เส้นทางด่วนวังเวียง – หลวงพระบางได้รับการอนุมัติแล้ว

เมื่อเร็ว ๆ นี้รัฐบาลได้ให้การอนุมัติทางด่วนวังเวียง – หลวงพระบางตามแผนที่วางไว้ซึ่งเป็นทางหลวงที่จะย่นระยะการเดินทางระหว่างจุดท่องเที่ยวทั้งสองให้เหลือประมาณ 90 นาที ทางด่วนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนเวียงจันทน์ – บอเต็นความยาว 460 กิโลเมตร ตามแผนซึ่งจะเชื่อมเวียงจันทน์ไปยังโบเตนที่ชายแดน สปป.ลาว – ​​จีน นอกจากนี้เมื่อได้รับการอนุมัติหน่วยงานท้องถิ่นผู้พัฒนาจะขออนุมัติจากกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลจะต้องการพิจารณาหลายปัจจัยในการตัดสินใจและอนุมัติเส้นทาง เพราะจะต้องคำนึงถึงการลดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมรวมถึงเพิ่มผลตอบแทนทางเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vangvieng222.php

เกษตรกร สปป.ลาวเรียกร้องรัฐบาลช่วยเหลือช่องทางการจัดจำหน่ายพืชผล

เกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือในการหาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพื่อขายผลผลิต คำขอดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างงานแสดงความรู้เครือข่ายเกษตรกรสปป.ลาวและการประชุมสมัชชา งานนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 150 คนรวมถึงตัวแทนเกษตรกร 120 คนจากทั่วประเทศ สถาบันการศึกษา ศูนย์วิจัยการเกษตร องค์กรระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีรองอธิบดีกรมส่งเสริมวิชาการและแปรรูปเกษตรและประธานเครือข่ายเกษตรกรลาว (LFN) เป็นประธาน การประชุมครั้งนี้ได้รับทุนจากโครงการ LURAS ความท้าทายมากมายที่เกษตรกรต้องเผชิญที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเราและขยายความช่วยเหลือในการหาตลาดใหม่เพื่อขายผลผลิตของเราและเพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตจะได้ราคาที่ดีรมถึง การจ่ายภาษีที่แตกต่างกันระหว่างอำเภอและจังหวัด ความต้องการเงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับค่าไฟฟ้าของเกษตรกร  และต้องการการสนับสนุนระบบชลประทานและแหล่งน้ำพุธรรมชาติเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีในพื้นที่ชนบท  กิจกรรมดังกล่าวสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมพัฒนาทักษะการเพาะปลูก เทคนิคใหม่ในการทำการเกษตรที่ลดแรงงาน แต่เพิ่มการเก็บเกี่ยวรวมทั้งนโยบายพิเศษสำหรับเกษตรกรรวม 25 เรื่อง เช่นเทคนิคการเกษตรชื่อ“ beautiful wife rice” การวิจัยนโยบายเกี่ยวกับนโยบายการเก็บภาษีเกษตร เป็นต้น ซึ่งได้รับการแบ่งปันให้กับผู้เข้าร่วม

ที่มา :  http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Farmers222.php

กัมพูชาเริ่มเข้าใกล้ความเป็นจริงสำหรับเทคโนโลยี 5G ภายในประเทศ

Cellcard ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Royal Group of Companies ได้ลงนามในกรอบข้อตกลงที่สำคัญกับ ZTE Corporation สำหรับการเปิดตัว 5G และการเพิ่มความครอบคลุม 4G ทั่วกัมพูชา โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการลงทุนที่สำคัญ ซึ่งจะกำหนดให้กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในภูมิภาคสำหรับการนำ 5G มาใช้ภายในประเทศ โดย Cellcard ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ของ Royal Group ซึ่งเป็นการสนับสนุนโดยตรงต่อนโยบายของรัฐบาลสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ชาวกัมพูชาทุกคนได้รับประโยชน์จากข้อได้เปรียบของการใช้ชีวิตในสังคมดิจิทัลในปัจจุบันของคนกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/782058/the-kingdom-comes-a-step-closer-to-5g/

ปริมาณสินเชื่อสำหรับผู้บริโภคภายในประเทศกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น

การขอสินเชื่อสำหรับการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 53 ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี ตามรายงานโดยเครดิตบูโรกัมพูชา (CBC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลเครดิตโซลูชัน การวิเคราะห์และบริการรายงานเครดิตแก่ธนาคารสถาบันการเงินรายย่อย โดยการขอสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้สวนทางกับการลดลงของการขอสินเชื่อในไตรมาสที่ 2 ของปีเมื่อเทียบกับตัวเลขในไตรมาสแรก ซึ่ง ณ เดือนกันยายน 2020 พอร์ตสินเชื่อของ PRASAC อยู่ที่ 2.862 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.43 เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยประกอบไปด้วยสินเชื่อธุรกิจร้อยละ 64.31 และอีกร้อยละ 35.69 เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล จากรายงานของ CBC อัตราส่วนของการชำระคืนล่าช้าภายใน 30 วันหลังจากวันครบกำหนด ณ เดือนกันยายน 2020 เท่ากับร้อยละ 2.42 สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลลดลงจากร้อยละ 2.64 ในเดือนมิถุนายน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50782059/big-rise-in-consumer-credit-bids-seen-as-recovery/

เวียดนามเผยการส่งออกปลาสวาย 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้

สมาคมผู้ผลิตปลาสวายของเวียดนาม  (VTFA) เปิดเผยว่าในปีนี้ มูลค่าการส่งออกของภาคการแปรรูปปลาสวายของเวียดนามรวม อยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ยอดการส่งออกของปลาสวายลดลงถึง 1.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจในประเทศจึงต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพของสินค้าและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้กับวิธีการเพาะพันธุ์ปลาและส่งเสริมช่องทางการขายใหม่ รวมถึงยกระดับแบรนด์ของปลาสวายเวียดนาม ทั้งนี้ ทางสมาคม ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกของเวียดนามขึ้นอยู่กับตลาดจีนเป็นสำคัญ ก่อนที่จะขายไปยังตลาดรัสเซียและสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ธุรกิจในประเทศยังต้องเผชิญกับอุปสรรค ทั้งด้านเทคนิคและกฎระเบียบใหม่ที่กำหนดจากจีน พร้อมทั้งข้อกำหนดจากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA)

ที่มา : https://vnexplorer.net/tra-fish-exports-eye-us1-5-billion-turnover-this-year-a2020121926.html

รัฐสภาเวียดนามเผยเศรษฐกิจโต 6% ปี 2564

สมัชชาแห่งชาติ หรือรัฐสภาเวียดนาม มีมติอนุมัติแผนเศรษฐกิจและสังคม ปี 2564 นับว่าเป็นหนึ่งใน 12 เป้าหมายที่สำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมในปีหน้า ด้วยเสียงสนับสนุน (89.21%) เมื่อวันที่ 11 พ.ย. อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการประชุมนั้น สมาชิกสภาค่อนข้างแสดงความกังวลต่อเป้าหมายของการเติบโต GDP ร้อยละ 6 เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังเสนอให้ตั้งเป้าต่ำกว่าร้อยละ 5.5-6 ซึ่งการตั้งเป้าหมายของการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 6 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล ทั้งนี้ สมัชชาแห่งชาติคาดว่าจะมีมาตรการในการรับมือต่อปัญหานี้เสียที่รุนแรง โดยรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างสถาบันสินเชื่อ รวมถึงธนาคารที่อ่อนแอ เพื่อความปลอดภัยของระบบธนาคาร นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลจัดสรรทรัพยากร เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสต่อไป โดยเฉพาะภาคการผลิต บริการ ท่องเที่ยวและการบิน รวมถึงผู้คนตกงานและผู้ที่มีรายได้ลดลง

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-economy-to-grow-6-in-2021-parliament-314788.html

ผลสำรวจของเวิลแบงค์ COVID-19 รอบสองในเมียนมาส่งผลกระทบรุนแรงกว่าครั้งแรก

การสำรวจล่าสุดของธนาคารโลกซึ่งเป็นครั้งที่ 4 จาก 8 ชุดที่ได้วางแผนไว้ โดยสำรวจในเดือนกันยายนและครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของธุรกิจในประเทศ 500 ตัวอย่าง ร้อยละ 66 พบว่าไม่มีความพร้อมในการรับมือและธุรกิจการเกษตรขนาดเล็กและขนาดเล็กมีความพร้อมน้อยที่สุด ร้อยละ 83 ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 75 ของเดือนสิงหาคม บริษัททุกขนาดประสบปัญหาปิดตัวชั่วคราวเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนหลังจากที่รัฐบาลออกคำสั่งห้ามออกจากที่พักสำหรับธุรกิจในย่างกุ้ง ส่วนภาคเกษตรกรรมมีการปิดกิจการเพิ่มขึ้น ยอดขายที่ลดลงยังเป็นที่น่ากังวลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจากการสำรวจจพบว่า ยอดขายลดลงร้อยละ 93 ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากเดือนสิงหาคม อีกทั้งปัญหาด้านเงินทุนจะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทมากขึ้นในเดือนกันยายน มีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่ยื่นฟ้องล้มละลายและปลดคนงานออกรวมถึงมีปัญหาด้านการชำระสินเชื่อตามมา จากรายงานยังพบว่าธุรกิจการเกษตรเกือบครึ่งหนึ่งและหนึ่งในสามของบริษัทค้าปลีกและค้าส่งมีแนวโน้มว่าในอีกสามเดือนข้างหน้าจะเริ่มมีการค้างการชำระสินเชื่อ การระบาดของ COVID-19 รอบสองในเมียนมา มีผลให้บริษัทต่างๆ มีความมั่นใจน้อยลงในการเปิดกิจการต่อเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/covid-19-second-wave-more-severe-local-firms-first.html

ทางด่วนเลียบชายฝั่งอิระวดีเริ่มก่อสร้างในปีนี้

จากรายงานของกระทรวงการก่อสร้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอิระวดีภายใต้ธนาคารโครงการของเมียนมา (Project Bank)  ซึ่งเป็นทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเขตอิรวดีและรัฐยะไข่ จะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐและแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 66-67 โครงการนี้จะเป็นการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งความยาว 274 กม. จากเขตอิรวดีไปยังรัฐยะไข่ เมื่อสร้างเสร็จจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและความปลอดภัยบนทางด่วน การก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งจะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตรและประมงจากเขตอิระวดีและภูมิภาคอื่น ๆ ใกล้เคียงไปยังท่าเรือสำคัญเพื่อการส่งออก ช่วยลดเวลาในการเดินทางและช่วยให้เข้าถึงชายหาดที่มีชื่อเสียงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังกระตุ้นการพัฒนาโครงการโรงแรมและรีสอร์ทตามแนวชายฝั่งในภูมิภาค นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงการให้บริการอย่างเช่น สุขภาพ การศึกษา และโอกาสเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น Myanmar Project Bank เป็นแพลตฟอร์มบนเว็บที่ออกแบบมาเพื่อเน้นโครงการลงทุนที่สอดคล้องกับการปฏิบัติตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมียนมา (Myanmar Sustainable Development Plan 2014 – 2030: MSDP) โดยสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ www.projectbank.gov.mm ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดที่สอดคล้องกับการดำเนินการตามแผน MSDP โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสร้างระบบที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส ซึ่งเชื่อมโยงโครงการลงทุนที่สำคัญกับแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม ธนาคารโครงการเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ มีโครงการทั้งหมด 58 โครงการ ส่วนในเดือนสิงหาคมมีการเพิ่มโครงการอีก 71 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 7.9 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-ayeyarwady-coastal-expressway-start-year.html

เวียดนาม-สปป.ลาวจะเปิดประตูพรมแดนอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและเวียดนามหารือผ่านโทรศัพท์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือระดับภูมิภาคก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 สปป.ลาวแสดงความยินดีกับเวียดนามที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและกล่าวถึงการที่เวียดนามก้าวขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2020 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในภูมิภาค ผู้นำทั้งสองยืนยันว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์มิตรภาพที่พิเศษนี้และความร่วมมือที่ครอบคลุมระหว่างสองชาติพวกเขายังได้พูดถึงการประสานงานทวิภาคีในประเด็นสำคัญ ๆ เช่นการเมืองความมั่นคงประเทศเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนและการพัฒนาด้านการศึกษา ท้ายที่สุดของหารหารือยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการอำนวยความสะดวกให้กับการไหลเวียนของสินค้าและผู้โดยสารระหว่างสองประเทศ ดังนั้นในไม่ช้าจึงบรรลุฉันทามติในแผนการเปิดประตูพรมแดนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งและเปิดเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ต่อไปพร้อมกับดำเนินความร่วมมือที่สำคัญอย่างมีประสิทธิผลเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnam-laos-hope-to-reopen-mainland-border-gates-and-resume-commercial-flights-soon-25777.html

รัฐบาลกัมพูชาตั้งกองทุนพิเศษสำหรับรองรับฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้

ธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทเพื่อการเกษตร (ARDB) ได้เริ่มสนับสนุนกองทุนพิเศษมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ให้กับโรงสีและผู้ส่งออกข้าวเพื่อทำการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในกัมพูชาในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ โดยผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทเพื่อการเกษตร (ARDB) กล่าวว่าเงินสนับสนุนจะถูกปล่อยออกมาทีละช่วง ซึ่งในช่วงแรกปล่อยออกมาประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ แล้วจะค่อยๆกระจายยอดไปในระหว่างการเก็บเกี่ยว โดยเกษตรกรขายข้าวเปลือกให้กับ Amru ในราคาที่ 1,620 เรียลต่อกิโลสำหรับข้าวคุณภาพดีที่สุดและ 1,580 เรียลต่อกิโลสำหรับเกรดรองลงมา ซึ่งรายได้รวมจากการส่งออกข้าวของกัมพูชาแตะ 366.44 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2020 ตามรายงานของ CRF อยู่ที่ 536,035 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกัมพูชาทำการส่งออกข้าวส่วนใหญ่ไปยังตลาดเวียดนามอย่างไม่เป็นทางการมากกว่า 2 ล้านตันต่อปี ตามตัวเลขจากกระทรวงเกษตรกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50781705/special-fund-keeps-rice-harvests-on-firm-track-despite-heavy-floods/