รัฐบาล สปป.ลาว ประกาศแผนขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10%

รัฐบาล สปป.ลาว ได้ประกาศแผนที่จะเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 10% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มรายได้งบประมาณของรัฐและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ โดยพระราชกฤษฎีกาที่ออกเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ยังขาดรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับวันดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจากภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาล โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะปรับขึ้นนี้จะใช้บังคับกับธุรกรรมต่างๆ รวมถึงการนำเข้า สินค้าและบริการทั่วไป การนำเข้าแร่ ตลอดจนการผลิตและค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/03/20/lao-government-to-raise-value-added-tax-rate-to-10-percent/

รัฐบาลกัมพูชาออกพันธบัตรมูลค่า 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023

รัฐบาลกัมพูชาสามารถระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล 58.26 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023 ซึ่งตามกฎหมายกัมพูชาสามารถออกพันธบัตรได้สูงสุด 200 ล้านดอลลาร์ โดยการออกพันธบัตรในครั้งนี้คิดเป็นร้อยละ 29 ของวงเงินตามกฎหมายกำหนด ขณะที่รัฐบาลได้ออกพันธบัตรผ่านแพลตฟอร์มการประมูลธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (National Bank of Cambodia Auction Platform – NBCP) ซึ่งรายงานไว้ในระหว่างการประกาศตัวเลขหนี้สาธารณะของกัมพูชาประจำปี 2023 โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังชี้แจงว่ารัฐบาลกัมพูชาออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนภายในประเทศ ซึ่งจะนำไปใช้ในกิจกรรมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับในปี 2024 รัฐบาลกัมพูชาเตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่ารวม 108 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการลงทุนและความยั่งยืนของการบริหารหนี้สาธารณะ สำหรับสิทธิพิเศษของผู้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลจะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายร้อยละ 50 สำหรับดอกเบี้ยที่ได้รับจากการถือครองและซื้อขายพันธบัตร นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังได้รับการยกเว้นภาษีกำไรส่วนทุนจากการซื้อและขายพันธบัตรเป็นเวลา 3 ปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501457942/kingdom-raises-58-million-from-government-bond-issuance-in-2023/

กัมพูชาและไทย ประกาศร่วมมือยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กัมพูชาและไทย ประกาศความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน ผ่านการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยคำมั่นสัญญานี้เกิดขึ้นระหว่าง ฮุน เซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา และคุณแพทองทา ชินวัตร ประธานพรรคเพื่อไทย ในการหารือระดับทวิภาคี ด้าน สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งเน้นไปที่การแสวงหาสันติภาพ การเปลี่ยนสนามรบเดิมให้เป็นเขตพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายแดนให้กลายเป็นเขตแดนแห่งสันติภาพ ด้านคุณแพทองทา เดินทางเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 2 วัน (18-19 มี.ค.) ตามคำเชิญของ สมเด็จฯ ฮุน เซน โดยการเยือนครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อหวังการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501458226/cambodia-thailand-to-boost-economic-growth-though-connectivity/

‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ชี้เศรษฐกิจเวียดนามโตตามคาด

ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2567 จะขยายตัว 5.5% เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ธนาคารยูโอบี (ประเทศสิงคโปร์) ประเมินตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวไปในทิศทางที่เป็นบวก โดยการส่งออกของเวียดนามขยายตัวและภาคอุตสาหกรรม 17.6% และ 5.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเวียดนาม อยู่ในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ในช่วงเดือน ม.ค. และ ก.พ. บ่งชี้ให้เห็นว่าภาคอุตสากรรมแข็งแกร่ง แม้ว่าจะฟื้นตัวเล็กน้อย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-economy-proceeding-as-predicted-experts/283125.vnp

‘จีน’ ตลาดส่งออกไม้สับรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

เวียดนามส่งออกไม้สับ (Wood Chip) ไปยังตลาดต่างประเทศ 13 แห่งในปี 2566 โดยตลาดจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นับว่าเป็นตลาดส่งออกไม้สับสำคัญของเวียดนาม และจากข้อมูลทางสถิติแสดงให้เห็นว่าในปี 2566 เวียดนามส่งออกไม้สับไปยังจีน มากกว่า 9.38 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ราคาส่งออกไม้สับเฉลี่ยปรับตัวลดลงจาก 183-185 เหรียญสหรัฐต่อตันในปีที่แล้ว เหลืออยู่ที่ 140 เหรียญสหรัฐต่อตันในช่วงกลางปีนี้ ทั้งนี้ สมาคมไม้และผลิตภัณฑ์จากป่าไม้เวียดนาม เปิดเผยว่าความต้องการนำเข้าไม้สับจากตลาดจีนมีแนวโน้มที่จะลดลง ส่งผลให้ราคาส่งออกไม้สับปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมไม้สับจะยังคงแข่งขันทางด้านวัตถุดิบกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด โดยเฉพาะภาคเหนือ เนื่องจากเป็นแหล่งพื้นที่ปลูกไม้สำคัญของทั้งสองอุตสาหกรรม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1652219/china-as-viet-nam-s-largest-wood-chip-export-market.html

ราคายางค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคายางในเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ โดยแตะระดับกว่า 1,700 จ๊าดต่อปอนด์ในตลาดยางของรัฐมอญ โดยยางแผ่นรมควันชั้น 3 มีราคาแตะ 1,780 จ๊าดต่อปอนด์ และราคายางตากแห้งมีราคา 1,760 จ๊าดต่อปอนด์ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ราคายางตากแห้งมีราคาเพียง 1,640 จ๊าดต่อปอนด์ และยางแผ่นรมควันชั้น 3 มีราคา 1,660 จ๊าดต่อปอนด์ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าราคายางเพิ่มขึ้น 120 จ๊าดต่อปอนด์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีราคายางของเมียนมาได้รับอิทธิพลจากอุปสงค์ของยางทั่วโลก และปริมาณการผลิตยางในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอุปทานในตลาด ราคายางในรัฐมอญ ซึ่งเป็นรัฐการผลิตยางที่สำคัญในเมียนมา ก็มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับปัจจัยเหล่านั้นเช่นกัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-on-gradual-rise-2/#article-title

ราคาอ้างอิงขายส่งน้ำมันปาล์มของย่างปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้

ตามการระบุของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้าและการจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภค อัตราอ้างอิงการขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดย่างกุ้งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5,250 จ๊าดต่อviss ในสัปดาห์นี้ ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม จากที่บันทึกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 5,215 จ๊าดต่อviss อย่างไรก็ดี ทางคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันบริโภคภายใต้กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคา FOB ในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มค่าขนส่ง ภาษี และบริการทางธนาคาร เพื่อกำหนดอัตราอ้างอิงตลาดค้าส่งสำหรับน้ำมันบริโภคเป็นรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ทางกรมกำลังพยายามร่วมกันควบคุมความผันผวนสูงของราคาน้ำมันปาล์มในตลาดค้าปลีก และเสนอราคาที่ยุติธรรมมากขึ้นแก่ผู้บริโภค โดยประสานงานกับสมาคมผู้ค้าน้ำมันบริโภคแห่งเมียนมาและบริษัทนำเข้าน้ำมัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/ygn-palm-oil-wholesale-reference-price-shows-uptick-this-week/