“สนามบินเวียดนาม” เผย ม.ค. รองรับผู้โดยสาร ทะลุ 9.8 ล้านคน

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในเดือน ม.ค. สนามบินเวียดนามทั่วประเทศ รองรับผู้โดยสารมากกว่า 9.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.8% จากเดือนก่อนหน้า ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารต่างประเทศ มีจำนวน 2.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% ในขณะที่ผู้โดยสารภายในประเทศ มีจำนวน 7.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% จากเดือนก่อนหน้า อีกทั้ง สนามบินเวียดนามรองรับกับการขนส่งสินค้าได้ประมาณ 112,000 ตัน เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2565 นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลเต๊ด แต่ก็ไม่มีปัญหาความแออัดในสนามบิน โดยเฉพาะสนามบินโหน่ยบ่ายและเติ่นเซินเญิ้ต

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-airports-serve-more-than-98-million-passengers-in-january/247849.vnp

“ธนาคารเวียดนาม” เล็งจ่ายปันผลเป็นเงินสดครั้งแรก! ในรอบ 3 ปี

“TPBank” ธนาคารเวียดนาม ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 25% แทนการจ่ายปันผลเป็นหุ้นเหมือนปีที่ผ่านมา หมายความว่าผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผล 2,500 ดอง (0.11 เหรียญสหรัฐ) ต่อหุ้น และคาดว่าจะจ่ายปันผลในไตรมาสแรกของปีนี้ นับว่าเป็นธนาคารแห่งแรกที่จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในปี 2566 โดยก่อนหน้านี้ธนาคารเวียดนาม “Vietnam International Commercial Joint Stock Bank” หรือ VIB เปิดเผยว่าหากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและธนาคารแห่งรัฐ จึงสามารถดำเนินการจ่ายปันผลเป็นเงินสดสูงถึง 35% ของทุนจดทะเบียน ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผล 3,500 ดองต่อหุ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1480247/banks-plan-to-pay-cash-dividends-for-first-time-in-three-years.html

หอค้าเชียงใหม่ ผวา ‘นอมินีจีน’ ขยับลงทุนฮุบธุรกิจ ‘โรงแรม-ร้านอาหาร-สถานบันเทิง-ทัวร์’

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร สปา สถานบันเทิง และทัวร์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวจีนมายังเชียงใหม่และภาคเหนือ แต่นักลงทุนดังกล่าว ส่วนมากถือวีซ่าท่องเที่ยว จึงไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ได้เปรียบนักลงทุนท้องถิ่น เพราะต้นทุนต่ำกว่า ประกอบกับค่าเงินหยวนแข็ง ทำให้ได้เปรียบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น มีอำนาจซื้อและต่อรองสูงขึ้น ซึ่ง ททท.ประเมินว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่เชียงใหม่ และภาคเหนือ กว่า 2 ล้านคน โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การลงทุนแบบแอบแฝง หรือธุรกิจสีเทา ที่นำไปสู่อาชญากรรมข้ามชาติ และการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย อาทิ ยาเสพติด บ่อนกาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่บ่อนทำลายและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้นรัฐต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามจริงจัง พร้อมบังคับใช้กฎหมายการสงวนอาชีพคนไทยไม่ให้ต่างชาติลงทุน หรือประกอบอาชีพได้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ รักษาผลประโยชน์นักลงทุน ผู้ประกอบการในประเทศ และท้องถิ่น

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_3807262

10 เดือนของปีงบ 65-66 เมียนมาส่งออกข้าว ทะลุ 1.9 ล้านตัน

สหพันธ์ข้าวแห่งเมียนมา (MRF) เผย ในรอบ 10 เดือนของปีงบประมาณ 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565– เดือนมกราคม 2566) เมียนมาส่งออกข้าวและปลายข้าวไปแล้วกว่า 1.9 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากข้อมูลพบว่า 10 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณการส่งออกต่ำสุดอยู่ในเดือนกันยายน 2565 จำนวน 93,792 ตัน ส่วนปริมาณการส่งออกสูงสุดอยู่ในเดือนมกราคม 2566 จำนวน 268,835 ตัน โดยเมียนมาตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 10 ต่อปี อีกทั้งยังให้ความสำคัญในการส่งออกข้าวเกรดพรีเมียมมากขึ้น ที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกข้าวประมาณ 2 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศไปแล้วกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-1-9-mln-tonnes-of-rice-in-ten-months/

สปป.ลาว พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน หลังการเปิดประเทศ

ภาครัฐ-เอกชน ของสปป.ลาว เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังสปป.ลาว ถูกบรรจุในรายชื่อ 20 ประเทศที่จีนอนุญาตให้ธุรกิจทัวร์สามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศได้ โดย Ms. Darany Phommavongsa อธิบดีกรมการจัดการการท่องเที่ยว กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของสปป.ลาว กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว โรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประทศ เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการให้พร้อมรับการกลับมาของกรุ๊ปทัวร์จีน ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2565 จากข้อมูลของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) พบว่า เมื่อจีนได้เปิดประเทศให้ประชาชนสามารถเดินทางต่างประเทศได้เป็นปกติหลังยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ เชื่อว่าจะมีชาวจีนอย่างน้อย 3 ล้านคนเดินทางด้วยรถไฟสปป.ลาว-จีน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างหลวงพระบางซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ สปป.ลาวได้รับการจัดอันดับจากสื่อท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น CNN, National Geographic และ The Telegraph ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกประจำปี 2566

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten25_Laos_gears_y23.php

“เวียดนาม” เผยหนี้อสังหาฯ แตะ 1,200 ล้านล้านดอง

กระทรวงการก่อสร้าง เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 พบว่ายอดสินเชื่อคงค้างของภาคอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าสูงถึง 1,200 ล้านล้านดอง และภาระหนี้ดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากธนาคาร ประมาณ 800 ล้านล้านดอง และพันธบัตรอสังหาริมทรัพย์ 419 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ ในปี 2565 เพียงปีเดียว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้กู้เงิน 180.7 ล้านล้านดอง เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับโครงการที่อยู่อาศียและการพัฒนาเมือง โดยเงินกว่า 144.1 ล้านล้านดอง หรือคิดเป็น 18.16% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ถูกใช้ไปกับการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่เงินอีก 85.2 ล้านล้านดองถูกใช้ไปซื้อที่ดิน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/real-estate-sector-s-debt-hits-vnd1-200-trillion-2105830.html

S&P Global ชี้ “ภาคการผลิตเวียดนาม” เพิ่มขึ้น 6.6%

ตามข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence ระบุว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 6.6% ในปี 2566 อย่างไรก็ตามภาคอุตสาหกรรมยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายด้านในปีนี้ อาทิเช่น ยอดคำสั่งซื้อใหม่และการผลิตที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเวียดนาม อยู่ที่ระดับ 47.4 จุดในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 46.4 จุด ในเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นถึงภาวะที่ถดถอยอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ นาย Andrew Harker ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่าถึงแม้สภาวะอุปสงค์สำหรับบริษัทผู้ผลิตในเวียดนามจะยังคงเผชิญกับความท้าทายในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งนำไปสู่การลดลงของผลผลิต คำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน แต่ก็มีสัญญาณเชิงบวกจากผลการสำรวจดัชนี PMI และหนึ่งในปัจจัยบวกสำคัญในเดือนมกราคม คือ ยอดคำสั่งส่งออกใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://en.baophuyen.vn/1/52010/vietnam%E2%80%99s-industrial-production-to-rise-6-6-in-2023–s-p-global.html

ญี่ปุ่นรับเปิดรับแรงงานเมียนมา กว่า 1,000 คน

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำกรุงโตเกียว เผย บริษัทญี่ปุ่น 312 แห่งจะเริ่มเปิดรับสมัครแรงงานเมียนมาจำนวน 1,043 คน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 31 มกราคม 2566 สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาได้ทำการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องในการจัดตั้งบริษัทและโรงงานของญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงส่งเอกสารที่รับรองแล้วไปยังกระทรวงแรงงานของเมียนมาเพื่อดำเนินการออกจดหมายอนุญาตให้กับบริษัทจำนวน 312 แห่งในการวางแผนรับสมัครแรงงานต่อไป

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/japanese-companies-to-recruit-over-1000-myanmar-workers/#article-title

สถานีรถไฟคำสะหวาด สปป.ลาว พร้อมเปิดให้บริการ

โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟคำสะหวาด ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟ สปป.ลาว-ไทย ในเวียงจันทน์ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการแล้ว โดยมีกำหนดจะเปิดให้ใช้บริการในอีกไม่ช้า ซึ่งสถานีตั้งอยู่ในหมู่บ้านคำสะหวาด ห่างจากสถานีท่านาแล้ง 7.5 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับจังหวัดหนองคายของประเทศไทย รายงานโดย Athipu Chitranukroh รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และรองอธิบดีกรมศุลกากร Kitjaluck Srinuchsart ในระหว่างการเยี่ยมชมสถานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง ซึ่งหลังจากการพูดคุยทางการ สปป.ลาว ได้พิจารณาที่จะเปิดสถานีในระหว่างการประชุมสุดยอดยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 10 ที่ สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ โดยความการดังกล่าวถือเป็นส่วนขยายที่ได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศไทย ผ่านสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 994.7 ล้านบาท (ประมาณ 235.6 พันล้านกีบ) ในจำนวนนี้ร้อยละ 30 อยู่ในรูปของเงินให้เปล่า และร้อยละ 70 เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten23_Khamsavath_y23.php

สมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมปอต รายงานการส่งออกพริกไทยลดลงร้อยละ 30.7 ในปี 2022

พริกไทยกัมปอต หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของสหภาพยุโรป ลดลงเกือบหนึ่งในสามในปี 2022 รายงานโดย Nguon Lay ประธานสมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมปอต (KPPA) ซึ่งกล่าวเสริมว่ากัมพูชาส่งออกพริกไทยเพียง 79 ตันในปีที่แล้ว ลดลงร้อยละ 30.7 จากปริมาณ 114 ตันในปีก่อนหน้า โดยกว่าร้อยละ 85 ของการส่งออกพริกไทยถูกส่งไปยังยุโรป และอีกร้อยละ 15 ถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อาทิเช่น สหรัฐฯ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันพริกไทยกัมปอตมี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สีดำ สีแดง และสีขาว โดยมีราคาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์, 25 ดอลลาร์ และ 28 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ตามลำดับ แต่ถึงอย่างไรกัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกพริกไทยไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการส่งออกพริกไทยกัมพูชาไปยังจีนในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501231393/kampot-pepper-promotion-association-says-cambodias-pepper-exports-declined-by-30-7-percent-in-2022/