กรุงฮานอยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้  กรุงฮานอยดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ ด้วยมูลค่า 6.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.5 ของการลงทุนโดยรวมจากต่างประเทศ รองลงมานครโฮจิมินห์ และจังหวัดบิ่ญเซือง (Binh Duong) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เวียดนามดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ 26.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขการลงทุนดังกล่าว มีมูลค่าเงินทุนไหลเข้าประมาณ 10.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโครงการใหม่กว่า 2,760 โครงการ รวมไปถึงบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุน 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงได้ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด ตามมาด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการค้าปลีกค้าส่ง ตามลำดับ และประเทศฮ่องกง (จีน) เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanoi-most-attractive-to-foreign-investors-in-nine-months/161332.vnp

เวียดนามเผยส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และประมง พุ่งสูงขึ้น 2.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ป่าไม้ และประมงของเวียดนามอยู่ที่ 30.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากต่างประเทศกว่า 23.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้เวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากได้รับแรงหนุนของผลิตภัณฑ์ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และไม้แปรรูป กาแฟ ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักผลไม้ และกุ้ง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryfishery-exports-up-27-percent-in-nine-months-403952.vov

กัมพูชาต้องมีนวัตกรรมมากขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยจากการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด

เนื่องจากมูลค่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ตามข้อมูลจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยเชื่อว่าสามรถผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆจนทำให้กัมพูชากลายเป็นสังคมไร้เงินสดได้ แต่ผู้ประกอบการมองว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากรัฐบาลนวัตกรรมเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นและไม่ทันต่อการเติบโตของการเปลี่ยนแปลงภายในกัมพูชา ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว VISA ประกาศแผนการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา สำหรับกัมพูชาได้วางรากฐานสำหรับชุดความก้าวหน้าทางโลกไซเบอร์ซึ่งมีแนวโน้มของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและมีการดำเนินการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับผู้ค้าและผู้บริโภค ซึ่งการรักษาความปลอดภัยของระบบนิเวศการค้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญและมองว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างเครือข่ายการชำระเงินทั้ง ผู้บริโภค ภาคธนาคาร และภาครัฐ โดยหากอนาคตมีการใช้จ่ายแบบสังคมไร้เงินสดมากขึ้นแล้วจะสามารถสร้างความยืดหยุ่นระหว่างผู้ค้าและผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมไปถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชามากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50647100/more-innovation-needed-to-protect-cashless-payments/

ธนาคารชาติแห่งกัมพูชาเรียกร้องนโยบายการเงินสีเขียว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ยังคงเรียกร้องให้สถาบันการเงินในกัมพูชาวางนโยบายเพื่อส่งเสริมด้านการเงินและการลงทุนที่เป็นมิตร โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศของสวิส (BIS) ได้เปิดตัวกองทุนเปิดสำหรับธนาคารกลางที่ลงทุนในพันธบัตรสีเขียว ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่เน้นลงทุนในโครงการที่สนับสนุนการลดสภาวะโลกร้อน โดย NBC ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการที่ปรึกษา BIS ได้แสดงจุดยืนการสนับสนุนสำหรับความคิดริเริ่มนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนถูกมองว่าเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่อาจจะสร้างความไม่แน่นอนสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางสังคม ซึ่ง NBC สนับสนุนให้กับสถาบันทางการเงินทุกแห่งที่ร่วมมืออย่างจริงจังเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการเงินสีเขียว โดย ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมสมาคมธนาคารในประเทศกัมพูชาได้ลงนามสองฉบับเพื่อบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับ “ ความร่วมมือทางการเงินที่ยั่งยืน” เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือทางการเงินที่ยั่งยืนในภาคการธนาคาร

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/national-bank-cambodia-calls-green-finance-policies-105291