สปป.ลาว วางแผนการขนส่งใหม่ในเวียงจันทน์ เพื่อลดมลภาวะทางอากาศและเสียง

โครงการขนส่งในเมืองอย่างยั่งยืนของเวียงจันทน์ แบบไร้เครื่องยนต์เพื่อช่วยลดระดับมลพิษทางอากาศและเสียงในเมืองหลวง โครงการนี้ริเริ่มโดยกรมโยธาธิการและการขนส่ง กระทรวงคมนาคม โดยจะสร้างพื้นที่หลักที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ในใจกลางเมือง รถสามล้อไฟฟ้าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้สัญจรจากสถานี Bus Rapid Transit (BRT) เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในเมืองโดยไม่ต้องใช้ยานยนต์ e-pedicab เป็นรถถีบน้ำหนักเบาที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับความนิยมในหลายเมืองทั่วโลกในด้านความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารหลายคน ในขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยรถสามล้อไฟฟ้าซึ่งบริหารโดยแผนกการจัดการการขนส่งในเมือง (UTMS) จะช่วยเคลื่อนย้ายผู้โดยสารได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและประหยัดมากขึ้นภายในพื้นที่หลัก เนื่องจากผู้โดยสารจะทำงานได้แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องยนต์ เช่น Transit Mall แห่งใหม่รถสามล้อไฟฟ้าจะให้บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 22.00 น. ทุกวัน โดยสามารถพบได้ที่สถานี BRT และที่จอดรถทุกแห่ง ราคาค่าบริการไม่แพงอยู่ที่ 12,500 กีบต่อกิโลเมตร สามารถชำระเงินและจองผ่านแอปสมาร์ทโฟน UTMS รถสามล้อไฟฟ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของความมุ่งมั่นของโครงการขนส่งเมืองอย่างยั่งยืนในเวียงจันทน์ในการสร้างการขนส่งที่มีประสิทธิภาพแต่ราคาไม่แพง ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและปรับปรุงคุณภาพชีวิตสำหรับผู้ที่อาศัยและทำงานในพื้นที่หลัก โดยการลดมลภาวะทางอากาศและเสียง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_246_New_y23.php

ราคาอ้างอิงขายส่งน้ำมันปาล์มย่างกุ้งทรงตัวในสัปดาห์นี้ สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม

ตามที่คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภคระบุว่า อัตราอ้างอิงการขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดย่างกุ้งในสัปดาห์นี้สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2566 มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากโดยมีความแตกต่างเพียงหลักเดียว ราคาขายส่งจดทะเบียนที่ 4,815 จ๊าดต่อ viss เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิ้นสุดวันที่ 17 ธันวาคม อัตราของสัปดาห์นี้ค่อนข้างคงที่ที่ 4,810 จ๊าดต่อ viss ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภคภายใต้กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคา FOB ในมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มค่าภาษี และบริการธนาคารเพื่อกำหนดอัตราอ้างอิงตลาดขายส่งรายสัปดาห์สำหรับน้ำมันที่บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดนั้นสูงกว่าราคาอ้างอิงมาก เพื่อจัดการกับปัญหาการคิดเงินเกิน กรมกิจการผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ แจ้งให้ผู้บริโภคร้องเรียนเรื่องการคิดเงินเกินราคาผ่านสายด่วนของคอลเซ็นเตอร์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม กระทรวงฯ เรียกร้องให้ผู้บริโภคอย่าซื้อน้ำมันปาล์มในราคาที่สูงเกินจริง นอกจากนี้ กรมกำลังพยายามร่วมกันควบคุมความผันผวนสูงของราคาน้ำมันปาล์มในตลาดค้าปลีก และเสนอราคาที่ยุติธรรมมากขึ้นแก่ผู้บริโภค โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ค้าน้ำมันบริโภคแห่งเมียนมาร์และบริษัทนำเข้าน้ำมัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yangon-palm-oil-wholesale-reference-price-stable-for-week-ending-25-december/

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลโต 25% ปี 68

จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการตัวชี้วัดและวิธีการวัดผลของมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจดิจิทัลในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาค (GRDP) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. โดยคุณเหวียน ธิ ถู เฮือง จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) กล่าวว่าสัดส่วนมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดิจิทัลต่อจีดีพี ตั้งแต่ปี 2563-2565 อยู่ที่ 12.75% และ 12.67% ในปี 2565

ทั้งนี้ หากพิจารณาแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ พบว่าภาคบริการเวียดนามมีส่วนผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด 6.59% ในปี 2563-2565 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง 6.11% และภาคเกษตรกรรมมีตัวเลขต่ำที่สุด 0.05% ของ GDP อย่างไรก็ดี ขนาดของเศรษฐกิจดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2563-2565 แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมของรัฐบาลที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อีกทั้ง เศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะมีสัดส่วน 25% ของ GDP เวียดนามในปี 2568 และเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2573 ตามมติของคณะกรรมการที่ 52 (52/HQ-TW)

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-projects-high-proportion-of-digital-economy-in-gdp-2223887.html

‘เวียดนาม’ คาดส่งออกข้าวปีนี้ ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่ายอดการส่งออกข้าวในปีนี้จะสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกข้าวสาร (Milled rice) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 7.75 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.2% และ 36.3% เมื่อเป็นรายปี ในขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ย 568 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ทั้งนี้ จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการ นายเจิ่น แทงห์ นาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าข้าวมีบทบาทสำคัญต่อภาคเกษตรกรรมในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และในอนาคตข้างหน้า ตลาดข้าวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการมากขึ้นจากจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลางและแอฟริกา

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มองว่าการเติบโตของปริมาณการส่งออกข้าวมีทิศทางสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อสต๊อกของประเทศผู้ส่งออก และดันราคาส่งออกข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1638131/rice-exports-expected-to-hit-us-5-billion-this-year.html