‘เวียดนาม’ ส่งแรงงานไปต่างประเทศ 10 เดือนแรกปีนี้ เกือบ 132,000 คน

กระทรวงแรงงาน และกิจการสังคมของเวียดนาม (MoLISA) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งแรงงานไปยังต่างประเทศ มากกว่า 132,000 คน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ โดยตัวเลขเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งปี อยู่ที่ระดับ 20% ทั้งนี้ จากกลุ่มแรงงานที่ส่งไปยังต่างประเทศ พบว่าแรงงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของแรงงานชาวเวียดนาม มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 67,550 คน ตามมาด้วยไต้หวัน (จีน) 50,960 คน, เกาหลีใต้ 6,000 คน และจีน 1,700 คน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-sends-over-132000-labourers-abroad-in-10-months/270880.vnp

หนังสือเชิญแสดงความสนใจ สำหรับสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเมียนมา ในความร่วมมือโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์

ในการจัดตั้งสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของเมียนมา คณะกรรมการกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาภายใต้กระทรวงพาณิชย์จะเรียกร้องให้มีการแสดงหนังสือความสนใจ (EOI) และมาตรการต่างๆ กำลังดำเนินการเพื่อจัดตั้งสมาคมหน่วยงานที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเมียนมา เพื่อร่วมมือกันในโครงการท่าเรือทะเลลึกนอกชายฝั่ง เขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ บริษัทที่เป็นของชาวเมียนมาจะถูกตรวจสอบเพื่อเข้าร่วมกลุ่มภายใต้กฎและข้อบังคับ โดยบริษัทจะต้องเป็นบริษัทเอกชนในประเทศหรือบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายบริษัทเมียนมาปี 2017 จะต้องดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่การจัดตั้งบริษัท และจะต้องถือแบบฟอร์มแยกบริษัทและใบรับรองการจดทะเบียนบริษัทที่ออกโดยคณะกรรมการการลงทุนและการจดทะเบียนบริษัท และต้อง ไม่ถูกระงับบนระบบทะเบียนออนไลน์ MyCO ของ DICA ทั้งนี้ บริษัทจะต้องจัดตั้งขึ้นมานานกว่า 10 ปีหรือต้องมีประสบการณ์ 5 ปีในกระบวนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จ หากนิติบุคคลถูกจัดตั้งขึ้นในรัฐยะไข่ ระยะเวลาในการจัดตั้งนิติบุคคลที่กำหนดจะผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปีจะต้องเท่ากับ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือจำนวนเทียบเท่าในสกุลเงินต่างประเทศหรือสกุลเงินท้องถิ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และจะต้องไม่ถูกขึ้นบัญชีดำหรือถูกตัดสิทธิ์โดยกระทรวง สภาเนปิดอว์ และรัฐบาล รวมทั้งบริษัทเหล่านั้นจะต้องจ้างพนักงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเพียงพอซึ่งสามารถให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่โครงการได้ แต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอเอกสารยืนยันว่าพวกเขาสามารถลงทุนอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้อเสนอ ต้องส่งรายงานงบการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพร้อมกับใบรับรองด้านภาษีจากสำนักงานสรรพากรที่เกี่ยวข้องด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/eoi-invited-for-myanmar-gde-consortium-in-kyaukphyu-sez-collaboration/#article-title

‘สปป.ลาว แสวงหาความร่วมมือจากอินโดนีเซีย’ ลุยส่งออกไม้แปรรูปไปสหภาพยุโรป

นายคำพล มูลละไม อธิบดีกรมตรวจสอบป่าไม้ กระทรวงเกษตรและป่าไม้ สปป.ลาว ร่วมประชุมกับคณะผู้แทนอินโดนีเซีย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดย สปป.ลาว มีความมุ่งหวังที่จะบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปไปยังสหภาพยุโรปที่เป็นลักษณะคล้ายกับการที่สหภาพยุโรปนำเข้าผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปจากอินโดนีเซีย สปป.ลาว จึงแสวงหาความร่วมมือจากอินโดนีเซีย เนื่องจากมองว่าอินโดนีเซียประสบความสำเร็จในการขยายตลาดส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปทำลายสถิติ ถึง 14.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลลัพธ์นี้นำไปสู่การลงนามข้อตกลงความร่วมมือโดยสมัครใจกับสหภาพยุโรป เพื่ออำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาตยกเว้นผลิตภัณฑ์ไม้ของอินโดนีเซีย จากกระบวนการตรวจสอบสถานะภายใต้กฎระเบียบของสหภาพยุโรป

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/11/08/laos-explores-growth-opportunities-in-wood-processing-industry-through-eu-regional-cooperation/

บลูมเบิร์กตีข่าว KBANK-SCB ร่วมประมูลซื้อกิจการ non-bank ในเวียดนาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารรายใหญ่ของไทย 2 แห่งซึ่งได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้เข้าร่วมการประมูลในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ Home Credit Vietnam ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้บริโภคของเวียดนาม ทั้งนี้ Home Credit Vietnam เป็นธุรกิจในเครือ Home Credit Group ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ของเนเธอร์แลนด์ โดย Home Credit Vietnam เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2551 ปัจจุบันมีพนักงานราว 6,000 คน และมีลูกค้า 12 ล้านราย โดยบริษัทมีสาขาจำนวน 9,000 แห่งในเวียดนาม โดยมีการปล่อยสินเชื่อให้กับรายย่อย รวมทั้งให้สินเชื่อสำหรับการผ่อนซื้อมอเตอร์ไซค์และสินค้าเพื่อผู้บริโภค

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/348816?fbclid=IwAR1gxRdFs4HKIX0L3VHoS1_vIyla6g2wMDPgpOdtANLruR_K8n0q1-HG4Po

‘ศก.ดิจิทัลเวียดนาม’ จ่อทำรายได้แตะ 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 68

จากรายงานของกูเกิล (Google) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามจะขยายตัว 20% ต่อปี ในช่วงปี 2566-2568 และมีแนวโน้มว่าจะทำรายได้สูงถึงประมาณ 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 นับว่าเป็นการเติบโตที่เร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่นาย Nguyen Binh Minh คณะกรรมการบริหารของสมาคมอีคอมเมิร์ซเวียดนาม (VECOM) คาดการณ์ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดิจิทัลมีพื้นฐานที่มั่งคง แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ ภาคธุรกิจต่างๆ ยังมีความมั่นใจในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอีคอมเมิร์ซ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัลของเวียดนาม จึงได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการตอบสนองความต้องการการพัฒนาของธุรกิจท้องถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-achieve-digital-economic-growth-of-around-us45-billion-by-2025-post1057628.vov

‘VinFast’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเวียดนาม ตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดร.มูลโดโก เสนาธิการประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ว่าบริษัท ‘VinFast’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม วางแผนที่จะก่อสร้างโรงงานในอินโดนีเซีย 18.6 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนการลงทุนดังกล่าว ทั้งนี้ สื่อของอินโดนีเซีย รายงานว่าในช่วงต้นเดือน ก.ย. ผู้บริหารของบริษัท VinFast ได้พบปะกับนายซุลกีฟลี ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ซึ่งให้คำมั่นที่จะอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานของผู้ผลิตรถยนต์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-ev-maker-vinfast-to-invest-12-billion-usd-in-indonesia/270825.vnp