สปป.ลาวตื่นตัว Omicron Covid-19 Variant

หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งชาติสปป.ลาว Taskforce  กล่าวว่าประเทศอยู่ในการแจ้งเตือนระดับสูงสำหรับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B1.1.529 ที่มีชื่อเรียกว่า “โอไมครอน” ซึ่งตรวจพบเจอครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ตามคำแถลงของ Taskforce เมื่อวานนี้ ตัวแปรใหม่นี้สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าและสามารถทำลายเซลล์ภูมิต้านทานได้ดีกว่าไวรัสตัวเก่า ขณะนี้หน่วยเฉพาะกิจของลาวได้เรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติมจากโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยกล่าวว่าตัวแปรดังกล่าวอาจปรากฏในประชากรเมื่อใดก็ได้ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด ด้านรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับตัวแปร Omicron และตัดสินใจว่าควรใช้มาตรการใหม่เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามหรือไม่ ทั้งนี้หากมีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์นี้ จะไม่เพียงแค่ผลกระทบด้านสาธารณะสุขแต่ยังร่วมไปถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเปาะบางอย่างมากของสปป.ลาวก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจครั้งใหญ่

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/11/29/laos-on-alert-for-omicron-covid-19-variant/

กัมพูชารายงานภาวะการณ์ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชารายงานถึงสถิติการอนุญาตลงทุน จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่ารวม 39,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเทศจีนถือเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในกัมพูชามากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 17.3 พันล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 44.2 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ด้านเกาหลีใต้รองลงมาด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 4.1 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยเวียดนามที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และสิงคโปร์ด้วยเงินลงทุน 2.4 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ โดยไทยเข้ามาลงทุนในกัมพูชาด้วยมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติรวม 1.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศส่วนใหญ่ครอบคลุมภาคการเกษตร โรงงานการผลิตและแปรรูป ภาคการเงิน โรงแรมและร้านอาหาร การก่อสร้าง เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ และอสังหาริมทรัพย์ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50978345/cambodia-registers-39-billion-in-fdis-during-first-six-months/

ไทยแอร์เอเชีย เตรียมกลับมาให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-พนมเปญ

หลังจากทางการกัมพูชาประกาศยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนด ซึ่งทางแอร์เอเชียได้ประกาศเริ่มให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไปยังพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม กำหนดเที่ยวบินไว้ที่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือในวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ซึ่งค่าโดยสารรวมสำหรับสมาชิก BIG เริ่มต้นที่ 1,690 บาทต่อเที่ยว จองได้ตั้งแต่วันที่ 18-28 พ.ย. สำหรับการเดินทางในวันที่ 22 ธ.ค.-25 มี.ค. โดยกัมพูชาอนุญาตให้บุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก อย่างน้อย 14 วัน ก่อนออกเดินทางและมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ส่วนสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมายังกัมพูชา แต่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ก็ยังคงต้องถูกกักตัว เป็นเวลา 14 วัน ถึงจะออกเดินทางภายในประเทศได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50977872/bangkok-phnom-penh-flights-by-thai-air-asia-to-resume-in-december/

‘เวียดนาม’ ได้เปรียบต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

นาย Nguyen Bich Lam อดีต ผอ.สนง.สถิติแห่งชาติเวียดนาม ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามมีพื้นที่เพียงพอต่อการเข้ามาลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เทียบกับคู่แข่งรายใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงการผลิตทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งในปี 2563 เวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุน FDI กว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เม็ดเงินลงทุน FDI มีมูลค่า 23.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการผลิตและการแปรรูปยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มองเวียดนามว่าอยู่ในฐานะส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลก นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นสมาชิกของข้อตกลงการค้าหลายฉบับ ได้แก่ CPTPP, EVFTA และการค้าทวีภาคีหลายฉบับของเวียดนามกับสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-boats-advantages-in-foreign-investment-attraction/216208.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผยยอดการลงทุนจากต่างประเทศใหม่ 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปีนี้

ตามรายงานทางสถิติของสำนักงานการลงทุนต่างประเทศภายใต้กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศใหม่ที่ได้รับอนุมัติ 2.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือน พ.ย. ส่งผลให้ยอดการลงทุนตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. อยู่ที่ 26.46 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปีนี้ ตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศจะสูงถึง 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และสิงคโปร์ มีความเชื่อมั่นต่อสภาพแวดล้อมทางการลงทุนของเวียดนามและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังวิกฤติโควิด-19 นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ยังคงเป็นสาขาที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด ด้วยเม็ดเงินลงทุนราว 14 พันล้านเหรียญสหรัฐ (53% ของทุนจดทะเบียน) รองลงมาภาคการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/new-foreign-investment-approvals-seen-hitting-us30-billion-this-year/

 

ราคาถั่วดำตลาดมัณฑะเลย์ พุ่งสูง !

ราคาถั่วดำพุ่งเป็น 152,000 จัตต่อถุง ในปีนี้ เพิ่มจากปีแล้ว 120,000 จัตต่อถุง จากการที่ฤดูเก็บเกี่ยวมาเร็วกว่าปีก่อนทำให้ผลผลิตทะลักเข้าสู่ตลาดมัณฑะเลย์ดันราคาให้สูงขึ้น ถั่วดำหรือนี้เรียกอีกอย่างว่าถั่วนาดอ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และยุโรป และการที่ชายแดนกำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ ดังนั้นผู้ค้าจากจีนจะต้องกลับเข้ามารับซื้ออย่างแน่นอน จากสถิติของกรมศุลกากรเมียนมา ณ วันที่ 20 ส.ค.64 ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกถั่วดำมากกว่า 48,336 ตัน ซึ่งสร้างรายได้กว่า 26.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/fresh-black-eyed-peas-enter-mandalay-market-at-high-price/#article-title

ชี้โควิดพันธุ์ใหม่ กระทบเศรษฐกิจไทยจำกัด

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวถึงความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งตัวลงอย่างรุนแรง ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ทรุดตัวลงเช่นเดียวกัน เบื้องต้นคาดกระทบบต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินไทยอย่างจำกัดในระยะแรกหากควบคุมไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศได้และองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆ ได้ร่วมมือกันในการจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในเฉพาะ 6 ประเทศในแอฟริกา ซึ่งหากสำรวจดูพบว่า 5 ปีที่ผ่านมา (2559-2563) การค้าระหว่างไทยกับประเทศในทวีปแอฟริกาใน มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 9,861 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.50% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย ประเทศไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ามาตลอด

ที่มา: https://www.naewna.com/business/618808

พาณิชย์ดันใช้ประโยชน์ FTA ส่งอาหาร-เกษตรแปรรูปบุกจีน

พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ DTN Business Plan Award 2021″ชี้ช่องโอกาส บุกตลาดด้วย FTA” ว่า การดำเนินโครงการครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่เกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปของไทย จะใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการค้าบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายส่งออกสินค้าไปตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดคู่ FTA ของไทย ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2564 นี้ ได้ย้ำให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มุ่งเน้นให้ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการค้าและโอกาสขยายส่งออกไปตลาดคู่ FTA ของไทย โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน-จีนที่จีนได้ลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ให้กับสินค้าส่งออกจากไทยแล้ว เช่น อาหาร เกษตร และเกษตรแปรรูป เป็นต้น รวมถึงใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2565 ขยายส่งออกสินค้าของไทยไปกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP ด้วย

ที่มา : https://www.naewna.com/business/618221