‘รถไฟบรรทุกสินค้าด่วนพิเศษ จีน-ลาว-ไทย’ ขบวนแรกเดินทางออกจากเฉิงตู

ถไฟบรรทุกสินค้าด่วนพิเศษต้นทางประเทศจีน ผ่านมายัง สปป.ลาว และสิ้นสุดที่ประเทศไทย ขบวนแรกออกเดินทางจากสถานีรถไฟนานาชาติเฉิงตู เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พร้อมขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าในประเทศไทย การเปิดตัวบริการรถไฟด่วนพิเศษเส้นทางนี้ ช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าจากเมืองเฉิงตูมายังประเทศไทยให้เหลือไม่เกิน 5 วัน ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงการเชื่อมต่อและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันระหว่างทั้งสามประเทศ  

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2023-11-19/First-China-Laos-Thailand-express-freight-train-departs-from-Chengdu-1oQZOYRv8cw/index.html

‘เวียดนาม’ ส่งออกปลาทูน่าไปยังสหราชอาณาจักรลดฮวบ เหตุข้อบังคับที่เข็มงวด

สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าการส่งออกปลาทูน่าของเวียดนามไปยังตลาดสหราชอาณาจักร (UK) อยู่ในภาวะชะลอตัวในเดือน ก.ย. ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่คนวงในอุตฯ ระบุว่ายอดการนำเข้าที่ลดลง เป็นผลมาจากเงื่อนไขหรือข้อบังคับที่เข็มงวดในเรื่องการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของสหราชอาณาจักร ซึ่งเทียบเท่ากับเงื่อนไขของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม การส่งออกปลาทูน่าของเวียดนามไปยังตลาดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่ามากกว่า 5.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/tuna-exports-to-uk-market-suffer-decline-on-strict-requirements-post1059542.vov

‘เวียดนาม’ เผย 10 เดือน ส่งออกเหล็กเติบโตในเชิงบวก

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกเหล็กมากกว่า 6.7 ล้านตันในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 26.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) ที่ขยายตัวแข็งแกร่ง 201% ตามมาด้วยเหล็กกัลวาไนซ์ และท่อเหล็ก ขยายตัว 2.8% และ 17% ตามลำดับ ในขณะที่ตลาดส่งออกเหล็กรายใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของเวียดนามในปีนี้ ได้แก่ อิตาลี กัมพูชา สหรัฐอเมริกา อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เบลเยียม สเปน ไต้หวัน (จีน) และไทย ทั้งนี้ สมาคมเหล็กแห่งยุโรป ระบุว่าเวียดนามมีสัดส่วนการนำเข้า 8.1% ของปริมาณการนำเข้าเหล็กสำเร็จรูปจากยุโรปในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อินเดียมีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดส่งออกเหล็กที่ใหญที่สุดของเวียดนามในช่วงเวลา 10 เดือนของปีนี้ มูลค่าเกินกว่า 539.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณเกินกว่า 730,000 ตัน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-steel-exports-record-positive-growth-in-10-months-post1059565.vov

NBC ร่วมมือกับ AliPay ผนึกกำลังดัน KHQR ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) และ Ant International ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับความร่วมมือในการผลักดันรูปแบบการชำระเงินด้วยรหัส QR ข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยระหว่างเครือข่ายของ Bakong ผ่านรหัส QR ภายใต้ชื่อ KHQR ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล AliPay Connect Pte Ltd. หรือที่รู้จักในชื่อ Alipay เชื่อมกับเครือข่ายการชำระเงิน QR ทั่วโลก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ระหว่าง Chea Serey ผู้ว่าการ NBC และ Douglas Feagin รองประธานอาวุโสของ Ant Group ในระหว่างงาน Singapore Fintech Festival 2023 โดยผู้ว่าการ NBC ยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อการชำระเงินของกัมพูชาเข้ากับทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่ Alipay และ WeChat Pay ถือเป็นวิธีการชำระเงินที่ผู้มีผู้บริโภคชาวจีนนิยมใช้มากที่สุดครองสัดส่วนการชำระเงินผ่านมือถือของประเทศจีนกว่าร้อยละ 92 หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501392878/nbc-alipay-join-forces-to-allow-khqr-accept-worldwide/

กองทรัสต์เกือบ 700 หน่วย เข้าจดทะเบียนในกัมพูชา มูลค่ากว่า 1.22 พันล้านดอลลาร์

จำนวนกองทรัสต์ซึ่งจดทะเบียนในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มกองทรัสต์กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ด้าน Sok Dara ผู้อำนวยการทั่วไปของหน่วยงานกำกับดูแลกองทรัสต์ (TR) เปิดเผยว่า มีกองทรัสต์มากถึงกว่า 683 หน่วย ที่ได้รับการจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของกัมพูชา โดยคิดเป็นมูลค่ารวม 1.22 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ โดยว่า 580 หน่วย ได้รับการจดทะเบียนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของภาคส่วนดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นและความเข้าใจของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติตลอดจนความต้องการของภาคการธนาคารในการสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501392880/nearly-700-trusts-registered-with-1-22-billion/

‘เศรษฐา’ เดินหน้าหาเงินเข้า ปท. อ้อนนักลงทุน เจรจาหลายชาติในเวที ‘เอเปก’

นายเศรษฐา กล่าวถึงการหารือทวิภาคี กับนายคิชิดะ ฟูมิโอ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 ว่า ได้หารือเรื่องของความสัมพันธ์ที่มีมานาน 50 ปี และหารือเรื่องการใช้รถยนต์สันดาป โดยตนให้ความมั่นใจกับทางญี่ปุ่นไปว่าจะไม่ทอดทิ้ง มีการพูดคุยกันว่าให้การประกอบรถยนต์สันดาปของญี่ปุ่น และกระบวนการจัดการผลิตอยู่ได้ ขณะที่รถไฟฟ้า (อีวี) ที่มีความต้องการสูง และได้พูดในหลายเวทีว่าประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยสูงที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จึงต้องมาดูแลช่วยเหลือกัน และทางญี่ปุ่นยืนยันว่าธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจสำคัญและจะพัฒนาต่อในประเทศไทย และในระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังพูดคุยอีกหลายเรื่อง เช่น ฟรีวีซ่าสำหรับนักธุรกิจของสองประเทศ ที่ทั้งสองฝ่ายมีการตกลงเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็นต้องขอ เพื่อให้นักธุรกิจ ติดต่อธุรกิจและไปมาหาสู่สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ไทยมุ่งเน้นเปิดโอกาสเศรษฐกิจใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรม เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งเปิดกว้างในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูง โดยไทยมีโครงการ Landbridge เพื่อเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ จึงอยากเชิญญี่ปุ่นมาร่วมมือในโครงการนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ญี่ปุ่น และภูมิภาค โดยนายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลไทยจะอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงด้านความมั่นคง ซึ่งยินดีที่ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศอย่างใกล้ชิดภายใต้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่ อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ

ที่มา : https://www.naewna.com/politic/769777

สปป.ลาว เตรียมเปิดแคมเปญการท่องเที่ยว ‘Visit Laos Year 2024’ สัปดาห์หน้า

นางสวนสะหวัน วิกนาเกตุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว แถลงข่าวเตรียมเปิดตัวแคมเปญ “Visit Laos Year 2024” ครั้งที่ 4 ภายใต้สโลแกน “สวรรค์แห่งวัฒนธรรมลาว ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์” และกำหนดให้ช้างเป็นสัตว์นำโชคสำหรับแคมเปญนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจะประกอบด้วย 79 กิจกรรม โดย 14 กิจกรรมเป็นกิจกรรมระดับชาติ และ 65 กิจกรรมจะดำเนินการในจังหวัดต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่หลากหลายระหว่างการท่องเที่ยวลาวตลอดทั้งปี 2567 ตั้งแต่การสำรวจโบราณสถานและวัดวาอาราม ไปจนถึงการเดินป่าอันเขียวชอุ่มและพายเรือคายัคไปตามแม่น้ำที่ใสราวคริสตัล นอกจากนี้ ยังจะมีโอกาสมากมายในการสัมผัสวัฒนธรรมลาว รวมถึงเทศกาล ดนตรี และการแสดงเต้นรำ ทั้งนี้ รัฐบาล สปป.ลาว หวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติและลาวอย่างน้อย 4.6 ล้านคน จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศลาวตลอดทั้งปี 2567 และคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://kpl.gov.la/EN/detail.aspx?id=78164

การค้าชายแดนจีน-เมียนมาร์ทะลุ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ เผยสถิติมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาร์และจีนเพิ่มขึ้น กว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม) ของปีการเงินปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 จากเดิม 1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2565-2566 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าการค้าชายแดนจีน-เมียนมาร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 708.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณนี้  อย่างไรก็ดี เมียนมาร์ทำการค้าข้ามพรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนผ่านทางด่านชายแดนมูเซ, ลแวแจ, ชินฉ่วยฮ่อ, กัมปติ และ เชียงตุง โดยมูลค่าการค้าชายแดนของแต่ละด่านอยู่ที่ 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, 703.123 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, 63.823 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, 41.093 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 4.992 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ ซึ่งมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ประมง แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และสินค้าอื่นๆ ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักได้แก่ สินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง สินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้า CMP

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sino-myanmar-border-trade-surpasses-us2-2-bln-in-past-7-months/#article-title