกสู่ตลาดอย่างปลอดภัย มีคุณภาพ และ ได้ราคาที่เหมาะสม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50883062/usaid-initiates-3-million-cold-chain-logistic-system-in-cambodia/

เมียนมาพร้อมเปิดตัวระบบค้าออนไลน์ TradeNet 2.0 มกราคมนี้

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผยพร้อมใช้ระบบการค้าออนไลน์ TradeNet 2.0 ที่ปรับปรุงพร้อมใช้อย่างเต็มรูปแบบระหว่างการเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมา เมื่อระบบถูกสมบูรณ์ผู้ค้าจะสามารถยื่นขอใบอนุญาตการส่งออก / นำเข้าทางออนไลน์ได้ ระบบ e-licensing ที่ได้รับการปรับปรุงการสมัครเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกันและมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์วางแผนที่จะใช้ TradeNet 2.0 ด้วยเทคโนโลยีและเงินทุนที่จัดทำโดย หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ขั้นตอนการดูแลระบบจะรวดเร็วมากและสามารถลดค่าใช้จ่ายเมื่อมีการย้ายทะเบียนการค้าและใบอนุญาตออนไลน์ภายใต้ระบบเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ยังส่งเสริมให้ผู้ผลิตและเกษตรกรส่งออกผลผลิตไปต่างประเทศได้

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-launch-tradenet-20-system-january.html

สหรัฐฯมอบเงินสนับสนุน 56 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชา

รัฐบาลสหรัฐฯได้มอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 จำนวน 56 ล้านดอลลาร์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมในกัมพูชาอีก 18 ล้านดอลลาร์ ตามแถลงการณ์รัฐบาลกัมพูชาผ่านสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) และรัฐบาลสหรัฐฯผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ได้ลงนามในข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อจัดหาโครงการด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม โดยรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชากล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือ ซึ่งความร่วมมือด้านการพัฒนาทวิภาคีอย่างต่อเนื่องนี้เป็นเสาหลักที่สำคัญในการส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง USAID จะให้ทุนแก่โครงการต่างๆเพื่อช่วยลดจำนวนคนยากไร้ และเพิ่มการผลิตพืชผลที่สำคัญและปรับปรุงโภชนาการให้กับชุมชนในชนบท ซึ่งในภาคการศึกษากระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและการกีฬาและโปรแกรม USAID จะสนับสนุนความพยายามในการปรับปรุงความเข้าใจในการอ่านในหมู่เด็กๆ เพื่อลดอัตราการออกกลางคันและจัดหาชาวกัมพูชาให้เข้ามาทำงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738964/us-gives-56-mln-to-support-kingdom/

สหรัฐอเมริกามอบเงินเพิ่มเติมให้กับสปป.ลาวในการป้องกัน Covid-19

สหรัฐอเมริกาสนับสนุนเงินเพิ่มเติมอีก 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านทาง US Agency เพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (USAID) เพื่อสนับสนุนการตอบสนองของ Covid-19 ในสปป.ลาว ดร. ปีเตอร์เฮย์มอนด์เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยกล่าวว่า “การระดมทุนเพิ่มเติมจากสหรัฐอเมริกาเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของเราภายใต้ความร่วมมือที่ครอบคลุมระหว่างสหรัฐฯ – ลาว ความช่วยเหลือด้วยการระดมทุนล่าสุดนี้ USAID จะให้การสนับสนุนห้องปฏิบัติการสปป.ลาวโดยช่วยให้พวกเขาวินิจฉัยและตรวจพบผู้ป่วย Covid-19 และช่วยในการเฝ้าระวัง Covid-19 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อไปยังผู้อื่น” ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ USAID ได้จัดหาเครื่องมือทางการแพทย์วงเงินกว่า 92 ล้านเหรียญสหรัฐนฯ การสนับสนุนของ USAID นอกจากจะควบคุมความเสี่ยงของ COVID-19 แล้วยังมีประโยชน์แต่การระบบสาธารณสุขในอนาคตของสปป.ลาวที่อาจเผชิญกับการระบาดเชื้อไวรัสอื่นๆ นอกเหนือจาก COVID-19 ได้

ที่มา :  http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US119.php

สหรัฐอเมริกาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม

องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ร่วมมือกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) และกรมศุลกากรเวียดนาม (GDVC) ณ วันที่ 22 มิ.ย. เปิดตัวโครงการประเมินระดับความพึงพอใจในการดำเนินธุรกิจ ผ่านระบบ National Single Window (NSW) ซึ่งรายงานดังกล่าว พื้นฐานมาจากการสำรวจ “ความพึงพอใจทางธุรกิจและขั้นตอนการบริหารผ่านระบบ NSW” ตั้งแต่เดือนก.ย.62 – มี.ค.63 ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โครงการอำนวยความสะดวกทางการค้าของ USAID ได้ทำงานร่วมมือกับองค์กรที่หลากหลาย เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำธุรกิจที่เวียดนาม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติการค้าสหรัฐฯ-เวียดนาม ชี้ให้เห็นว่าเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการค้าทั้งสองฝ่ายเติบโตสูงถึง 77.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทาง USAID ยังคงสนัสนุนรัฐบาลเวียดนามและภาคเอกชน ในการปฏิรูปและยกระดับความพึงพอใจทางธุรกิจ ผ่านเครื่องอำนวยความสะดวกในการค้า “NSW”

ที่มา : https://vnexplorer.net/us-supports-vietnam-to-improve-business-satisfaction-a202054474.html

เกษตรกรชาวไทใหญ่ตั้งเป้าส่งออกกาแฟไปสหรัฐและไทยมากขึ้นในปีนี้

เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในเขตเมือง Ywar Ngan รัฐฉานกล่าวว่าพวกเขาหวังที่จะขายเมล็ดกาแฟให้กับผู้ซื้อในยุโรปสหรัฐอเมริกาและไทยในปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศในปีนี้การเก็บเกี่ยวจะเริ่มในช่วงกลางเดือนมีนาคม เมือง Ywar Ngan จะผลิตเมล็ดกาแฟได้ประมาณ 400 ตันในปีนี้และผู้ซื้อต่างประเทศกำลังติดต่อขอซื้ออยู่แล้ว เมล็ดกาแฟคุณภาพสูงสามารถทำรายได้มากกว่า 6,000 เหรียญสหรัฐ (8.5 ล้านจัต) ต่อตันมีพื้นที่ปลูกกาแฟมากกว่า 3,480 เฮกตาร์ในเขตเมือง Ywar Ngan สามารถผลิตเมล็ดกาแฟได้ 800 ตัน สมาคมผู้ส่งออกกาแฟกำลังพยายามพัฒนาคุณภาพการผลิตให้เป็นมาตรฐานและจัดตั้งศูนย์วิจัยกาแฟในปีนี้ กาแฟของเมียนมาได้ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง Winrock International ขณะนี้พยายามส่งออกไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดาและประเทศอื่น ๆ ในตลาดยุโรป จะได้รับการช่วยเหลือจาก GIZ ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาของเยอรมนีที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบอนน์ เมล็ดกาแฟที่ปลูกส่วนใหญ่คือ อาราบิก้าและโรบัสต้าโดยที่อาราบิก้ากำลังเป็นที่นิยม เมล็ดกาแฟที่ผลิตราคาขายอยู่ระหว่าง 1,000 ถึง 8,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันขึ้นอยู่กับคุณภาพ โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/shan-growers-set-sights-selling-more-coffee-us-thailand-year.html