แอป WavePay มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน

WavePay แอปชำระเงินบนมือถือของ Wave Money มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.1 ล้านรายต่อเดือนโดยมีมูลค่าการโอนเงินสูงถึงเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 9 เดือนแรกของปี 63 ซึ่งคิดเป็นการเติบโตโดยเฉลี่ย 162% ตั้งแต่เดือนมกราคม 63 ซึ่งรวมถึงเงินกว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่โอนไปยังผู้ได้รับผลกระทบในชนบทจากกองทุน COVID-19 ของรัฐบาล ตั้งแต่เดือนมีนาคมผู้ที่ได้รับผลกระทบหลายแสนคนรวมถึงคนงานตัดเย็บเสื้อผ้า ข้าราชการ และเกษตรกรได้รับเงินฉุกเฉินในรูปแบบดิจิทัลโดยใช้ WavePay ซีอีโอของ Wave Money กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกของกาใช้เงินผ่านมือถือและรูปแบบการชำระเงินดิจิทัลมาใช้ในเมียนมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Wave Money ยังจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับตัวแทนจำนวน 46 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 63 รายงานปี 2562 สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) ระบุว่าลูกค้าใช้บัญชีเงินมือถือบ่อยขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประจำวัน เมื่อสิ้นปีที่แล้ว 35.8% ของบัญชี 372 ล้านบัญชีมีการใช้งาน 90 วัน บัญชีเงินมือถือที่ใช้งานได้ถูกกำหนดให้เป็นบัญชีที่ใช้ในการทำธุรกรรมอย่างน้อยหนึ่งรายการในช่วงเวลา 30 วันหรือ 90 วัน GSMA คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 จำนวนบัญชีลูกค้าเงินมือถือต่อเดือนจะเกิน 370 ล้านบัญชี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/wavepay-app-reaches-more-1-million-active-users.html

ธปท.คุยเศรษฐกิจไทยดี เปิดเมือง-มีวันหยุดยาว-รัฐกระตุ้นใช้จ่าย

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย. ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเกือบปกติในหลายภาคส่วน และจากปัจจัยชั่วคราวคือวันหยุดยาวพิเศษประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ขณะที่ไตรมาส 3/63 เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากหดตัวสูงในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งจากการประกาศวันหยุดยาวพิเศษเพื่อชดเชยช่วงสงกรานต์ที่เลื่อนมา ด้านปัจจัยด้านรายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภคทยอยปรับดีขึ้น สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไป คือ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในต่างประเทศ การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน แม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีความเปราะบาง ความยั่งยืนของการฟื้นตัวภาคยานยนต์ โดยมองว่า การฟื้นตัวอย่างช้าๆของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า จะเป็นปัจจัยกดดันภาคยานยนต์ในระยะต่อไป และความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า “แนวโน้มในไตรมาส 3 มองว่าจะปรับดีขึ้นและติดลบน้อยลงกว่าไตรมาส 2 อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้จะต้องรอติดตามในรายละเอียดอีกครั้ง และในไตรมาส 4 มองว่าจะทยอยฟื้นตัวได้” นางสาวชญาวดีกล่าว.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/1965659

เวียดนามนำเข้าข้าวเปลือกจากกัมพูชา 1.4 ล้านตัน

กระทรวงเกษตรของกัมพูชา เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกข้าวเปลือกมากกว่า 1.4 ล้านตันไปยังเวียดนาม การส่งออกดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากจังหวัดกันดาล, ไพรแวง, สวายเรียง, ตาแก้ว, พระตะบองและกำปอต ในขณะที่ การเก็บเกี่ยวข้าวในปี 2562-2563 กัมพูชาผลิตข้าวเปลือก 10.88 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาไม่ต้องการที่จะหยุดการส่งออกข้าวไปเวียดนาม เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีตลาด ทั้งนี้ ทางเลาขาธิการสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวว่าข้าวเปลือกที่ส่งออกไปยังเวียดนาม ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวอายุสั้นที่ใช้ระยะเวลาในการเติบโต 3 เดือน นอกจากนี้ กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกข้าวมากกว่า 2.7 ล้านเฮกตาร์ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดอุทกภัยทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายมากกว่า 213,000 เฮกตาร์ ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวเปลือกของกัมพูชาไปยังเวียดนามลดลง

  ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-imports-14-mln-tonnes-of-cambodian-rice-paddy-814397.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกคอมพิวเตอร์และเครื่องจักร พุ่ง 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ณ วันที่ 15 ต.ค. เผยว่ามูลค่าการส่งออกโดยรวมของเวียดนามสูงถึง 215.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าส่งออกสำคัญ 5 รายการที่มีมูลค่าราว 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน, คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องจักร ชิ้นส่วนและรองเท้า ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ อยู่ที่ 34.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2562 อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดส่งออกของเวียดนาม ชี้ให้เห็นว่าคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบที่ส่งออกไปยังจีน มีมูลค่า 8.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและฮ่องกง ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เครื่องจักรและชิ้นส่วน มีมูลค่า 19.568 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 5.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 7.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 121 รองลงมาสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและจีน ตามลำดับ

ที่มา : https://customsnews.vn/exports-of-computers-and-machines-increase-nearly-13-billion-16326.html

“จุรินทร์” เดินหน้าช่วย SMEs ทำตลาด ผลักดันขายออนไลน์-ส่งออกต่างประเทศ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน Smart SME Expo 2020 ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย คิดเป็น 95% ของผู้ประกอบการทั้งประเทศ ให้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้นตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” โดยจะเข้าไปช่วยเหลือทางด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลักสูตรของกระทรวงพาณิชย์มีทั้งหลักสูตรพื้นฐาน หลักสูตรธรรมดา ปานกลาง และหลักสูตรเข้มข้น ที่จะอบรมให้เข้าใจจนลึกซึ้ง สุดท้ายจะค้าขายได้และส่งออกได้ และโอกาสการเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้าในต่างประเทศจะเปิดพื้นที่ 10-15% เป็นโอกาสให้ SMEsจัดแสดงสินค้าในตลาด CLMV และมาเลเซีย เปิดพื้นที่ให้ SMEs ในภาคต่างๆ ได้มีโอกาสมาแสดงสินค้าในงานของกระทรวงพาณิชย์  ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เซลส์แมนประเทศไปเจรจากับผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ แล้วจับคู่ธุรกิจในประเทศไทยและลงนามสัญญาซื้อขาย ทำให้ส่งออกได้ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ได้ลงนาม MOU ร่วมกับหัวเว่ย ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะช่วยนำเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งเทคโนโลยี 5G , IoT และระบบคลาวด์ มาพัฒนาภาคการผลิตและภาคการตลาดให้กับ SMEs ของไทย นอกจากนี้ ยังมีนโยบายผลักดันให้เด็ก GenZ เป็น CEO โดยจะช่วยให้มีความรู้ในการทำธุรกิจและการค้าขายออนไลน์ ตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะทำให้ได้ 12,000 คน โดยได้เริ่มต้นไปแล้วมหาวิทยาลัยในภาคเหนือ 7 มหาวิทยาลัย จัดอบรมชุดแรกไปแล้ว 1,500 คน จะทำต่อไปในภาคอื่น เพื่อให้เป็นทัพหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศยุคโควิด-19 และหลังโควิด-19 ในอนาคต และกลุ่มนี้ถ้าไม่ไปทำสตาร์ทอัพ ก็ต้องมาทำ SMEs สุดท้ายก็จะมาเป็นกำลังสำคัญให้แก่ประเทศต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9630000112238

เวียดนามเผยดัชนี CPI เดือนต.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนามในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.09 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.47 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ ดัชนี CPI เฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559-2563 ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากค่าบริการทางการศึกษาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เพิ่งเกิดขึ้นในภาคกลางของเวียดนาม สำหรับสินค้าและบริการ 11 รายการนั้น มีเพียง 6 รายการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การศึกษา เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.35 รองลงมาที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้าง, เครื่องดื่มและบุหรี่, เสื้อผ้าและสิ่งทอ, ยาและบริการทางการแพทย์ รวมทั้งบริการบำรุงรักษาและบริการซ่อมบำรุงบ้าน นอกจากนี้ ราคาทองคำในประเทศมีความผันผวนตามดัชนีราคาทองคำโลกในเดือนต.ค. ลดลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.91 เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.07 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และร้อยละ 1.88 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/cpi-for-october-records-slight-increase-813722.vov

เวียดนามทำสถิติเกินดุลการค้า 18.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานประจำเดือนของสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในเดือนต.ค. เวียดนามเกินดุลการค้าประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ทำสถิติเกินดุลการค้าสูงถึง 18.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค.-ต.ค. ปีนี้ ทั้งนี้ ในเดือนต.ค. มูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนาม ประมาณ 26.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ มูลค่าการนำเข้า ประมาณ 24.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ีที่แล้ว 10.1 เมื่อเทียบก9 เมื่อเทียบกับปีมขึ้นร้อยละ 0.07 เมื่อเทียบกับเดือ.91 เมื่วเพิ่มขึ้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามมีสินค้าส่งออก 31 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91.8 ของยอดส่งออกรวมและอีก 5 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในเดือนม.ค.-ต.ค. สหรัฐฯยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 62.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาจีนและสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นแหล่งซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 65.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเกาหลีใต้และอาเซียน

  ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-trade-surplus-hits-new-record-of-us1872-billion-in-10-month-314653.html

พาณิชย์เมียนมาประกาศรายชื่อใบอนุญาตนำเข้าสินค้ากว่า 4,000 ชนิด

จากประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ตอนนี้ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าสำหรับสินค้าประมาณ 4,000 ชนิดในเมียนมา ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ธันวาคม 63 นี้ สินค้ารวม 3,931 ประเภทรวมถึง สัตว์มีชีวิต เนื้อสัตว์และปลา น้ำมันพืช ผักและพืชผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากป่า เครื่องดื่ม แร่ธาตุ เคมี ยางรถยนต์และเครื่องจักรจะต้องยื่นขอใบอนุญาตนำเข้าภายใต้รหัสศุลกากรปี 2560 โดยในบรรดาสินค้า 3,931 รายการที่ต้องใช้ใบอนุญาตนำเข้าสามารถยื่นแบบฟอร์มได้ทางออนไลน์

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-commerce-ministry-declares-import-license-list.html