รัฐบาลกัมพูชายืนยันอัดฉีดเงินเข้ากองทุนข้าวจำนวน 50 ล้านเหรียญ

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ร่วมกับโรงสีและผู้ส่งออกเรียกร้องให้รัฐบาลระดมทุนเพิ่มเติมอีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยเหลือภาคการผลิตข้าวและรักษาเสถียรภาพราคาพันธุ์พรีเมี่ยม โดย CRF ขอบคุณรัฐบาลผ่านกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินสำหรับการจัดสรรเงินเพิ่มเติม 50 ล้านเหรียญสหรัฐแก่ธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบท (RDB) เพื่อขยายสินเชื่อที่มีให้แก่ผู้ผลิตข้าวและผู้ส่งออกข้าว ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ราคาข้าวเปลือกมีเสถียรภาพและส่งออกมากขึ้น โดย CRF หวังว่าจะช่วยให้โรงสีข้าวและสมาชิกชุมชนเกษตรกรรมของ CRF เก็บรวบรวมข้าวจากเกษตรกรต่อไปโดยเฉพาะพันธุ์ Phka Rumdoul และ Phka Malis (ข้าวหอมพรีเมี่ยม) รวมทั้ง Sen Kro Ob และ Sen Pidor ซึ่งฤดูการเก็บเกี่ยวจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้จนถึงต้นปี 2563 โดยผู้ผลิตข้าวและสหกรณ์การเกษตรสามารถขอสินเชื่อโดยใช้สต็อกข้าวสารในปัจจุบันของพวกเขาเป็นหลักประกัน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนฝ่ายบริหารทั่วไปของจีนด้านการควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกัน (AQSIQ) อนุมัติการผู้ผลิตข้าวในประเทศกัมพูชาอีก 18 ราย ที่ต้องการเริ่มส่งออกไปยังประเทศจีน ขณะนี้มีผู้ผลิตข้าวท้องถิ่น 44 ราย ที่สามารถส่งออกข้าวไปยังตลาดจีนได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50668176/govt-adds-50-million-to-rice-fund/

การก่อสร้างทางด่วนในกัมพูชาเป็นไปตามแผนที่วางไว้

การก่อสร้างทางพิเศษแห่งแรกของกัมพูชาที่เชื่อมต่อกรุงพนมเปญและสีหนุวิลล์บนชายฝั่งแล้วเสร็จไป 7% โดยถือเป็นช่วงเริ่มต้นของกระบวนการ ซึ่งบริษัทกำลังเร่งทำงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยการก่อสร้างทางสัญจรเป็นไปตามกำหนดเวลาตามที่กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ว่าทางด่วนสายนี้จะแล้วเสร็จในต้นปี 2566 ซึ่งในอีกสามเดือนข้างหน้าจะเริ่มสร้างถนนบางส่วนขึ้นจริง โดยการก่อสร้างเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2562 ด้วยงบประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถนนถูกสร้างขึ้นโดย China Road and Bridge Corporation ผ่านทาง บริษัท ย่อยของ บริษัท PPSHV Expressway Co Ltd. ประเทศมาเลเซีย โดยวิศวกรรม Minconsult SDN BHD ให้คำแนะนำทางเทคนิค ซึ่งทางพิเศษจะเริ่มขึ้นในเขต Por Sen Chey ในกรุงพนมเปญมีสองเลนสำหรับแต่ละทิศทางความยาวอยู่ที่ 190 กิโลเมตร ซึ่งสั้นกว่าถนนในปัจจุบันที่ความยาว 240 กิโลเมตร ตามที่กระทรวงระบุไว้ โดยทางด่วนจะช่วยลดการจราจรจาก National Road 4 ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรที่มีผู้สันจรมากที่สุดในประเทศซึ่งเชื่อมต่อเมืองหลวงกับท่าเรือน้ำลึกของสีหนุวิลล์ซึ่งเป็นประตูหลักสำหรับส่งออกและนำเข้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50668279/expressway-construction-continuing-as-planned-ministry/

NA สนับสนุนวาระการพัฒนาประเทศ

 ในช่วง 20 วันที่ผ่านมา สภาแห่งชาติ (NA) ร่วมกับรัฐบาลสปป.ลาวในการพิจารณาและอนุมัติกฎหมายใหม่ 8 ฉบับและฉบับปรับปรุงใหม่ 10 ฉบับรวมถึงพิจารณาอนุมัติการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนงบประมาณปี 62 และ 63 อีกด้วยนอกจากนี้ในที่ประชุม NA ได้ให้คำแนะนำและมาตรการต่าง ๆ แก่รัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขรวมถึงแผนการพัฒนาประเทศ โดย NA จะตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายและการแก้ปัญหาและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บรายได้สัมปทานที่ดิน การพัฒนาทักษะการเข้าเมืองรวมถึงการสร้างงาน โดยขอให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายที่ได้รับการอนุมัติใหม่อย่างเข้มงวด ในภายภาคหน้าจะมีการตรวจสอบจากองค์กรอิสระร่วมกับ NA ถึงความคืบหน้าในการแก้ไข้ปัญหาต่างๆรวมถึงประเมินและติดตามผลของวาระพัฒนาประเทศต่อไปเพื่อให้แนวทางในการพัฒนาประเทศเป็นไปตามกรอบแผนงานที่วางไว้   

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_NA_closes_265.php

สปป.ลาว – เวียดนามส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและเวียดนามได้หารือเกี่ยวกับแผนการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวสปป.ลาว กล่าวว่าทั้งสองประเทศมุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนบทเรียนและข้อมูลในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ขอให้เวียดนามให้ความช่วยเหลือป่าสงวนแห่งชาติหินหนามหน่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการฝึกอบรมในเวียดนามเพื่อยกระดับทักษะของเจ้าหน้าที่สปป.ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เรียนรู้บทเรียนโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารล่าสุดและความร่วมมือในโครงการก่อสร้างโรงเรียนศิลปะแห่งชาติ ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนบทเรียนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้มีการวางแผนที่จะทำโปรโมชั่นการท่องเที่ยวร่วมกัน ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Vietnam_265.php

การประชุมความร่วมมือทางการค้าระหว่างเวียดนาม กัมพูชา

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา สำหรับการประชุมส่งเสริมทางการค้า ร่วมหารือแสดงวิสัยทัศน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการค้า และการปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการเวียดนามกับกัมพูชาให้มีมากยิ่งขึ้น ประกอบกับประเด็นที่น่าสนใจภายในกิจกรรมครั้งนี้ ได้แก่ โอกาสทางการดำเนินธุรกิจ สภาพแวดล้อมทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขการเข้าร่วมเขตเศรษฐกิจพิเศษในกัมพูชา ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติทางการค้า ระบุว่าในปีที่แล้ว เวียดนามและกัมพูชา มียอดการค้าอยู่ที่ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และในปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชา 214 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน กัมพูชามีโครงการลงทุนในเวียดนาม 21 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐ และอยู่ในอันดับที่ 54 ของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam–cambodia-business-cooperation-forum-to-boost-trade/164998.vnp

กว่างนิงห์ เร่งพัฒนาการท่องเที่ยวเขิงธุรกิจ MICE

MICE เป็นโมเดลธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผสมผสานการเดินทางเพื่อธุรกิจ การจัดประชุม และการแสดงสินค้าหรือผลงานเข้าด้วยกัน โดยโมเดลดังกล่าวได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งในจังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ได้นำโมเดล MICE มาติดตามแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วโลก และเตรียมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เพื่อขยายสิ่งอำนวยด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดกว่างนิงห์ได้ดำเนินการสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวธุรกิจ MICE ให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 35 และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ขณะนี้ ในปัจจุบัน มีห้องพักมากกว่า 20,000 ห้อง รวมไปถึงจำนวนโรงแรม 214 แห่ง และมีสถานที่สำคัญการท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการท่องเที่ยวและวิทยาศาสตร์ ระบุว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE จะมีความต้องการสูงขึ้นในด้านการบริการและมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว และในอนาคตข้างหน้า ต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนในประเทศ สำหรับธุรกิจรูปแบบ MICE

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/quang-ninh-speeds-up-mice-tourism-development-407280.vov

มูลค่าของเถื่อนเมียนมาสูงถึง 1.56 พันล้านจัต

ตั้งแต่ ก.ย. 61 ถึง ต.ค. 62 กระทรวงพาณิชย์ยึดของต้องห้ามมูลค่าประมาณ 15.6 พันล้านจัต ในเก้าภูมิภาค ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินการตามแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมียนมา (2561-2573) ประกอบด้วยห้าเสาหลัก เพื่อสันติภาพ หลักนิติธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน สำหรับการต่อสู้กับยาเสพติด การฟอกเงินและการพัฒนาธุรกิจจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาของภาคเอกชนและ SMEs นอกจากนี้ยังเร่งป้องกันและปราบปรามเสพติดให้สอดคล้องกับกฎหมายต่อต้านยาเสพติด และให้ปลูกพืชทดแทน เช่น ดอกป๊อปปี้ การควบคุมสารเคมีที่ การให้ความรู้และการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย ส่วนการทำหน้าที่ของตำรวจพบว่ามีคดีฟอกเงิน 10 คดีในปี 61 และ 16 คดีในปี 62 ปัจจุบันรัฐบาลได้เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับการค้าที่ผิดกฎหมาย

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/estimated-ks-156-billion-worth-of-contraband-seized

รายได้ส่งออกสินค้าเกษตรเมียนมาพุ่ง 470 ล้านเหรียญสหรัฐ

จนถึงวันที่ 22 พ.ย.ของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกของภาคเกษตรอยู่ที่ 473.892 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 114.241 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 359.651 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ส่งออกฟาร์มปสุสัตว์ สินค้าทางทะเลเหมืองแร่ ป่าไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ใช้เทคนิค CMP และอื่น ๆ ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกสูงถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 580 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/farm-produce-export-earnings-exceed-470-m