6 เดือนแรกของงบประมาณย่อย 64-65 การค้าชายแดนเกาะสอง แตะ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ปีงบประมาณย่อย 2564-2565 การส่งออกจากชายแดนเกาะสองกับประเทศไทยในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 161.695 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อน 21.249 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 163.564 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อการค้าระหว่างเมียนมาและไทยในปีงบประมาณ 2562-2563 มีมูลค่าเพียง 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีงบประมาณ 2561-2562 โดยมีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 5,117.913 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/229173

Q1/2022 กรมศุลกากรกัมพูชารายงานการจัดเก็บภาษีเกือบ 600 ล้านดอลลาร์

กรมศุลกากรและสรรพสามิตของกัมพูชา (ACC) รายงานการเก็บภาษี ณ ไตรมาส 1 ปี 2022 ที่มูลค่า 2,428.6 พันล้านเรียล หรือเทียบเท่ากับ 597.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 23.2 ของแผนที่กำหนดไว้ประจำปี 2022 โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2021 ลดลง 61.2 พันล้านเรียล หรือร้อยละ 2.5 ซึ่งแบ่งออกเป็นรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 943.8 พันล้านเรียล (เทียบเท่ากับร้อยละ 38.9 ของรายได้ทั้งหมด), ภาษีธุรกิจเฉพาะ 894.9 พันล้านเรียล (เทียบเท่ากับร้อยละ 36.8 ของรายได้ทั้งหมด), ภาษีศุลกากรจำนวน 436.3 พันล้าน เรียล (เทียบเท่าร้อยละ 18 ของรายได้ทั้งหมด), ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมีจำนวน 100.9 พันล้านเรียล (เทียบเท่ากับร้อยละ 4.2 ของรายได้ทั้งหมด), ภาษีนำเข้า-ส่งออก และค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกจำนวน 52.8 พันล้านเรียล (คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของรายได้ทั้งหมด)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501059681/customs-collected-nearly-600-million-in-revenue-in-the-first-quarter-of-this-year/

กัมพูชาส่งออกยางเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2022

กัมพูชาส่งออกยางแห้งจำนวน 61,839 ตัน ในช่วงไตรมาสแรก (Q1) ของปี 2022 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่หากคิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 98.5 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.3 จากมูลค่า 99.8 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของ General Directorate of Rubber ซึ่งปัจจุบันยางแห้งหนึ่งตันมีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,594 ดอลลาร์ ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 42 ดอลลาร์ โดยกัมพูชาส่งออกยางแห้งไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์และจีนเป็นหลัก ในแง่ของการผลิตปัจจุบันกัมพูชาเพาะปลูกต้นยางบนพื้นที่ทั้งหมด 404,044 เฮกตาร์ ซึ่งต้นยางบนพื้นที่กว่า 310,193 เฮกตาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 77 สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501059622/cambodias-rubber-export-slightly-up-in-q1-hut-value-drops/

เทศกาลปีใหม่กัมพูชา คึกคักต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 4.6 ล้านคน

ทางการกัมพูชารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเกือบ 4.6 ล้านคน ในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์สามวัน (ปีใหม่กัมพูชา) แบ่งออกเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา 4.5 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกเกือบ 30,000 คน โดยสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ จังหวัดพระตะบอง (565,618 คน), กำปงจาม (514,447 คน), เสียมราฐ (400,591 คน), บันทายมีชัย (388,273 คน), ไพรเวง (382,867 คน), กำปงสปือ (331,809 คน), ภูษัต (298,037 คน), กำปงชนัง (275,400 คน), กำปอต (254,270 คน), พระสีหนุ (232,264 คน) และพนมเปญ (222,220 คน)

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/nearly-46m-tourists-logged-cambodia-over-khmer-new-year

ปริมาณการค้ากัมพูชา Q1 แตะ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้ากัมพูชาแตะ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการส่งออกของกัมพูชายังคงเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ซึ่งปริมาณการส่งออกในไตรมาสแรกแตะระดับ 5.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 จากมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 7.4 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยจาก 7.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นการขาดดุลทางด้านการค้าในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ โดยในปี 2021 ปริมาณการค้าของกัมพูชาแตะ 48,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการส่งออกมีมูลค่าอยู่ที่ 19.30 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 28.70 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.3 ตามข้อมูลของ GDCE

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/cambodias-q1-trade-volume-hits-over-13b

โครงการพัฒนาชนบทครอบคลุม 126 หมู่บ้าน ของเมืองมะริด เขตตะนาวศรี

ปีงบประมาณ 2565-2566 กรมพัฒนาชนบท เมืองมะริด เขตตะนาวศรี กำลังเร่งดำเนินโครงการพัฒนาชนบทใน 126 หมู่บ้าน โดยจะเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างถนนและสะพาน การประปาและไฟฟ้า โครงการหมู่บ้าน emerald green โครงการกองทุนหมุนเวียน โครงการพัฒนาชนบทและหลักสูตรวิชาชีพด้านอาชีวศึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับเศรษฐกิจสังคมของชุมชน ซึ่งในช่วงปีงบประมาณปัจจุบัน มีการเร่งพัฒนาโครงการ ได้แก่ ถนน 5 สาย, สะพาน 13 แห่ง, โครงการประปา 37 โครงการ, หมู่บ้าน emerald green 4 แห่ง, โครงการพัฒนาชนบทใน 72 หมู่บ้าน, และหลักสูตรการฝึกวิชาชีพ ที่จะใช้งบประมาณกว่า 1.977 พันล้านจัต

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/e-paper/

น้ำมันขึ้นราคา กีบอ่อน ทำร้ายผู้ผลิตลาว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ รายงานวิจัยระบุว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิง ก๊าซ และอาหารสัตว์ขึ้นราคา จากข้มูลระบุว่าราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 28% จาก 77.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ สิ้นปี 2564 เป็น 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนเมษายน 2565 อีกทั้งการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของเงินกีบ จากรายงานเงินกีบอ่อนค่าลง 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ 5% เมื่อเทียบกับเงินบาทข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและการอ่อนค่าของ kip เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อในสปป.ลาว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.25% ในเดือนมกราคมเป็น 8.54% ในเดือนมีนาคมทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นส่งผลให้ราคาในตลาดสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อหมู ปลา และผัก สร้างความลำบากให้กับประชาชนทั่วไป เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจสปป.ลาวที่กำลังฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างช้าๆ จากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten73_rising.php

‘เวิลด์แบงก์’ เผยการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจสำคัญ

ตามรายงาน “Vietnam Macro Monitoring” ของเวิลด์แบงก์ (ธนาคารโลก) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาส 1/2565 ขยายตัว 5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคการส่งออกและบริการที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค. ขยายตัว 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เทียบเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ในขณะการค้าระหว่างประเทศ พบว่าเดือน มี.ค. เวียดนามเกินดุลการค้า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งของสงครามรัสเซีย-ยูเครน นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค. นับเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 7 เดือน แต่ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย (4.0%)

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11407902-vietnam%E2%80%99s-economic-growth-driven-by-good-recovery-of-sectors-wb.html

 

‘ฟู้ดเดลิเวอรี’ปีนี้ส่อโต 7.9 หมื่นล.

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 7.9 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารก็หันมาใช้ช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเห็นได้จากจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บฟู้ดที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 800% (เปรียบเทียบจากช่วงสิ้นปี 2562 จนถึงปี 2564) จนมีจำนวนมากกว่า 200,000 ร้านในปัจจุบัน

ที่มา: https://www.naewna.com/business/648201