FTA ระหว่าง กัมพูชา-เกาหลีใต้ ดันการส่งออกเครื่องนุ่งห่มแตะ 173 ล้านดอลลาร์

FTA ดันการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องนุ่งห่มของกัมพูชาไปเกาหลีใต้แตะ 173 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.84 สำหรับในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2023 ขณะที่ในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ที่มูลค่า 191.37 ล้านดอลลาร์ โดยการเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2022 ขณะที่การส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวโดยภาพรวมของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) มีสิทธิประโยชน์ด้านการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาหลายรายการ รวมทั้งเสื้อผ้า ทำให้สินค้ากัมพูชามีราคาที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดเกาหลีใต้ สำหรับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญของกัมพูชาด้วยการมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 16 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และมีการจ้างงานประมาณกว่า 700,000 คน ในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501401901/fta-boosts-cambodias-apparel-export-to-south-korea-reaches-173-million/

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชาพุ่งแตะ 1,162 คัน

กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) รายงานว่า ณ เดือนกันยายนปีนี้ จำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจดทะเบียนในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 1,162 คัน ในจำนวนนี้คิดเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 573 คัน รถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้า 387 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 202 คัน โดยสาเหตุหลักมาจากการตระหนักรู้เกี่ยวกับการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น ด้าน Pov Maly ปลัดกระทรวงฯ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลกัมพูชาพร้อมที่จะผลักดันการใช้รถไฟฟ้าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างการสร้างสถานีชาร์จเพิ่มเติมในกรุงพนมเปญและจังหวัดสำคัญต่างๆ ปัจจุบันมีสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 18 แห่งในประเทศ ขณะที่รัฐบาลได้พัฒนาแผนยุทธศาสตร์เพื่อเปลี่ยนกัมพูชาให้เป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ในระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศผ่านการให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อหวังดันการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการเพิ่มปริมาณการส่งออกของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501401710/ev-registrations-jump-to-1162-this-year/

ธนาคาร-ผู้นำทางธุรกิจ จัดประชุมอัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาว ในปัจจุบัน

ธนาคาร ANZ Laos ร่วมกับ AustCham Lao จัดงานประชุมอัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาว ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลสถานะปัจจุบันในเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของ สปป.ลาว โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคาร สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคเอกชนเข้าร่วม บางส่วนของกิจกรรมในงานเริ่มจากการนำเสนอของ Mr.Khoon Goh หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียของธนาคาร ANZ ที่นำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงภาวะเศรษฐกิจระดับโลกและระดับภูมิภาคในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อประเทศลาวในปีหน้าอย่างไร โดยเริ่มจากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่กำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เศรษฐกิจจะเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศจีน เริ่มมีการฟื้นตัวจากแรงผลักดันของการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ และคาดการณ์ว่าเมื่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีนกลับมา ผู้บริโภคจีนก็จะมีเม็ดเงินส่วนเกินประมาณ 6.2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ ที่จะผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศจีน และแผ่กระจายการบริโภคมายังประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงประเทศลาว นอกจากนี้ นายเพชรสถาพร แก้ววงวิจิตร อธิบดีกรมบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารแห่ง สปป. ลาว ได้นำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่ประกาศใช้ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 10 ว่าด้วยการดำเนินการจัดการเงินตราต่างประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่การรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินกีบ การเสริมสร้างทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และรักษามูลค่าของเงินกีบ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_236_Bankers_y23.php

สปป.ลาว-รัสเซีย ลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสนับสนุนด้านเทคนิควิทยาการ

อิเร็ก ไฟซุลลิน รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และนายคำเจน วงโพสี รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน สปป.ลาว ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ และด้านเทคนิควิทยาการ ระหว่าง สปป.ลาว และรัสเซีย ครั้งที่ 17 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และทางเทคนิควิทยาการ ภายใต้ขอบเขตของความร่วมมือทวิภาคีในด้านการค้า การธนาคาร การเงิน อุตสาหกรรม การขนส่ง พลังงาน การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ ทั้งนี้ จากการให้ความช่วยเหลือของรัสเซียที่ผ่านมา ได้แก่ การให้โควตานักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาของ สปป.ลาว เข้ารับการฝึกอบรมในมหาวิทยาลัยของรัสเซีย และในอนาคตมีความพยายามที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศ โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อการค้าผ่านเส้นทางรถไฟ เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจใหม่ๆ และการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงการวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนโครงการร่วมลงทุนในด้านการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ และการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_236_Lao_Russian_y23.php