บริษัทญี่ปุ่นเตรียมลุยขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม

จากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร (JETRO) เปิดเผยว่ากว่าร้อยละ 64 ของบริษัทญี่ปุ่นในเวียดนาม มองว่ากำไรเป็นแรงจูงใจในการขยายธุรกิจไปยังประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปีที่แล้ว นักลงทุนขาวญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในเวียดนามอยู่ที่ 2.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 655 โครงการ ซึ่งจำนวนโครงการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับปี 2561 ประกอบกับในปี 2562 นักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 66 ได้กำไรจากการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม นอกจากนี้ สงครามการค้ามีผลต่อการขยายตัวของการออกไปลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนาม รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในการลงทุนและการทำธุรกิจของเวียดนามที่เป็นส่วนสำคัญในการขยายธุรกิจของญี่ปุ่น ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) ระบุว่ามูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ณ วันที่ 20 ธ.ค.62 อยู่ที่ 38.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี หากจำแนกรายเมือง/จังหวัดเวียดนาม พบว่ากรุงฮานอยดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด รองลงมานครโฮจิมินห์ ตามลำดับ อีกทั้ง เกาหลีใต้และญี่ปุ่นยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/japanese-firms-wish-to-scale-up-business-in-vietnam/167422.vnp

ยอดการค้าระหว่างเวียดนามกับจีน ทะลุ 117 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกและนำเข้ารวมอยู่ที่ 517.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าอยู่ที่ 264.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 253.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 สำหรับยอดเกินดุลการค้าในปีที่แล้วอยู่ที่ 11.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งนี้  จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.6 ของยอดการค้ารวมในปีที่แล้ว) อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากการนำเข้าสินค้าจากจีนเติบโตอย่างมาก ขณะที่ เวียดนามส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้น ดุลการค้าระหว่างเวียดนามกับจีน จึงขาดดุลการค้ามากกว่า 34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/571193/viet-nam-china-import-export-turnover-reaches-117-billion.html

เมียนมาปรับปรุงสนามบินฟะลัมด้วยระบบนำทาง

สนามบินฟะลัม Falam (Surbung) ซึ่งเป็นประตูสู่รัฐชินได้รับการยกระดับด้วยระบบนำทางที่ใช้สำหรับสนามบินในพื้นที่ที่เป็นภูเขาตามที่กรมการบินพลเรือนของเมียนมา (DCA) ระบุ การก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 63-64 และเครื่องบิน ATR-72 ชนิดต่างๆ สามารถลงจอดได้ สนามบินตั้งอยู่ในใจกลางของรัฐชิน มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการนำทางที่จะติดตั้ง เช่น สถานีวิทยุเครื่องช่วยการเดินอากาศ (DVOR) , เครื่องมือตรวจอากาศอัตโนมัติ (AWOS), ตัวบ่งชี้เส้นทางแม่นยำ (PAP), ไฟทางวิ่ง, สัญญาณไฟหมุน, ระบบ HF และ VHF โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนของรัฐ กระทรวงของบประมาณ 141,112,000,000 จัต สำหรับโครงการนี้ซึ่งจะรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศและขอสินเชื่อในปีงบประมาณ 62-63 ปี ในปัจจุบันมีรันเวย์ยาวกว่า 4,000 ฟุตจาก 6,000 ฟุตของสนามบินที่สร้างเสร็จ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/falam-airport-upgrades-with-navigation-facilities

โรงถลุงเหล็กในเมียนมากำลังรอการลงทุน

กระทรวงแผนงาน การเงิน และอุตสาหกรรม กำลังมองหาการการลงทุนจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่สนใจลงทุนโรงงานเหล็กของมยินจาน เมืองมยินจานในเขตมัณฑะเลย์ ซึ่งมีกำลังการผลิต 1.8 ล้านตันต่อปี ตอนนี้นิติบุคคลของรัฐที่ดำเนินงานในมยินจาน คือ Heavy Industrial Enterprise กำลังมองหานักลงทุนเข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 225 พันล้านจัตในการดำเนินการรวมทั้งนักลงทุนกำลังหาทางช่วยโรงงานให้เสร็จและดำเนินการ ปัจจุบันมีการนำเข้าเหล็กถึง 90% ของประเทศและอีก 10% มาจากการผลิตเองในท้องถิ่น สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณการว่าความต้องการใช้เหล็กของเมียนมาจะยังคงขยายตัวในอัตรา 8% ต่อปีโดยความต้องการใช้เหล็กในประเทศอาจเกิน 3 ล้านตันในปี 2563 และสูงถึง 5 ล้านตันในปี 2568

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/state-owned-steel-mill-seeks-investors.html

กองทุนคุ้มครองสิ่งแวดล้อมส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในสปป.ลาว

กองทุนคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมอบเงิน 1.4พันล้านกีบเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในหกพื้นที่เป้าหมายโดยโครงการนี้จะทำงานร่วมกับ National Academy of Politics และ Public Administration วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อการสนับสนุนนโยบายกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมรวมถึงการจัดการแผนการคุ้มครองป่าอื่น ๆ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เขตพื้นที่ต่างๆมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาตอย่างยั่งยืนเป็นผลดีในการท่องเที่ยวที่จะช่วยดึงดูดต่างชาติให้มาเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจต่อไปในภายภาคหน้า

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Environment12.php

กรมประปาร่วมมือองค์กรระหว่างประเทศพัฒนาระบบประปา

กรมน้ำประปาภายใต้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งมีเป้าหมายที่จะขยายโครงการประปาทั่วประเทศในปีนี้หลังจากประสบความสำเร็จในปี 62 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาระบบประปากรมประปายังคงร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้เงินกู้ประมาณ 44 ล้านเหรียญสหรัฐจากกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (สาธารณรัฐเกาหลี) และเงินทุน 28.3 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย โดยแผนจะมีการก่อสร้างและซ่อมแซมระบบท่อและระบบจ่ายน้ำในแต่ละแขวงรวมถึงการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการสุขาภิบาลที่จะเป็นโครงการต่อเหนื่องต่อไป ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ภาคน้ำและสุขาภิบาล 10 ปี (2559-2568) และแผนสุขาภิบาลห้าปี (2559-2563) เป็นการพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสปป.ลาวเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในประเทศและอุตสหกรรมผลิตต่างๆที่จำเป็นต้องมีระบบประปาที่ดีและได้มาตราฐานเพื่อช่วยลดข้อจำกัดต่างๆในอดีตที่มีปัญหาทั้งเรื่องของน้ำไม่พอ และไม่สามารถจ่ายน้ำได้ไปทั่วประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Water_12.php

นายสมคิดมอบนโยบายจัดทำงบฯ แบบบูรณาการ ชี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม มอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายแบบบูรณาการประจำปี 2564 ว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ทุกภาคส่วนจะต้องทำงานกันแบบบูรณาการ โดยรัฐบาลจะมุ่งเน้นงบประมาณในการจัดทำระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุน โดยมอบหมายให้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ติดตามงบประมาณเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ให้ผันงบประมาณมาลงทุนใน 3 แห่ง

ที่มา : https://mgronline.com/uptodate/detail/9630000004979

กัมพูชานำเข้าก๊าซธรรมชาติ LNG จากบริษัทในประเทศจีน

Natural Gas Co Ltd ของกัมพูชา และบริษัทจีน CNOOC Gas Power Group Co Ltd ร่วมมือกันในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อจัดจำหน่ายภายในตลาดกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทกล่าวว่าความร่วมมือในการนำเข้าก๊าซ LNG เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ในตลาดท้องถิ่นเนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงแรมและร้านอาหารในแผนขั้นแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่บริหาร Natural Gas ของกัมพูชากล่าวว่าตู้บรรจุก๊าซ LNG ถูกส่งจากจีนและมาถึงที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ของกัมพูชาแล้ว โดยความต้องการการบริโภค LNG ในกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของการใช้ LNG ในประเทศอื่นๆ ซึ่งบริษัทวางแผนที่จะขยายไปยัง 25 เมืองหลวงของกัมพูชา ปัจจุบันได้มุ่งเน้นไปที่กรุงพนมเปญและจังหวัดพระสีหนุ ตามสถานทูตจีนในกัมพูชา บริษัท CNOOC Gas & Power Group จำกัด ร่วมมือกับกลุ่มกัมพูชา Natural Gas เพื่อบรรลุการส่งออกก๊าซธรรมชาติของจีนไปยังประเทศกัมพูชาเป็นครั้งแรก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50680059/lng-imported-from-china-to-cambodia

พันธบัตรรัฐบาลกำลังที่จะเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้กัมพูชา

เจ้าหน้าที่อาวุโสของตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) กล่าวว่าพันธบัตรรัฐบาลคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้กัมพูชาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยซีอีโอของ CSX กล่าวว่าทีมงานต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้มีการออกพันธบัตรรัฐบาลในอีกไม่นาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายเช่นกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินธนาคารแห่งชาติกัมพูชาและตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา อาจจะใช้เวลาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยพันธบัตรที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้วจะนำมาซึ่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่ออุตสาหกรรมหลักทรัพย์ของกัมพูชาโดยรวม ซึ่งถือเป็นหลักทรัพย์ที่มีเสถียรภาพมากที่สุดและจะดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่ให้ลงทุน เช่นประกันการธนาคารและสถาบันของรัฐ รวมถึงกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ โดยรองผู้อำนวยการทั่วไปของอุตสาหกรรมการเงินกระทรวงการคลังกล่าวว่าก่อนหน้านี้หลักทรัพย์รัฐบาลจะทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาสกุลเงินต่างประเทศและเป็นส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินตามนโยบายการเงินของประเทศเป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50680050/govt-bond-to-enter-the-local-exchange